ร้านอาหารที่เป็นมากกว่าที่ ทำไบต์ (การทำ งานพิเศษที่ญี่ปุ่น )
BY FAAI
แน่นอนว่าหลายคนที่มาเรียนภาษาที่ญี่ปุ่น ก็อยากทำ งานพิเศษ หรือที่เรียกว่า ทำไบต์ (バイト) ควบคู่ไปด้วย ซึ่งงานไบต์ที่ญี่ปุ่นสำหรับชาวต่างชาตินั้นมีให้เลือกเยอะก็จริง
แต่ถ้าสกิลภาษาเรายังไม่ดีพอ การสมัครทำงานในที่ที่อยากทำ บางครั้งอาจจะเป็นเรื่องยาก เลยทำให้ต้องทำในร้านที่สามารถทำได้ แต่อาจจะไม่ได้ชอบลักษณะงานเท่าไหร่นัก
อย่างเราที่ตอนแรกไปทำ งานพิเศษ ที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ในตำแหน่งคนล้างจาน เป็นงานเดียวกับที่กุ๊กไก่เคยแชร์มาก่อนหน้านี้ ซึ่งเรากับกุ๊กไก่ เริ่มทำงานที่ร้านนี้พร้อมกันและออกพร้อมกัน ด้วยเหตุผลเดียวกันคือ ความเหนื่อยกับความคุ้มค่าที่ได้รับมันไม่คุ้มกัน ( คลิกอ่าน เรื่องการทำ งานพิเศษที่ญี่ปุ่น ที่กุ๊กไก่เคยแชร์ )
หลังจากที่เราออกจากร้านนี้ เราก็กลับไปตั้งใจเรียนอย่างเดียวเป็นเวลากว่า 2 เดือนที่ไม่ได้ทำไบต์ จนกลับมาจากปิดเทอมหน้าร้อน เราเริ่มรู้สึกว่าต้องหาอะไรทำซะแล้ว เพราะไม่งั้นจะว่างเกินไป
พอดีว่าร้านอาหารไทยที่รุ่นพี่ KICL ทำงานอยู่นั้นกำลังหาคนมาแทนพอดี เพราะรุ่นพี่ทั้งหมดที่ทำร้านนั้น กำลังจะเรียนจบกลับไทยกันทั้งหมด 4 คน เลยเป็นโอกาสดี ที่เราอยากลองงานทำงานพิเศษจริงจังอีกสักครั้ง รุ่นพี่นัดวันสัมภาษณ์งานกับเจ้าของร้านให้
วันที่เราเข้าไปคุย เขาก็ถามแค่ในแง่ว่าภาษาญี่ปุ่นได้ระดับไหน สามารถทำได้วันไหนบ้าง มีแพลนกลับไทยเมื่อไหร่ เพราะทางร้านเองก็คงไม่อยากฝึกพนักงานใหม่บ่อยๆ ก็เลยอยากรู้แพลนเราคร่าวๆก่อน
ร้านนี้ชื่อร้านว่า Koanosuke ( こあの助 ) เป็นร้านอาหารที่มีเจ้าของเป็นคนญี่ปุ่น อยู่ตรงชั้น 2 ของร้าน Yoshinoya บริเวณสี่แยกเฮียคุมังเบงเลย ในร้านจะตกแต่งด้วยบรรยากาศไทยๆ
หน้าที่ของเรา คือ รับลูกค้า รับออเดอร์ เสิร์ฟ คิดเงิน จัดโต๊ะ เตรียมช้อนส้อม ทำความสะอาดร้านตอนปิดร้าน และถ้าช่วงลูกค้าน้อยก็จะได้ช่วยงานในครัวด้วย เช่น ปอกไข่ต้ม ตักซุป เตรียมผักสำหรับทำแกง โดยทำอาทิตย์ละ 3 วัน ตั้งแต่ 17.00 – 23.00 น. โดยประมาณ ขึ้นอยู่กับว่าปิดร้านเก็บกวาดได้เร็วก็จะได้เลิกเร็ว แต่ที่ร้านใช้ระบบการตอกบัตรแล้วคิดค่าจ้างให้ตามเศษนาทีเลย
ลุงเจ้าของร้านที่เราเรียกกันว่า เทนโจ ให้เราฝึกงานคู่กับรุ่นพี่อยู่ประมาณ 5 ครั้ง และให้ติดป้ายว่าเป็นเด็กฝึกงานด้วย (見習い中 : minarai chuu ระหว่างฝึกงาน )
เพราะถ้าลูกค้าเห็นเขาจะได้เข้าใจถ้าเรางงๆหรือฟังเขาพูดไม่ออก เราว่าป้ายนี้ดีสำหรับเราเลยแหละ เพราะมันทำให้เราไม่ประหม่ามาก เทนโจยังคอยถามตลอดว่าทำไหวมั้ย งงตรงไหนมั้ย
