พูดภาษาญี่ปุ่น ให้คล่องได้ภายใน 3 เดือน
เจ๊เอ๊ดเอา 5 วิธีเก่งภาษาญี่ปุ่นได้ใน 3 เดือนมาฝาก สำหรับใครที่จำเป็นต้องเรียนภาษาญี่ปุ่นให้ได้ภายในระยะเวลาจำกัด หรืออยากจะเก่งภาษาญี่ปุ่นเร็วๆ วิธีเหล่านี้จะช่วยให้เราได้พัฒนาสกิลได้เร็วแบบไม่รู้ตัวเลยล่ะ!
พูดภาษาญี่ปุ่น ให้คล่อง ต้องมีคลังคำศัพท์มากพอ
สิ่งสำคัญที่จะทำให้ พูดภาษาญี่ปุ่น ได้คล่องก็คือการที่รู้ “คำศัพท์” มากเพียงพอค่ะ เพราะถ้าเรารู้คำศัพท์เยอะ ก็จะสามารถดึงคำมาใช้อธิบายได้ แม้ไวยากรณ์จะผิด จะเพี้ยนไปบ้างก็อย่าเพิ่งไปซีเรียสมากนักค่ะ
มีวิธีการมากมายในการท่องจำคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมโยงเสียงของคำศัพท์ในภาษาญี่ปุ่นกับเสียงคำที่คล้ายๆ กันในภาษาไทย การใช้บัตรคำศัพท์โดยเน้นการจดจำรูปภาพ การท่องจำคำศัพท์คู่ตรงข้าม หรือคำศัพท์ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน ฯลฯ
เจ๊เอ๊ดเองก็บอกไม่ได้ว่าวิธีไหนดีกว่าวิธีไหน เพราะแต่ละคนก็ถนัดกันคนละแบบ
แต่สำหรับใครที่ลองทำตามวิธีข้างต้นมาหมดแล้ว ยังไง๊ ยังไงคำศัพท์ก็ไม่ยอมเข้าหัวสักที จำได้แค่แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ลืม…
งั้นเจ๊เอ๊ดขอเสนออีกหนึ่งเทคนิคไว้เป็นตัวเลือก นั่นคือการท่องจำคำศัพท์เป็นประโยค โดยลองหาตัวอย่างประโยคภาษาญี่ปุ่นที่มีคำนั้นอยู่ อาจจะหาจากพจนานุกรมญี่ปุ่น-ญี่ปุ่น หรือเสิร์ชหาตัวอย่างประโยคจากกูเกิลก็ได้ จากนั้นก็ท่องจำมันทั้งประโยคไปเลย!
วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราจดจำคำศัพท์คำนั้นได้ขึ้นใจ แต่ยังช่วยให้เราเรียนรู้วิธีการใช้ที่ถูกต้องด้วย ซึ่งหลายคนพูดตรงกันว่า วิธีนี้ช่วยให้จำแม่นและจำเร็วมากกว่าท่องคำศัพท์ทีละคำเสียอีกค่ะ
อยาก พูดภาษาญี่ปุ่น ให้คล่อง ต้องอย่าแปล…เปลี่ยนการฟัง-คิด-พูดเป็นไทย ให้กลายเป็นญี่ปุ่น
หลายคนอาจจะเคยได้ยินหรือเคยใช้เทคนิคนี้ในการฝึกภาษาอังกฤษมาบ้าง… เจ๊เอ๊ดบอกเลยว่า เทคนิคนี้ใช้กับการฝึก พูดภาษาญี่ปุ่น ได้ด้วยเหมือนกันค่ะ
เคล็ดลับสำคัญคือ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้ยินประโยคภาษาญี่ปุ่นผ่านเข้าหูมา อย่าพยายามแปลมันออกมาเป็นภาษาไทยแบบคำต่อคำอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าเราประมวลผลมันออกมาเป็นไทยแล้ว เวลาเราจะตอบโต้กลับไปอีกครั้ง เราก็มักจะคิดคำตอบเป็นภาษาไทยโดยอัตโนมัติ
แล้วจากนั้นสมองของเราก็จะเริ่มแปลจากภาษาไทยไปเป็นภาษาญี่ปุ่นอีกที กลับไปกลับมาแบบนี้หลายรอบ ทำให้กว่าจะพูดออกมาได้แต่ละประโยค เล่นเอาเหงื่อตกทั้งคนถามคนตอบเลยละค่ะ…
เพราะอย่างนี้เลยทำให้การ พูดภาษาญี่ปุ่น ของเราไม่ลื่นไหลสักที
