ใบ COE เอกสารสำคัญที่ผู้ที่อยากไปเป็นนักเรียนที่ญี่ปุ่นต้องรู้จัก !
“จะไปเรียนต่อญี่ปุ่นระยะยาวต้องสมัครล่วงหน้า 5 – 6 เดือน นะคะ สมัครแล้วยังไปเลยทันทีไม่ได้นะ”
หนึ่งในประโยคที่เจ๊เอ๊ดพูดบ่อยม๊ากกก เวลาแนะนำน้องๆ หรือ เพื่อนๆ เรื่องการสมัครไปเรียนภาษาระยะยาว ที่ประเทศญี่ปุ่นค่ะ ซึ่งหลังประโยคนี้ก็มักจะตามมาด้วยสีหน้าสงสัยของน้องๆ ที่บ่งบอกว่า ” ทำไมถึงนานหรอคะ ? ”
ที่นานก็ไม่ใช่เพราะใครที่ไหน แต่สาเหตุมันมาจากเจ้าเอกสารตัวหนึ่ง ที่กองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นแสนจะหวงแหน ไม่ยอมออกให้กับพวกเราง่ายๆ นั่นก็คือ หนังสือรับรองสถานภาพพำนัก หรือ Certificate of Eligibility เราจะขอเรียกย่อๆ กันในบทความนี้ว่าใบ COE ค่ะ
และการขอเจ้าใบ COE นี่แหละที่หินที่สุด นับช่วงเวลาตั้งแต่เตรียมเอกสารไปจนถึงผลออกก็กินเวลา 5-6 เดือน แถมถ้าเราพลาด ไม่ตรงตามเงื่อนไขเค้าแค่นิดเดียว ก็ทำให้กองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นไม่ยอมอนุมัติให้อีกด้วย !!
ทำไมถึงนานขนาดนั้น ?
มันสำคัญยังไง แล้วต้องขออย่างไร มาอ่านกัน !
- ใบ COE คืออะไร สำคัญยังไง ?
- ต้องขอใบ COE กับใคร ?
- ได้ใบ COE มาแล้วทำอย่างไรต่อ ?
- เหตุผลยอดนิยมที่ทำให้ COE ไม่ผ่าน
ใบ COE คืออะไร สำคัญยังไง ?
ในการสมัครไปเรียนภาษาระยะยาวที่ญี่ปุ่น ( 6 เดือนขึ้นไป ) ไม่ใช่ว่าเราจะส่งใบสมัครให้โรงเรียนแล้ว สามารถบินไปเรียนได้เลย แต่เพราะเราจะไปเป็นนักเรียนที่ญี่ปุ่นอย่าง “ถูกกฎหมาย” เราจึงต้องทำ วีซ่านักเรียน ( Student visa หรือ 留学 : ryugaku ) กันก่อนค่ะ
ซึ่งการจะขอวีซ่านักเรียนได้ มีลำดับคือ
- ขอ “หนังสือรับรองสถานภาพพำนัก” ( 在留資格認定証明書 : Zairyuu shikaku nin tei shoumeisho ) ( Certificate of Eligibility หรือ COE)
- นำใบ COE ไปขอวีซ่านักเรียน
สถานภาพการพำนักคืออะไร ?
คือตัวกำหนดสถานภาพของคนต่างชาติในญี่ปุ่น รวมทั้งประเภทของกิจกรรมที่คนต่างชาติในญี่ปุ่นจะมีส่วนเกี่ยวข้องได้ โดยแบ่งออกเป็น 27 ประเภท เช่น สถานภาพนักเรียน อาจารย์ ศิลปิน สื่อมวลชน นักลงทุน นักวิจัย คู่สมรสหรือบุตร ฯลฯ ซึ่งแต่ละประเภทมีกำหนดระยะเวลาในการพักอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นแตกต่างกันไป
ต้องขอใบ COE กับใคร ?
ผู้ที่เราจะต้องไปขอใบ COE ด้วยก็คือ กองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น ค่ะ แต่ไม่ใช่ตัวเราจะต้องไปติดต่อกับกองตรวจคนเข้าเมืองเองนะคะ ผู้ที่จะเป็นตัวแทนดำเนินการขอให้ ก็คือโรงเรียน สถาบันการศึกษา ที่เราสมัครไปเรียนนั่นเองค่ะ
การพิจารณาออกใบ COE นี้ ทางกองตรวจคนเข้าเมืองจะดูจากเอกสารเท่านั้น (ไม่มีการสัมภาษณ์) รวมถึงพิจารณาจากสถาบันการศึกษาที่สมัครไปเรียนด้วย ดังนั้นการเตรียมเอกสารให้ถูกต้องครบถ้วนและเป๊ะที่สุด เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ค่ะ
แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ ถ้าหากเป็นนักเรียนที่สมัครผ่านทางเจเอ็ดดูเคชั่น สิ่งที่นักเรียนต้องทำก็คือเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ตามที่เจ้าหน้าที่เจเอ็ดดูเคชั่นแจ้งเท่านั้นค่ะ
เจ้าหน้าที่เจเอ็ดดูเคชั่นจะดูแลเรื่องการตรวจเอกสารอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหา ดำเนินการส่งเอกสารทั้งหมดไปยังโรงเรียนที่นักเรียนทำการสมัครให้ และโรงเรียนจะเป็นผู้ยื่นเรื่องกับกองตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่นในพื้นที่ที่สถาบันตั้งอยู่อีกทีค่ะ
Download
เอกสาร สำหรับผู้ยื่นขอใบ COE เพื่อสมัครเรียนต่อญี่ปุ่นกับ Jeducation
ได้ใบ COE มาแล้วทำอย่างไรต่อ ?