หลังจากฝึกอยู่ประมาณ 5 ครั้ง ก็ถึงเวลาที่เทนโจให้เราผ่านงาน เราต้องทำเองคนเดียวทั้งหมด ฟังดูเหมือนเป็นงานที่เยอะและเหนื่อย แต่จริงๆ มันสนุกมาเลยแหละ แม้ตอนแรกที่ไปทำเราก็มีช็อคๆ นิดนึง เพราะพอเห็นสิ่งที่ต้องทำจริงๆแล้วมันเยอะกว่าที่คิด ต้องจำเมนูให้ได้ เวลาฟังลูกค้าออเดอร์ก็ต้องฟังให้ออก บางทีลูกค้าก็จะสั่งแบบเพิ่มท็อปปิ้งมากมาย
ซึ่งครั้งแรกๆเราก็เอ๋อๆอยู่ เพราะเขาก็พูดเร็วจนเราจดไม่ถูกเลยแหละ แต่โชคดีที่ได้รุ่นพี่ดี เขาสอนงานเราอย่างละเอียด บอกข้อควรระวังทุกอย่าง ยกตัวอย่างเคสแปลกๆ ให้ฟัง ป้องกันไม่ให้เราเกิดความผิดพลาด และที่ร้านเทนโจก็มีคู่มือสำหรับคนไทยที่มาทำงานที่นี่ให้อ่านด้วย ว่าต้องพูดอะไรบ้าง เวลารับออเดอร์ ขานออเดอร์ให้เทนโจทำ หรือตอนคิดเงิน ทำให้เราได้พูดภาษาญี่ปุ่นตลอด ได้ทำหลายๆอย่างในร้าน
นอกจากนั้น เทนโจให้เราเลือกเมนูเองได้ว่า ในแต่ละวันที่เรามาทำไบต์ เราอยากกินอะไรเป็นมื้อเย็น ที่ชอบที่สุดคือ เทนโจรู้ว่าเราชอบกินเผ็ด เวลาเทนโจทำกับข้าวให้เรา ก็จะเพิ่มความเผ็ดระดับสุด ให้เด็กไทยที่อยากกินอาหารไทยในต่างแดนได้ฟินกันไป
พิเศษไปอีก เมื่อเวลาเรามากินอาหารที่ร้านนี้กับเพื่อนนอกเวลางาน เทนโจจะให้ส่วนลดกับพนักงานทุกคนไม่ว่าจะออกไปแล้ว กลับไทยไปแล้ว แต่ถ้ากลับมากินเมื่อไหร่จะได้ส่วนลดคนละ 100 เยน
สิ่งที่เราประทับใจและทำให้เราสนุกกับร้านนี้อาจจะเป็นเพราะ เทนโจชอบกินขนมเหมือนเราด้วย เราเลยคุยกันถูกคอ เทนโจยังชอบเอาขนมมาให้เราชิมอยู่เรื่อยๆ ประกอบกับเป็นเทนโจมีความสนใจประเทศไทย เราเลยผลัดกันเล่าเรื่องสนุกๆ กันตลอด
บรรยากาศการทำงานเลยไม่เครียด ขนาดเราเคยขานเมนูผิด จากที่เราต้องบอกเทนโจว่า ลูกค้าเอาแกงเขียวหวานความเผ็ดระดับ 6 ซึ่งจริงๆ ภาษาญี่ปุ่นต้องพูดว่า “レベル六 ( reberuroku ) ” แต่เราพูดภาษาญี่ปุ่นผสมกับภาษาอังกฤษตามที่ลูกค้าฝรั่งสั่งเรามาเป็น “レベルsix ( reburusix ) ” ลุงก็ไม่ว่าอะไร แถมยังขำกันยกใหญ่ เพราะฉะนั้นต่อให้เลิกดึกแค่ไหน ก็ไม่เหนื่อยและเครียดมาก แถมยังมีแรงกลับมาทวนหนังสือก่อนนอนอีก
การทำงานที่ร้านนี้ทำให้เราได้พูด ได้ฟังมากขึ้น แม้บางคนจะบอกว่าก็พูดแต่ประโยคเดิมๆ นั้นแหละ แต่บางทีเราจะเจอเคสแปลกๆ อย่างลูกค้าใหม่ที่ให้เราแนะนำเมนูให้ฟังหน่อย หรือลูกค้าที่ขอเพิ่มโน้นนี่มากมาย ทำให้เราต้องใช้สกิลภาษาเท่าที่มีในการเอาตัวรอดให้ได้
การทำงานร้านนี้ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ใช่แค่พนักงานในร้าน แต่เป็นส่วนหนึ่งของร้าน ที่อยากทำให้ลูกค้ากลับมากินที่ร้านนี้อีกบ่อยๆ ด้วยความใจดีคอยเอาใจใส่พนักงานของเทนโจ นอกจากนั้นยังทำให้เราเป็นคนกระฉับกระเฉงมากขึ้นด้วย เพราะต้องทำหลายๆ หน้าที่ในเวลาเดียวกัน ถ้ามัวแต่อ้อยอิ่ง ค่อยๆทำ ก็จะทำให้ลูกค้ารอนานได้