ลองมาฝึกใหม่ดูนะคะ ต่อไปนี้ถ้าได้ยินคำศัพท์หรือประโยคภาษาญี่ปุ่น ต้องพยายามแปลมันออกมาเป็นไทยให้น้อยที่สุด หรือถ้าไม่แปลได้เลยก็ยิ่งดีค่ะ ลองเปลี่ยนมาฝึกทำความเข้าใจความหมายของคำศัพท์หรือประโยคต่างๆ ด้วยการจินตนาการเป็นภาพหรือเป็นเรื่องราว
ส่วนเวลาคิดก็ให้พยายามคิดเป็นภาษาญี่ปุ่น จากนั้นก็พูดออกมาเลย โดยไม่ปล่อยให้ภาษาไทยเข้ามาแทรกในหัว
เชื่อเถอะค่ะว่า วิธีนี้จะช่วยให้ภาษาของเราพัฒนาได้เร็วขึ้นอีกเท่าตัวเลย
ฟังไป พูดไป…ได้ยินอะไรก็เลียนแบบทันที
มาพัฒนาการออกเสียงภาษาญี่ปุ่นให้เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นด้วยการพูดเลียนแบบกันดีกว่าค่ะ
จริงๆ แล้วเทคนิคนี้มีชื่อเรียกว่า “Shadowing” ซึ่งเป็นเทคนิคการฝึกพูดด้วยการเปล่งเสียงเลียนแบบให้เหมือนเสียงต้นฉบับมากที่สุด การฝึกพูดเลียนแบบบ่อยๆ ทุกวัน วันละแค่ 10-15 นาที จะช่วยให้เราพัฒนาวิธีการออกเสียงให้ดีขึ้นได้โดยไม่รู้ตัวเลยละค่ะ
วิธีการก็ง่ายแสนง่าย แค่เราหาหนังสือเรียนสนทนาภาษาญี่ปุ่นที่มีซีดีแถมมาด้วย จากนั้นก็ลองทำตามนี้…
1. เปิดฟังบทสนทนาในซีดี โดยที่ยังไม่ต้องเปิดหนังสืออ่าน
2. เปิดฟังบทสนทนาซ้ำ พร้อมกับอ่านบทสนทนาในหนังสือไปด้วยเบาๆ
3. เปิดฟังบทสนทนาซ้ำอีกครั้ง พร้อมอ่านบทสนทนาในหนังสือตามไปด้วย แต่คราวนี้ให้ออกเสียงดังๆ
4. ปิดหนังสือ แล้วฝึกพูดตามเสียงจากซีดีทันที
ลองฝึกไปอย่างนี้จนคล่อง แล้วจึงค่อยเปลี่ยนบทสนทนาใหม่…เท่านี้ก็ช่วยให้ทักษะการพูดของเราพัฒนาขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อแล้วละค่ะ
เสกเมืองไทยให้กลายเป็นญี่ปุ่น…
สร้างสิ่งแวดล้อมใหม่ อยู่ที่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหา
เทคนิคนี้หลายคนการันตีแล้วว่าเวิร์คจริง! ถึงตัวจะอยู่ไทย แต่ก็สามารถสร้างสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวให้เหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นได้หลายวิธีเลยละค่ะ ไม่ว่าจะเป็น…
- เปิดโทรทัศน์ช่อง NHK WORLD บ่อยๆ
- ดูทีวีญี่ปุ่น Online ดูรายการข่าว รายการวาไรตี้ เปิดทิ้งไว้เสมือนเรากำลังใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น
- ดูหนังหรือการ์ตูนภาษาญี่ปุ่นให้มากๆ แบบไม่พากษ์ไทย ไม่อ่านซับไตเติ้ลภาษาไทย พร้อมกับจดคำศัพท์ใหม่ๆ ให้ได้อย่างต่ำวันละ 10 คำ
- ฟังเพลงหรือพอดแคสต์ญี่ปุ่นให้มากๆ ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจความหมาย แต่อย่างน้อยก็ได้ฝึกฟังวิธีการออกเสียงที่ถูกต้อง
- ตั้งค่าโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ให้เป็นภาษาญี่ปุ่นซะ
- เขียนคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นแปะไว้บนสิ่งของต่างๆ ภายในบ้าน
- อ่านการ์ตูนง่ายๆ เช่น โดราเอมอน ชินจัง เนื่องจากการ์ตูนเหล่านี้มีคำศัพท์ที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันให้เรียนรู้มากมาย ฃ