เมื่อได้ใบ COE มาแล้ว ก็เท่ากับขาเราก้าวเข้าญี่ปุ่นไปแล้วหนึ่งข้างเลยล่ะค่ะ ! ขั้นตอนต่อมาก็จะเป็นการไปขอ วีซ่านักเรียน กับสถานทูตหรือสถานกงสุลญี่ปุ่นในไทย โดยใช้เจ้าใบ COE นี่แหละค่ะ ประกอบการยื่นขอวีซ่า เพื่อที่จะให้ตัวเราเข้าญี่ปุ่นไปเป็นนักเรียนได้
แต่พอได้วีซ่ามาแล้วไม่ใช่ว่าเราจะขยำใบ COE ทิ้งได้เลยนะ เราจะต้องกระเตงใบนี้ไปผ่านกองตรวจคนเข้าเมืองที่ญี่ปุ่นด้วยกันก่อน แถมต้องรีบจัดการให้เรียบร้อยด้วย เนื่องจากใบ COE นี้ ก็มีวันหมดอายุเหมือนกัน !
เจ๊เอ๊ดจะขอเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ โดยเปรียบชีวิตของใบ COE ที่เราเพิ่งได้มา เป็นเหมือนดักแด้ตัวน้อย ที่ยังใช้เข้าญี่ปุ่นไม่ได้ โดยช่วงระยะนี้ใบ COE จะมีเวลาให้เรา 3 เดือน เพื่อให้เราไปดำเนินการขอวีซ่า และ ถือไปเข้าญี่ปุ่น
จากนั้นพอเราได้วีซ่ามาแล้ว ก็อุ้มน้องดักแด้ COE ตัวนี้บินไปญี่ปุ่นด้วยกัน และ ยื่นมันให้กับด่านกองตรวจคนเข้าเมืองที่ญี่ปุ่นด้วยความภาคภูมิใจ เจ้าหน้าที่ก็จะทำการเปลี่ยนดักแด้ COE ของเราให้กลายร่างเป็นบัตรประจำตัวประชาชนคนต่างชาติ ที่จะทำให้เรามีสถานภาพเป็นนักเรียนที่ญี่ปุ่นอย่างสมบูรณ์ ซึ่งก็คือ บัตรไซริวการ์ด ( ภาษาญี่ปุ่น : 在留カード Zairyuu kaado ) (ภาษาอังกฤษ : Residence card ) และเราจำเป็นต้องพกบัตรไซริวการ์ดนี้ไว้ตลอดระยะเวลาที่อยู่ญี่ปุ่นด้วยค่ะ
เหตุผลยอดนิยมที่ทำให้ COE ไม่ผ่าน
อย่างที่บอกว่ากองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นเค้าค่อนข้างหวงแหนการออกใบ COE เหลือเกิน ดังนั้นไม่ว่าเงื่อนไขอะไรที่ผิดเพี้ยนไปเล็กน้อย ก็อาจส่งผลให้เราไม่ผ่าน และไม่ได้รับใบ COE เหมือนกัน
กรณีที่ COE ไม่ผ่าน ทางกองตรวจคนเข้าเมืองจะมีเอกสารแจ้งเหตุผลให้ทราบค่ะ และเหตุผลยอดนิยมที่เจ๊เอ๊ดมักจะพบมาก็อย่างเช่น
-
-
- เคยขอใบ COE มาก่อน แต่ไม่แจ้ง
ถ้าเราเคยขอใบ COE มาก่อนและผลผ่าน
ครั้งถัดไปในการขอ เราจะต้องอ้างอิงเอกสารเดิม และต้องบอกด้วยว่าเคยขอแล้ว ถ้าไม่บอกหรือข้อมูลเอกสารไม่ตรงกันโดยไม่อธิบายเพิ่มเติม รอบนี้อาจจะไม่ผ่านค่ะ เพราะหมายความว่าเราปิดเป็นความลับกับกองตรวจคนเข้าเมือง ยิ่งถ้าครั้งก่อนหน้าที่ขอใบ COE ไปเป็นการขอเพื่อไปเข้าเรียนแล้วด้วย จะต้องยื่นอัตราการเข้าเรียนของสถาบันที่ไปเข้าเรียนครั้งก่อนหน้าประกอบด้วยนะคะ ถ้าอัตราการเข้าเรียนน้อย ก็อาจส่งผลให้ไม่ผ่านได้เช่นกันค่ะ!
