รับมืออย่างไร เมื่อรู้สึก หมดไฟ ในการเรียน ภาษาญี่ปุ่น

ไม่ว่าใครที่เก่งญี่ปุ่น พูดญี่ปุ่นคล่องราวกับเกิดที่นู่น แทบทุกคน จะต้องผ่านการเรียนภาษาญี่ปุ่นสุดตรากตรำมาก่อนทั้งนั้นค่ะ

คนอึดบางคนอาจจะเรียนไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดอะไรได้ แต่ว่าสำหรับบางคนแล้ว เมื่อเรียนภาษาญี่ปุ่นไปสักพัก จะเข้าสู่ภาวะหนึ่งแสนหดหู่ แม้แต่พี่ๆ ทีมเจ๊เอ๊ดเองที่พูดญี่ปุ่นกันได้เก่งๆ ทุกวันนี้ ต่างก็ผ่านจุดนั้นมาอย่างยากลำบากเหมือนกันค่ะ

นั่นคือ “ภาวะ หมดไฟ ในการเรียน” นั่นเอง

ความจริงก็คล้ายๆ กับภาวะ หมดไฟ ในการทำงาน หรือ Burnout Syndrome นั่นล่ะ ที่เกิดจากความเครียดในการทำงาน จนเหนื่อยล้าทางอารมณ์ เบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไรแล้ว

สำหรับการเรียนภาษาญี่ปุ่น อาการที่เกิดขึ้นก็จะออกมาในรูปแบบคล้ายกัน คือ ไม่อยากเรียนแล้ว รู้สึกว่าความสนุกในการเริ่มต้นเรียนตอนแรกหายไป กลับกลายเป็นความท้อแท้ ทั้งคำศัพท์ คันจิ ไวยากรณ์ อะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ เรียนของใหม่แล้วก็ลืมของเก่า

 

บางคนเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า

หรือเราจะไม่มีความสามารถในด้านนี้ ?
นี่เรากำลังทำอะไรอยู่ ?
เรียนเท่าไหร่ก็คงไม่เก่งหรอก !!

 

จะบอกว่าเรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยค่ะ เป็นเรื่องที่เกิดกันแทบทุกคน แน่นอนว่าเพราะภาษาญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทั้งคำศัพท์ ไวยากรณ์ ไหนจะคันจิ เรื่องที่ต้องจำให้ได้แทบจะถล่มทับตัวเราอยู่แล้ว เจ๊เอ๊ดเข้าใจค่ะ

บทความนี้เลยจะรวบรวมวิธี “ปลุกไฟ” ให้กลับมาฮึดกันอีกครั้ง โดยก็ไม่ใช่วิธีจากใครที่ไหน แต่เป็นวิธีจากพี่ๆ ทีมเจ๊เอ๊ด ที่ปัจจุบันผ่าน N1-N2 มากันแล้ว โดยใช้วิธีเหล่านี้ช่วยให้ตัวเองผ่านจุดท้อแท้มาได้ค่ะ

หมดไฟ ไปหาแรงบันดาลใจ

1. กลับไปหาแรงบันดาลใจแรก ที่ทำให้ชอบภาษาญี่ปุ่นอีกครั้ง

เจ๊เอ๊ดเชื่อว่าการที่เราจะตัดสินใจเรียนภาษาที่สามสักภาษา ต้องไม่ใช่การหลับตาจิ้ม หรือหมุนวงล้อเลือกแน่นอนใช่มั้ยคะ

บางคนเกิดจากการ ชอบฟังเพลงญี่ปุ่น ชอบดารา ชอบอนิเม มังงะ หรือไปเที่ยวแล้วเกิดติดใจในภาษาญี่ปุ่นขึ้นมา ก็หยิบเรื่องนั้นขึ้นมาค่ะ

เช่น ถ้าชอบฟังเพลง ลองกดเปิดเพลงแรกเพลงนั้นที่ทำให้เราชอบจนอยากเรียนภาษาญี่ปุ่น ขึ้นมาฟังอีกครั้งดู ขอบอกว่านอกจากความรู้สึกดีๆ กับภาษาญี่ปุ่นจะกลับมาแล้ว ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงอีกอย่างนึงเลยก็คือ ..

เราจะเริ่มฟังเพลงนั้นรู้เรื่องแล้วค่ะ~

และความรู้สึกนี้แหละ ที่จะพาเราลืมทุกความเหนื่อยที่ผ่านมา และค้นพบว่าเราเหนื่อยมาขนาดนี้ นี่ไงล่ะผลลัพธ์ เราเก่งขึ้นแล้วนะ!

