ขั้นตอนเข้าประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด

ขั้นตอนเข้าประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด สำหรับนักเรียนระยะยาว เช็กเลย !

 

ถึงเวลาเตรียมตัวสยายปีก บินสู่ญี่ปุ่นแล้วค่า !! สำหรับนักเรียน ที่รอไปเรียนต่อญี่ปุ่นทั้งหลาย ที่ถือ COE (หนังสือรับรองสถานภาพพำนัก) กันไว้แล้ว และคอยที่จะเข้าประเทศญี่ปุ่นอยู่อย่างใจจดใจจ่อมาเป็นปี

จากประกาศล่าสุดของรัฐบาลญี่ปุ่น ( ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2021 ) ที่ได้อนุมัติแล้วว่าให้วีซ่าระยะยาวทั้งหมด (ที่เป็นวีซ่านักเรียน และ ผู้ฝึกงานด้านเทคนิค) และ วีซ่าระยะสั้นที่มีจุดประสงค์ในการไปทำธุรกิจหรือทำงาน ให้สามารถดำเนินการยื่นเรื่องเพื่อเข้าประเทศญี่ปุ่นได้อีกครั้ง

ถือเป็นข่าวน่าดีใจที่สุดในรอบปีของพวกเรานักเรียนทุกคนเลยล่ะค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าเปิดประเทศแล้ว เราจะไปต่อแถวไปขอวีซ่า เข้าญี่ปุ่นกันได้เลยง่ายๆ ค่ะ เพราะญี่ปุ่นก็ได้มีเงื่อนไข และ มาตรการในการเข้าประเทศสำหรับวีซ่ากลุ่มนี้ออกมาเพิ่มอีก!! ให้พวกเราได้มีอะไรทำกันเพิ่มขึ้น ซึ่งขั้นตอนก็ค่อนข้างวุ่นวายพอสมควร

เพื่อความมั่นใจ มินามิซัง เจ้าหน้าที่ทีมเจ๊เอ๊ดสาขาญี่ปุ่น เลยได้ไปเข้าร่วมสัมมนาอธิบายเงื่อนไขการเข้าประเทศรูปแบบใหม่นี้จากเจ้าหน้าที่ของทางรัฐบาลญี่ปุ่นโดยตรง และเรียบเรียงสรุปเป็น ขั้นตอนเข้าประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด มาให้แล้ว เรามาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ

 

เลือกข้ามไปอ่านหัวข้อที่สนใจ

 

 

กำหนดการยื่นเรื่องขอเข้าประเทศตามวันที่ออก COE

อย่างที่กล่าวไปว่าการยื่นเรื่องเพื่อขอเดินทางเข้าญี่ปุ่นรอบนี้มีเงื่อนไขเพิ่มขึ้นมา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ นักเรียนจะยื่นเรื่องขอเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ ตามลำดับวันที่ออก COE ของตัวเองเท่านั้น โดยจะแบ่งเป็นรอบดังนี้ค่ะ

นักเรียนที่ COE ออก ตั้งแต่ 1 มกราคม 2020 – 31 มีนาคม 2020

  • ยื่นเรื่องได้ในเดือน พฤศจิกายน 2021
  • ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนในกลุ่มที่สมัครเข้าเรียน เทอมเมษายน 2020

นักเรียนที่ COE ออก ตั้งแต่เดือน 1 มกราคม 2020 – 30 กันยายน 2020 

  • ยื่นเรื่องได้ในเดือน ธันวาคม 2021
  • ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนในกลุ่มที่สมัครเข้าเรียน เทอมกรกฎาคม และตุลาคม 2020

นักเรียนที่ COE ออก ตั้งแต่เดือน 1 มกราคม 2020 – 31 มีนาคม 2021

  • ยื่นเรื่องได้ในเดือน มกราคม 2022
  • ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนในกลุ่มที่สมัครเข้าเรียน เทอม มกราคม และเมษายน 2021