- ติดตามเพจภาษาญี่ปุ่น หรือหาเพื่อนชาวญี่ปุ่นในโซเชียลมีเดียดูสักคน เพื่อฝึกฝนทักษะทางด้านการอ่าน นอกจากนี้เวลาจะโพสต์อะไร ก็ลองพิมพ์ทั้งภาษาไทยและภาษาญี่ปุ่นควบคู่กัน คิดซะว่าพิมพ์ให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นของเราได้อ่านด้วยก็ได้ค่ะ
ลองเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ ถ้าจะให้ดี…ลองจับเอากิจกรรมต่างๆ เหล่านี้เข้าไปอยู่ในตารางเวลาของตัวเอง เพื่อให้การฝึกภาษาดูเข้มข้นจริงจังมากขึ้น เช่น ทุกวันตอนเช้าระหว่างแต่งตัวและกินข้าวก็เปิดโทรทัศน์ช่อง NHK คลอไปด้วย ระหว่างเดินทางไปเรียนหรือไปทำงานก็เปิดเพลงภาษาญี่ปุ่นฟัง ช่วงระหว่างวันที่มีเวลาว่างก็เข้าไปอ่านบทความในเพจภาษาญี่ปุ่น เมื่อกลับมาบ้านก็อ่านหนังสือทบทวนภาษาญี่ปุ่นสัก 1 ชั่วโมง และก่อนนอนก็เปิดซีรีส์ภาษาญี่ปุ่นดูเพื่อคลายเครียด เป็นต้น
ท่องเอาไว้ว่า ยิ่งมีวินัยกับตัวเองมากเท่าไหร่…ภาษาของเรายิ่งพัฒนาได้มากเท่านั้นค่ะ
หลักสูตรเร่งรัดช่วยได้…
เรียนในไทย แต่ใช้หลักสูตรแบบเดียวกับญี่ปุ่นเป๊ะ
การเรียนภาษาญี่ปุ่นให้เป็นเร็วนั้นจำเป็นต้องฝึก ฝึกและฝึกตัวเองบ่อยๆ เท่านั้นค่ะ ซึ่งนอกเหนือจากการฝึกฝนด้วยตัวเองตามเทคนิคทั้ง 4 ข้อข้างต้นแล้ว…
ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลเช่นเดียวกัน นั่นก็คือการลงเรียนหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นแบบเร่งรัด Intensive 1 ของ Jeducation เพื่อให้มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นเทียบเท่าระดับ N5 ในช่วงเวลาประมาณ 2 เดือนครึ่งเท่านั้น
หลักสูตร Intensive 1 นี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก่อนเลย โดยเจ๊เอ๊ดจะ
✔ปูพื้นการเรียนไวยากรณ์ระดับต้น จากหนังสือเรียน Minna no Nihongo ให้ตั้งแต่บทที่ 1 – 25
✔ เน้นทักษะเพื่อการนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
✔ เหมาะสำหรับปรับตัวก่อนไปเรียนที่ญี่ปุ่นจริงๆ เพราะมีเนื้อหาและเทคนิคการเรียนการสอนที่เข้มข้น จริงจัง แบบเดียวกับที่ญี่ปุ่นเป๊ะ คือมีทั้งการบ้าน แบบฝึกหัด การทดสอบย่อย การเตรียมบทเรียนล่วงหน้า กิจกรรมฝึกพูด ฯลฯ
✔ มีชั่วโมงเสริมเพื่อการเตรียมตัวใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นอีกด้วย โดยจะได้เรียนรู้ทั้งเรื่องมารยาทและข้อควรรู้ในการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น การใช้ Application โทรศัพท์เพื่อการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น การหางานพิเศษที่ญี่ปุ่น เป็นต้น