ถ้า หมดไฟ ให้ลองหาไอดอล

2. หาไอดอล

เวลาทำอะไรสักอย่าง การมีสิ่งยึดเหนี่ยว จำเป็นอย่างคาดไม่ถึงจริงๆ นะ

ให้เรายกใคร หรืออะไรสักอย่างที่เราชื่นชม มาเป็นตัวอย่างให้เรา ไม่ต้องไกลตัวก็ได้ค่ะ จะเป็นรุ่นพี่คนนึงที่เป็นล่ามที่เก่งมากและเราปลื้มเขา หรือจะเป็นไอดอลญี่ปุ่น (2D, 3D หรือสามี ภรรยาในมโนได้หมด) ให้เราคอยนึกว่า

 

“พี่เขายังทำได้เลย เราก็ต้องทำได้บ้าง”
“สักวันจะฟังที่น้องOOเค้าพูดรู้เรื่องให้ได้เลย”

 

(บางคนสไตล์เจ้าคิดเจ้าแค้นหน่อย จะเอาคนที่เคยดูถูกเรามาเป็นแรงผลักดัน อย่าง “ฉันจะไม่ยอมเป็นอย่างที่เคยโดนดูถูกหรอก” ก็ได้เหมือนกัน)

ข้อนี้ฟังดูออกจะสไตล์ติ่งนิดๆ แต่ขอกระซิบว่าพี่ๆ หลายคนที่ประสบความสำเร็จ ต่างก็ผ่านอดีตความติ่งมาแล้วทั้งนั้นล่ะ ส่วนทีมเจ๊เอ๊ดติ่งใครขออุบไว้ กลัวพูดไปเดี๋ยวเด็กๆ ไม่รู้จักแล้วจะเขิน ><

มองเป้าหมาย

3. มองเป้าหมายไว้ให้ชัด

บางคนเรียนเพื่ออัพเงินเดือน
ก็ท่องไว้ค่ะ “อนาคตจะต้องได้เงิน”

บางคนเรียนเพื่อที่จะไปเรียนต่อญี่ปุ่น
ก็ท่องไว้ว่า “ฉันจะต้องไปญี่ปุ่นให้ได้”

ไม่ว่าจะเป้าหมายจะเป็นอะไรก็ตาม ถ้าท้อเมื่อไหร่ นึกถึงมันเอาไว้ค่ะ เพราะเป้าหมายเหล่านี้จะทำให้เราไม่ไขว้เขวง่ายๆ ต่อให้ท้อแค่ไหน เราก็ต้องอดทน สู้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย พอหันกลับมามองตัวเองในอดีต เราจะได้ไม่รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้สู้ในตอนนั้นเนอะ

 

やってしまったことの後悔は日々小さくなるが、やらなかったことの後悔は日々大きくなる。

– 林真理子 –

“ความรู้สึกเสียใจในสิ่งที่ได้ทำผิดพลาดไป นับวันจะยิ่งรู้สึกน้อยลง แต่ความรู้สึกเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ลงมือทำ นับวันจะยิ่งรู้สึกเสียใจมากขึ้น”

– Hayashi Mariko –

 

เจ๊เอ๊ดขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกคน กลับมาจุดไฟในการเรียนภาษาญี่ปุ่น และมุ่งสู่เป้าหมายของตัวเองกันได้ด้วยความสุขอีกครั้งนะคะ^^ 頑張ってね!

 

อ้างอิง :: Burnout Syndrome โดย โรงพยาบาลสมิติเวช

 

คอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ Jeducation Center เปิดคอร์สตั้งแต่ระดับพื้นฐาน ไปจนถึงระดับสูง

  • เรียนเพื่อการใช้งานได้จริง ไม่ใช่การท่องจำ
  • เรียนสนุก ได้พูดคุยญี่ปุ่นทุกคาบ กับเพื่อนและครูญี่ปุ่น
  • เลือกหลักสูตรที่สอดคล้องกับเป้าหมายของตัวเองได้
  • มั่นใจในคุณภาพ สถาบันผ่านการรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ
  • เลือกได้ทั้งแบบสดออนไลน์ หรือ เรียนที่สถาบัน

ผู้ที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้ว และ อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นต่อกับเจเซ็นเตอร์ แต่ยังไม่มั่นใจว่าควรเรียนคอร์สไหนดี สามารถสอบ Placement Test วัดระดับชั้นเรียนที่เหมาะสม และเทียบคลาสเริ่มเรียนได้ทันที พร้อมชำระเงินนับจากวันที่เริ่มสมัคร Placement Test ได้ที่นี่ คลิก

 

ดูรายละเอียดคอร์สเรียน เทอมกรกฎาคม 2564 คลิกที่นี่

 


เรียนภาษาญี่ปุ่น JEDUCATION CENTER

อาคารลิเบอร์ตี้สแควร์ (ปากซอยคอนแวนต์) เลขที่ 287 ชั้น 23 ห้อง 2303 ถนนสีลม เขตบางรัก กทม. 10500
สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง / MRT สีลม

โทร. 0-2267-7726 ต่อ 110-112
email : school@jeducation.com

สอบถามรายละเอียดคอร์สเรียน คลิกเลย  >> https://bit.ly/jed-line

Scroll to Top