 ขอสรุปช่วงเวลาที่ยื่นเรื่องได้ของนักเรียนแต่ละเทอมมาเป็นตารางดังนี้

ขั้นตอนเข้าประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด

คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

หมายเหตุ

  1. COE ที่ออกตั้งแต่ 1 มกราคม 2020 – 31 มีนาคม 2021 จะได้รับการต่ออายุให้ จากเดิมจะหมด 31 มกราคม 2022 เป็น 30 เมษายน 2022
  2. กำหนดการดังกล่าว ให้ดูจากวันที่ออกใบ COE ที่ยื่นในครั้งแรก ถึงแม้จะมีการยื่นต่ออายุ หรือยื่น COE ฉบับใหม่แล้วก็ตาม (เพราะเวลายื่นต้องยื่นสำเนาของ COE ฉบับแรกด้วย)
  3. สำหรับนักเรียนเทอมอื่นๆ จะต้องรอดูสถานการณ์การยื่นเรื่องขอเข้าประเทศอีกครั้ง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 เป็นต้นไป
    ปัจจุบัน COE สำหรับนักเรียนเทอมกรกฎาคม 2021 จะถูกขยายอายุให้ใช้ได้ถึง 31 มกราคม 2022 ส่วน COE นักเรียนเทอมตุลาคม 2021 จะมีอายุ 6 เดือนนับจากวันที่ออก *ทั้งนี้อาจมีประกาศปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมภายหลัง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการเดินทางเข้าประเทศ

 

 

ขั้นตอนการดำเนินการเพื่อเข้าญี่ปุ่น

ใครที่เช็กแล้วว่า ตัวเรามี COE ในวันที่ตรงกับเงื่อนไขด้านบน ขอให้จดจำกำหนดการให้ดีๆนะคะ ต่อไปเรามาดูขั้นตอนการเข้าประเทศกันค่ะ

1. ติดต่อสถาบันการศึกษาของตน เพื่อยืนยันช่วงเวลาที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศ

เมื่อเราตรวจสอบแล้วว่าเราสามารถยื่นเรื่องได้ช่วงไหน ให้เราติดต่อกับสถาบันที่เราจะเดินทางไปเรียน ว่า COE ของเราตรงกับช่วงไหน และเราต้องการจะเข้าประเทศเมื่อไหร่ สำหรับนักเรียนเจ๊เอ๊ด ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ๊เอ๊ดได้เลยค่ะ

2. ลงชื่อในเอกสารสัญญา(誓約書)และเตรียมเอกสารให้กับสถาบันการศึกษา เพื่อให้สถาบันนำไปลงทะเบียนเข้าประเทศกับทางกระทรวง

เงื่อนไขที่เพิ่มเข้ามาอีกในครั้งนี้คือ ต้องมีการยื่นลงทะเบียนกับทางกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่นก่อนนั่นเองค่ะ ซึ่งเราไม่ต้องไปทำเองนะคะ สถาบันการศึกษาในญี่ปุ่นที่นักเรียนจะเดินทางไปเรียน จะเป็นผู้ไปจัดการลงทะเบียนให้ โดยนักเรียนทุกคนมีหน้าที่คืออ่านทำความเข้าใจและลงชื่อในเอกสารสัญญา (誓約書) กับเตรียมเอกสารต่อไปนี้เพื่อส่งให้กับสถาบันการศึกษาเพิ่ม ค่ะ

  1. สำเนา Passport หน้าแรกของเล่มปัจจุบัน
  2. E-mail ที่สามารถติดต่อได้ของนักเรียน
  3. ไฟล์ทบินเข้าประเทศ ที่คาดว่าจะจอง (แนะนำให้เดินทางเข้าประเทศในวันจันทร์ – วันพฤหัสบดี)
  4. ที่อยู่ของที่พักที่คาดว่าจะไปกักตัว (จะต้องเป็นที่พัก ที่มีห้องน้ำในตัว)
  5. สำเนา COE (กรณีที่ COE อยู่กับสถาบันการศึกษา สถาบันจะเป็นผู้เตรียมให้)
  6. กรณีที่ต้องการลดวันกักตัว ให้เหลือขั้นต่ำ 10 วัน จากปกติ 14 วัน *เฉพาะผู้ที่ฉีด Pfizer/ AstraZeneca/ Moderna ครบ 2 เข็ม มามากกว่า 14 วันแล้ว
    จะต้องยื่นเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ที่ระบุชื่อ-นามสกุล, วัน/เดือน/ปีเกิด, ชนิดวัคซีน, วันที่ฉีดวัคซีน, จำนวนครั้งที่ฉีด เป็นภาษาอังกฤษด้วยค่ะ จะใช้เป็นเอกสาร Vaccine Passport หรือเอกสารตามตัวอย่างด้านล่างนี้ก็ได้ค่ะ **ยังมีเงื่อนไขอื่นๆ อีก กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่ สิ่งที่ต้องทำเพื่อลดวันกักตัวจาก 14 วัน เป็นขั้นต่ำ 10 วัน

*ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนตามที่ระบุในข้อ 6 ก็สามารถเข้าญี่ปุ่นได้ แต่จะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันตามจำนวนเดิมค่ะ

Vaccine Passport เข้าญี่ปุ่น

ตัวอย่างเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนที่ใช้ได้ ; Vaccine Passport

 

ขั้นตอนเข้าประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด

ตัวอย่างเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนที่ใช้ได้

 

3. รอกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาผล และ รอรับเอกสารรับรองผ่านการพิจารณา

เมื่อทางสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่นได้รับเอกสารของเรา และตรวจสอบข้อมูลครบถ้วนแล้ว สถาบันจะไปจะทำการกรอกใบคำร้องกับแผนกิจกรรมให้เรา และ นำเอกสารทั้งหมดที่เราเตรียมไปยื่นที่กระทรวงศึกษาธิการตามช่วงเวลา COE ของนักเรียน โดยทางกระทรวงศึกษาธิการ จะใช้เวลาในการพิจารณาเอกสารประมาณ 2 สัปดาห์  หากผ่านการพิจารณา ก็จะได้รับเอกสารรับรองผ่านการพิจารณาค่ะ(審査済証)

4. ไปขอวีซ่าที่ศูนย์ยื่นวีซ่าหรือสถานกงสุล

นักเรียนจะต้องนำเอกสารรับรองผ่านการพิจารณา(審査済証)นี้ และเอกสารการขอวีซ่าอื่นๆ ไปยื่นขอวีซ่าที่ศูนย์ยื่นวีซ่าหรือสถานกงสุล ปกติจะใช้เวลาในการออกวีซ่าประมาณ 1 สัปดาห์

5. วัดอุณหภูมิก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นเป็นเวลา 14 วัน

ให้วัดอุณหภูมิ 14 วัน ก่อนวันเดินทางบันทึกเตรียมไว้เลยนะคะ เราจะต้องกรอกแบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพซึ่งมีการถามเรื่องอุณหภูมิด้วยด้วย สามารถทำตารางจดอุณภูมิด้วยตนเองได้ หรือ  Download ตารางบันทึกอุณหภูมิ คลิกที่นี่

6. เตรียมตัวซื้อประกันการเดินทาง / ประกันภัยสำหรับนักเรียน

การเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นสำหรับวีซ่านักเรียนครั้งนี้ แตกต่างกับทั่วไปค่ะ เนื่องด้วยนักเรียนจะต้องกักตัว 14 วันเมื่อไปถึงญี่ปุ่น ซึ่งในระหว่างกักตัวจะไม่สามารถไปทำเรื่องที่สำนักงานเขต หรือแจ้งสมัครประกันสุขภาพแห่งชาติได้ นักเรียนที่จะเดินทางเข้าประเทศ จึงจะต้องทำประกันการเดินทางจากประเทศของตนมาด้วย

( ทั้งนี้ไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาหรือวงเงินขั้นต่ำอย่างชัดเจน แต่ทางสถาบันที่ญี่ปุ่นที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน แนะนำมาว่าให้ทำประกันระยะเวลา 1 เดือนเป็นอย่างน้อยค่ะ )

อ่านบทความ การทำประกันเดินทาง ก่อนไปเรียนต่อญี่ปุ่น คลิกที่นี่

7. ซื้อซิมอินเตอร์เน็ต ระยะเวลามากกว่า 15 วันขึ้นไป

เนื่องจากเมื่อไปถึงญี่ปุ่น เราจะต้องมีการใช้งาน Application MySOS  และเปิดอนุญาตการเข้าถึงตำแหน่ง (Location) ของเราเพื่อฟังการแจ้งข่าวสาร และรายงานผลการกักตัวทุกวัน ดังนั้นเจ๊เอ๊ดแนะนำว่าให้ซื้อซิมไปจากเมืองไทยไปก่อนเลย พอลงเครื่องก็จะได้เปิดใช้ได้ทันทีค่ะ

8. ลง Application MySOS

Application นี้มีไว้เพื่อแจ้งข่าวสาร ติดตามอาการตลอดระยะเวลาการกักตัวของเราที่ญี่ปุ่น โดยเราต้องดาวน์โหลดและลงทะเบียน Application ให้เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนบินนะคะ  เข้าไปดาวน์โหลดและดูวิธีการลงทะเบียนได้ที่นี่