หลักสูตรนี้ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 212 ชั่วโมง โดยจะได้เรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่ากับที่ญี่ปุ่น (วันจันทร์-ศุกร์ วันละ 4 ชั่วโมง) บอกได้เลยค่ะว่า ใครได้เรียนหลักสูตรนี้แล้ว พอไปญี่ปุ่นจริงๆ แทบไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวกับวิธีการเรียนของที่นั่นเลย
✔ สำหรับผู้ที่จะไปเรียนภาษาที่ญี่ปุ่น #เจ๊เอ๊ด ก็จะออกหนังสือรับรองการเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ Jeducation Center ซึ่งมีข้อมูลการเรียนอย่างถูกต้องครบถ้วนเป๊ะ ตามที่ทางกองตรวจคนเข้าเมืองระบุ
หลังจากจบหลักสูตร ถ้าใครมีผลการสอบตลอดหลักสูตรไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ก็จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากโรงเรียนไปด้วย
ตรวจสอบตารางเรียนคลิกที่นี่
อยาก พูดภาษาญี่ปุ่น แบบคนญี่ปุ่น
เรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาทักษะภาษาให้ใช้ได้จริงกับ Jeducation Center
- ได้ฝึกสนทนาภาษาญี่ปุ่น เพื่อการใช้งานได้จริง ไม่ใช่การท่องจำ
- ได้เรียนภาษาญี่ปุ่นแบบเดียวกับที่ญี่ปุ่น
- คุ้นชินกับภาษาญี่ปุ่นตลอดเวลา เข้าใจได้โดยไม่ต้องพยายามแปล
- ได้เพื่อนใหม่ นักเรียนต่อห้องที่จำกัดจำนวน ทำให้นักเรียนสนิทสนมกัน
- เลือกหลักสูตรที่สอดคล้องกับเป้าหมายของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเพื่อการเรียนต่อระดับสูง การสอบวัดระดับ งานอดิเรก หรือเพื่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน
- มั่นใจในคุณภาพ สถาบันผ่านการรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ
- เรียนสะดวก เลือกได้ทั้งแบบสดออนไลน์ หรือ เรียนที่สถาบัน
สำหรับผู้มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้ว สามารถเข้าทดสอบระดับภาษา เพื่อวัดระดับชั้นเรียนที่เหมาะสำหรับตัวคุณได้ ฟรี
คลิกเพื่อดูวิธีทำแบบทดสอบวัดระดับ
บทความที่ท่านอาจสนใจ
- ทำอย่างไร เมื่อรู้สึก “หมดไฟ” ในการเรียนภาษาญี่ปุ่น
- กฎเหล็ก 5 ข้อ ที่จะทำให้พูดภาษาญี่ปุ่นเก่งขึ้นใน 3 เดือน!
- เรียนภาษาญี่ปุ่นมาตั้งนาน ทำไมพูดไม่ได้?
- พูดคนเดียว วิธีฝึกสมอง คิดเป็นภาษาญี่ปุ่น ช่วยพัฒนาสกิลสนทนาภาษาญี่ปุ่นแบบก้าวกระโดด
โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น – ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น เจเอ็ดดูเคชั่น
แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นทุกระดับ โดยศิษย์เก่าญี่ปุ่น ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน โดยไม่คิดค่าดำเนินการใด ๆ รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)
โทร. 02-267-7726
ปรึกษาเรื่องเรียนต่อญี่ปุ่น ต่อ 101-104
สอบถามคอร์สภาษาญี่ปุ่น ต่อ 111-112
ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับเจ้าหน้าที่ คลิกเลย >> http://bit.ly/jed-line