แต่ถ้าเคยขอแล้วไม่ผ่าน
ก็ยังจะต้องเตรียมเอกสารอ้างอิงของเดิมเช่นกัน พร้อมแจ้งว่ามีประวัติเคยขอแล้วแต่ไม่ผ่าน ที่สำคัญคือต้องอธิบายและหาหลักฐานที่น่าเชื่อถือมาแก้ไขประเด็นที่เคยไม่ผ่านในครั้งก่อนอย่างละเอียดด้วยค่ะ
- เคยขอใบ COE มาก่อน แต่ไม่แจ้ง
- ตนเองหรือสมาชิกในครอบครัว มีประวัติการทำผิดกฎหมายวีซ่าญี่ปุ่น
ต้องบอกว่ากองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นจะเช็กประวัติเราด้วย ดังนั้นหากเราหรือคนในครอบครัวเคยมีประวัติทำผิดกฎหมายญี่ปุ่นมาก่อน โอกาสที่ผลใบ COE จะไม่ผ่าน ก็จะสูงมากๆ ค่ะ
-
-
- เอกสารที่ยื่นไป ไม่น่าเชื่อถือ
เอกสารทุกชนิดที่ส่งไป กองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นจะมีการพิจารณาอย่างละเอียด ดังนั้นหากมีการกรอกข้อมูลเท็จ ไม่ชัดเจน หรือ ไม่สมเหตุสมผล ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเอกสารการเรียนของนักเรียน หรือเอกสารการเงินของผู้ปกครอง ก็อาจส่งผลให้ไม่ผ่านได้ทั้งนั้นค่ะ ดังนั้นขอให้ทุกคนกรอกข้อมูลที่เป็นจริงและละเอียดรอบคอบที่สุดนะคะ
- เอกสารที่ยื่นไป ไม่น่าเชื่อถือ
ประสบการณ์รุ่นพี่ ผู้เคย COE ไม่ผ่าน และยื่นขอใหม่อีกครั้งจนผ่าน
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารของทีมเจ๊เอ๊ดจะค่อนข้างเข้มงวด เนื่องจากต้องการให้นักเรียนผ่านและได้รับใบ COE ทุกคนค่ะ
ทั้งนี้ในรายละเอียดของเอกสารแต่ละตัวที่ใช้ยื่นขอใบ COE ก็ยังมีเงื่อนไขปลีกย่อยอีกมากมาย และเงื่อนไขของนักเรียนแต่ละคน ก็มีเอกสารที่ต้องเตรียมมากน้อยแตกต่างกัน ช่วงเตรียมเอกสารจึงถือว่าเป็นช่วงที่ค่อนข้างต้องใช้เวลา ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ส่งเอกสารกับเจ๊เอ๊ดตั้งแต่เริ่มเปิดรับสมัครนะคะ
ทีมเจ๊เอ๊ดตรวจเอกสารนักเรียนอย่างละเอียดและให้คำแนะนำตามความจริง คำนึงถึงเป้าหมายของนักเรียนเป็นหลัก และใส่ใจกับนักเรียนทุกคน เพื่อให้ผลลัพธ์การยื่นขอ COE ของนักเรียนแต่ละคน มีโอกาสผ่านมากที่สุด
และถ้าหากระหว่างเตรียมใครมีข้อสงสัยก็สามารถแชทปรึกษาเจ๊เอ๊ดได้เลยค่ะ เจ้าหน้าที่ทีมตรวจสอบเอกสารพร้อมให้ความช่วยเหลือนักเรียนเจ๊เอ๊ดทุกคนเต็มที่ค่ะ ^^ คุยกับเจ้าหน้าที่แนะแนว คลิกเลย >> https://bit.ly/jed-line
บทความที่เกี่ยวข้อง
- รวมสถาบันที่เปิดรับสมัคร เรียนภาษาระยะยาวที่ญี่ปุ่น เทอมเมษายน 2025 (กำลังรับสมัคร)
- รวมสถาบันที่เปิดรับสมัคร เรียนภาษาระยะยาวที่ญี่ปุ่น เทอมตุลาคม 2024 (ปิดรับสมัครแล้ว)
- รู้จักวีซ่านักเรียนญี่ปุ่น
- จะไปเรียนภาษาระยะยาวที่ญี่ปุ่น ทำไมถึงต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นก่อน ?
- 9 STEP บินไปเรียนต่อญี่ปุ่นกับเจ๊เอ๊ด
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999 ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง ไม่คิดค่าดำเนินการใดๆ
รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)
ติดต่อสอบถาม-ปรึกษาเรื่องเรียนต่อญี่ปุ่น
โทร. 02-267-7726
email : ask@jeducation.com
ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับเจ้าหน้าที่ คลิกเลย >> https://bit.ly/jed-line