9. ไปตรวจ PCR

วันบิน เราจะต้องยื่นใบตรวจ PCR ด้วยค่ะ โดยเราสามารถเข้าตรวจ PCR ที่โรงพยาบาลที่มีบริการตรวจได้เลย ทั้งนี้ผลตรวจจะต้องไม่เกิน 72 ชั่วโมง และจำเป็นที่จะต้องให้โรงพยาบาลที่เราเข้ารับการตรวจ ใช้แบบฟอร์มที่ญี่ปุ่นกำหนด โดยสามารถดาวน์โหลดและพิมพ์ออกมาได้  ดาวน์โหลดที่นี่ 

10. เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นตามกำหนดการ

 

 

ขั้นตอนดำเนินการเมื่อไปถึงญี่ปุ่น
  1. ที่สนามบิน ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ และรับการตรวจ COVID-19 อีกครั้ง จากนั้นอยู่รอผลในพื้นที่ที่กำหนด
  2. เดินทางไปที่กักตัวที่เตรียมไว้ ห้ามเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ
  3. กักตัวเป็นเวลา 14 วัน ( หรือ 10 วัน กรณีได้รับวัคซีนและทำตามเงื่อนไขได้ครบถ้วน ) โดยไม่นับรวมวันที่เดินทางถึงญี่ปุ่น โดยผู้กักตัวสามารถเลือกที่พักเองได้ ทั้งนี้ที่พักจำเป็นต้องมีห้องน้ำในตัว และหากเป็นโรงแรม จะต้องเป็นโรงแรมที่ได้รับการอนุญาตให้ใช้กักตัวได้

ตลอดระยะเวลาการกักตัว เราจะไม่สามารถออกนอกสถานที่กักตัวได้ และจะมีการสุ่ม VDO Call มาตรวจสอบด้วย
สำหรับอาหาร ให้ใช้บริการสั่งอาหารผ่าน Application Online หรือโทรสั่งมาส่งที่ห้องได้เท่านั้น
อีกทั้งตลอดการกักตัว เราจะต้องตรวจวัดอุณภูมิร่างกายอย่างต่อเนื่อง รายงานกับสถาบันของตนเองทุกวัน
และเปิด Internet กับ ระบบติดตาม Location ไว้อยู่ตลอดด้วยนะคะ **ห้ามปิดก่อนเด็ดขาดเลยนะ**

 

สิ่งที่ต้องทำเพื่อลดวันกักตัวจาก 14 วัน เป็นขั้นต่ำ 10 วัน

*เฉพาะผู้ที่ฉีด Pfizer/ AstraZeneca/ Moderna ครบ 2 เข็ม มามากกว่า 14 วันแล้ว

  1. ยื่นเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ที่ระบุชื่อ-นามสกุล, วัน/เดือน/ปีเกิด, ชนิดวัคซีน, วันที่ฉีดวัคซีน, จำนวนครั้งที่ฉีด เป็นภาษาอังกฤษ กับทางโรงเรียนเพื่อยื่นเรื่องขอเข้าประเทศกับทางกระทรวง
  2. พกเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนไปยังประเทศญี่ปุ่นด้วย
  3. เมื่อกักตัวถึงวันที่ 9 จะได้รับแจ้งให้ให้เข้ารับการตรวจ PCR อีกครั้งในวันที่ 10 ของการกักตัว
    โดยจะต้องเข้ารับการตรวจที่สถานพยาบาลที่ทางรัฐบาลระบุไว้ในลิงก์ด้านล่างนี้เท่านั้น
    https://www.c19.mhlw.go.jp/search/english/index.html
    การเดินทางไปตรวจไม่สามารถใช้ขนส่งสาธารณะได้ และต้องออกค่าตรวจเอง (ค่าตรวจมีตั้งแต่ 2 พันกว่าถึง 4 หมื่นกว่าเยน)
  4. หากผลเป็นลบ ให้แจ้งกับทางสถาบันต้นสังกัด และทางรัฐ เพื่อรอการอนุมัติการลดวันกักตัว
    ***ทั้งนี้ การตรวจ PCR อาจใช้เวลารอผล หรือรอการอนุมัติรวม 2-4 วัน ซึ่งรวมเวลาแล้วอาจจะเท่ากับการกักตัวเต็มเวลา 14 วันปกติเลย
    ทางเจ๊เอ๊ดจึงยังไม่ค่อยแนะนำให้ยื่นเรื่องค่ะ หากอนาคตสามารถลดวันกักตัวลงได้มากกว่านี้ จะมาอัพเดทให้ทราบอีกครั้งนะคะ

 

แหล่งข่าวอ้างอิง

 

เรียนภาษาที่ประเทศญี่ปุ่น
เข้าเรียนเทอมเมษายน 2022 กำลังรับสมัคร

ดูรายละเอียด

เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น เมษายน 2022

Scroll to Top