เราเคยถามคุยกับเทนโจว่าทำไมมาเปิดร้านอาหารไทย เทนโจบอกว่าเขาเคยไปเมืองไทย กินอาหารไทยแล้วชอบ ประกอบกับรู้สึกว่า ที่เกียวโตร้านอาหารไทยมีน้อย ที่มีก็ราคาแพง เทนโจเลยอยากให้คนเกียวโต เด็กมหาวิทยาลัยเกียวโตใกล้ๆ ร้าน ได้กินอาหารไทยอร่อยๆ ในราคาถูก เลยพยายามหาวิธีทำเมนูขึ้นมา ให้ราคา คุณภาพเหมาะสมที่สุด เลยมีร้านนี้ขึ้น
เมนูไทยๆหลักๆของร้านคือ แกงเหลืองและแกงเขียวหวาน ที่เหลือจะเป็นสไตล์ไทยฟิวชั่น เช่น ข้าวหมูผัดกระเทียม ข้าวหน้าไก่ทอด ทุกเมนูล้วนจะใส่พริกให้แซ่บตามสไตล์อาหารไทย เครื่องดื่มก็มี ชาไทย เบียร์ช้าง เบียร์สิงห์สไตล์ไทยๆอีก
สิ่งที่เราเห็นอีกอย่างจากร้านนี้ คือ เทนโจใส่ใจในวัตถุดิบมาก อย่างหน่อไม้ ถ้ามีส่วนที่แข็ง เทนโจก็จะไม่ใช้ ให้เราคัดออกให้หมด แม้จะต้องทิ้งไปเยอะก็ตาม หรือหมูถ้าติดมันเยอะไป ดูไม่น่ากิน เทนโจจะตัดทิ้งเลย ทั้งที่เรายังรู้สึกว่าเห้ยมันยังกินได้นะ เสียดายจัง แต่เทนโจบอกไม่ได้ ยังไงก็ต้องทิ้ง
หรืออย่างก่อนเปิดร้าน เทนโจจะให้เราจัดเก้าอี้แบบไม่ต้องเก็บเข้าใต้โต๊ะสนิทแบบที่บ้านเราทำกัน เทนโจจะให้ดึงออกมาแบบให้ลูกค้ามาถึงแล้วนั่งได้เลย ไม่ต้องลากออกมานั่ง หรือเวลามีลูกค้าหน้าใหม่เข้ามา เทนโจจะมีแถมน้ำฝรั่งหรือน้ำผลไม้ให้กินฟรีๆ และเวลาปิดร้านเทนโจจะเช็คเงินทุกวัน คอยจดว่าขายอะไรได้กี่จาน ทำบัญชีอย่างละเอียด ทำให้เราเริ่มซึมซับทักษะงานบริการ การมีร้านเป็นของตัวเองไปในตัว
จากที่เล่ามา เราอยากจะบอกว่าการตัดสินใจเลือกทำงานพิเศษสักที่ ควรเลือกเนื้องาน ลักษณะร้านในแบบที่เราชอบจริงๆ มันจะทำให้เรารู้สึกอยากไปทำงานตลอดเวลา รู้สึกอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยากพูดคุยกับคนญี่ปุ่นที่เจอไม่ว่าจะเป็นเทนโจหรือลูกค้า
แต่ถ้าใครทำงานไบต์ก็อย่าลืมแบ่งเวลาดีๆ อ่านหนังสือล่วงหน้าก่อนไปเรียน ทวนทุกวันที่เลิกเรียน ถ้ารู้ว่ามีสอบในวันที่ตรงกับทำไบต์ ก็ต้องเตรียมอ่านตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าให้การทำงานมาเป็นอุปสรรคต่อการเรียน ถ้าแบ่งเวลาดีๆได้ ชีวิตนักเรียนต่างชาติก็จะสนุกขึ้นอีกเยอะ ^^
โรงเรียนที่ฝ้ายไปเรียน
Kyoto Institute of Culture and Language (KICL)
อ่านบทความจากฝ้ายย้อนหลัง >> click
- เรียนต่อญี่ปุ่น หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว
- เรียนต่อญี่ปุ่น หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานในประเทศไทยของสถาบันโดยตรง แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นทุกระดับ โดยศิษย์เก่าญี่ปุ่น ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน โดยไม่คิดค่าดำเนินการใด ๆ รวมถึงค่าส่งเอกสารไปที่ญี่ปุ่น
ปรึกษาเรื่องเรียนต่อญี่ปุ่น โทร. 02-665-2969, 02-258-3983
email : ask@jeducation.com
ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับเจ้าหน้าที่ คลิกเลย >> https://bit.ly/jed-line