9 ขั้นตอนการสมัคร เรียนภาษา ที่ญี่ปุ่น กับ ” เจ๊เอ๊ด”
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว 1 – 2 ปี ในโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น หรือหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นในมหาวิทยาลัย
Jeducation มีเจ้าหน้าที่ซึ่งมีประสบการณ์การเรียนและใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น ให้คำปรึกษา แนะนำทุกขั้นตอน โดยไม่มีค่าดำเนินการใดๆ
มาดูกันค่ะว่าขั้นตอนการสมัครไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เรียนภาษา ที่ญี่ปุ่น ด้วยวีซ่านักเรียน มีอะไรบ้าง
“เรียนภาษาญี่ปุ่นให้ได้ขั้นต่ำ 150 ชั่วโมง”
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่น กำหนดให้นักเรียนที่จะสมัครไปเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะยาว ยื่นหลักฐานการเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างน้อย 150 ชั่วโมง หรือสอบผ่าน JLPT ระดับ N5 แล้วเป็นอย่างต่ำ
ขั้นตอนที่ 1.
พูดคุยกับเจ้าหน้าที่แนะแนวของเจเอ็ดดูเคชั่น
พูดคุยกับเจ้าหน้าที่แนะแนว เพื่อการวางแผนไป เรียนต่อญี่ปุ่น ให้ตรงกับเป้าหมายของตนเอง นักเรียนสามารถสอบถามข้อสงสัยต่างๆ ได้อย่างละเอียด ทำให้เข้าใจและเลือกสถาบันการศึกษาได้ตรงกับความต้องการ
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำในการกรอกใบสมัคร และเตรียมเอกสารประกอบการสมัครเรียนที่ถูกต้อง เพื่อการยื่นขอสถานภาพ ” นักเรียน ” จากกองตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่น
* นักเรียนที่อยู่ต่างจังหวัด สามารถส่งเอกสารสมัครเรียนได้ทางไปรษณีย์
ขั้นตอนที่ 2.
ยื่นใบสมัครพร้อมชำระค่าสมัครเรียน
นำใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบการสมัครมายื่น พร้อมชำระเงินค่าสมัคร และค่าแปลเอกสาร (ถ้ามี) ภายในระยะเวลาที่กำหนดในแต่ละภาคเรียน หลังจากยื่นสมัครเรียบร้อยแล้ว จะมีเอกสารแนะนำขั้นตอนต่างๆ หลังจากการสมัครเรียนให้นักเรียนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับขั้นตอนอื่นๆ ต่อๆ ไป
ขั้นตอนนี้ จะต้องเตรียมเงินค่าสมัครเรียน ประมาณ 2-3 หมื่นเยน ( ประมาณ 6 พัน – 1 หมื่นบาท ) แล้วแต่โรงเรียนที่สมัครไปเรียน และอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่สมัคร
ภาคเรียน | สมัคร | ประกาศผล | เข้าเรียน |
ฤดูหนาว | กรกฎาคม | ปลายเดือนพฤศจิกายน | มกราคมปีถัดไป |
ฤดูใบไม้ผลิ | ตุลาคม | ปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีถัดไป | เมษายนปีถัดไป |
ฤดูร้อน | มกราคม | ปลายเดือนพฤษภาคม | กรกฎาคม |
ฤดูใบไม้ร่วง | เมษายน | ปลายเดือนสิงหาคม | ตุลาคม |
เรียนภาษาระยะยาวที่ญี่ปุ่น 1 – 2 ปี เทอมเมษายน 2025 กำลังรับสมัคร
คลิกที่ภาพดูรายละเอียด
ขั้นตอนที่ 3.
ตรวจเช็คเอกสาร – ส่งเอกสารไปญี่ปุ่น
เจ้าหน้าที่จะตรวจเช็คความถูกต้องของใบสมัคร และเอกสารประกอบการสมัครอย่างละเอียด รอบคอบ ก่อนที่จะส่งเอกสารไปให้โรงเรียนที่ญี่ปุ่น นักเรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการส่งเอกสารไปญี่ปุ่นแต่อย่างใด
อาจะมีบางกรณีที่ทางโรงเรียนที่ญี่ปุ่น ต้องการเอกสารเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่จะรีบแจ้งให้นักเรียนเตรียมเอกสารมาส่งเพิ่ม จากนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งเอกสารเพิ่มเติมไปให้กับทางโรงเรียนอย่างรวดเร็ว
ขั้นตอนที่ 4.
รอผลจากกองตรวจคนเข้าเมือง เรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติม
ขั้นตอนการพิจารณาสถานภาพ ” นักเรียน” ของกองตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่น จะใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ในระหว่างนี้ ควรใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติมให้มากที่สุด
ถ้าเป็นไปได้ควรเรียนหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นเร่งรัด แบบเรียนทุกวันจันทร์ – ศุกร์ และเรียนกับอาจารย์ญี่ปุ่น เพื่อให้เกิดความเคยชินในการเรียนภาษาญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่นทุกวัน ก่อนที่จะไปเรียนจริงที่ประเทศญี่ปุ่น
ขั้นตอนที่ 5.
การประกาศผลจากกองตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่น
เมื่อทราบผลการพิจารณาจากกองตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่จะติดต่อแจ้งให้นักเรียนทราบทางโทรศัพท์ และส่งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทางอีเมล์
ขั้นตอนที่ 6.
การจองที่พัก / ตั๋วเครื่องบิน
การจองที่พัก
ในกรณีที่ต้องการที่พักซึ่งทางโรงเรียนจัดหาให้ ทางโรงเรียนจะมีเอกสารและกำหนดการจองหอพักให้นักเรียน เลือกหอพักที่ต้องการ ( โดยทั่วไปจะให้เลือก 3 อันดับ )
ในกรณีที่มีที่พักอยู่แล้ว หรือจะหาที่พักเอง จะต้องแจ้งที่อยู่ให้ทางร.ร.ทราบด้วย
การจองตั๋วเครื่องบิน
ทางโรงเรียนจะแจ้งกำหนดการเดินทางมาให้นักเรียนทราบ ว่าจะต้องเดินทางในช่วงเวลาใด หรือวันไหนบ้าง นักเรียนสามารถจองตั๋วเครื่องบินเอง ตามกำหนดการที่ร.ร.กำหนด
หรือให้เจเอ็ดดูเคชั่นจองให้ ซึ่งเจเอ็ดดูเคชั่นจะจองเฉพาะตั๋วเครื่องบินของ การบินไทย หรือ Japan Airlines ราคานักเรียนเท่านั้น ไม่มีสายการบิน Low Cost
ขั้นตอนที่ 7.
ชำระค่าเล่าเรียน / ค่าที่พัก
ทางโรงเรียนจะส่งใบแจ้งค่าเล่าเรียน (และหอพัก) มาให้นักเรียน เพื่อนำไปใช้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง
ภาคเรียน | ชำระเงินค่าเล่าเรียน | เข้าเรียน |
ฤดูหนาว | ต้นเดือนธันวาคม | มกราคมปีถัดไป |
ฤดูใบไม้ผลิ | ต้นเดือนมีนาคม | เมษายนปีถัดไป |
ฤดูร้อน | ต้นเดือนมิถุนายน | กรกฎาคม |
ฤดูใบไม้ร่วง | ต้นเดือนกันยายน | ตุลาคม |
ขั้นตอนนี้ จะต้องชำระเงินค่าเล่าเรียน สำหรับ 6 เดือน หรือ 1 ปี ประมาณ 1 – 2 แสนบาท ( แล้วแต่ร.ร.ที่สมัครไปเรียน ) รวมถึงค่าหอพัก ควรแจ้งให้ผู้ปกครองเตรียมเงินไว้ 2-3 แสนบาท
ขั้นตอนที่ 8.
ขอวีซ่านักเรียน
หลังจากที่ทางโรงเรียนยืนยันว่าได้รับเงินแล้ว จะส่งใบรับรองสถานภาพการพำนัก ( Certificate of Eligibility : COE ) และหนังสือตอบรับเข้าเรียน มาให้ เพื่อใช้ในการไปขอ ” วีซ่านักเรียน ” ที่สถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย
ในการขอวีซ่า ทางสถานทูตญี่ปุ่นจะมีการโทรสัมภาษณ์ หรือนัดมาสัมภาษณ์ที่สถานทูต โดยสัมภาษณ์ด้วย ” ภาษาญี่ปุ่น”
หลังจากยื่นเอกสารแล้ว อีก 5 วันทำการก็สามารถไปรับวีซ่า และกลับมาจัดกระเป๋าเตรียมพร้อมกันได้เล้ย
ขั้นตอนนี้ จะต้องเตรียมเงินค่าวีซ่าและค่าบริการของศูนย์ขอวีซ่า ประมาณ 1 พันกว่าบาท
ขั้นตอนที่ 9.
ปฐมนิเทศก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น
เจเอ็ดดูเคชั่น จัดปฐมนิเทศให้ข้อมูลที่จำเป็นก่อนการเดินทาง เพื่อให้น้องๆ เตรียมตัวเตรียมใจก่อนบินสู่ญี่ปุ่น แถมมีคู่มือแนะนำการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นฉบับพกพา ให้นำติดตัวไปอ่านที่ญี่ปุ่นด้วย
นอกจากนั้น ยังมีเอกสารสำหรับท่านผู้ปกครอง แนะนำขั้นตอนต่างๆ ให้ทราบ หลังจากที่ลูกไป เรียนต่อญี่ปุ่น ค่ะ
ในปัจจุบัน มีนักเรียนไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นกับเจเอ็ดดูเคชั่นเพิ่มขึ้นทุกปี โดยไปเรียนในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่นค่ะ จากประสบการณ์มากกว่า 25 ปี ที่ดำเนินการด้านการแนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ จึงมั่นใจได้ว่า เจเอ็ดดูเคชั่น พร้อมที่จะดำเนินการและให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ โดยคำนึงถึงอนาคตของนักเรียนแต่ละคน
>> ทำไมต้องสมัครเรียนต่อที่ญี่ปุ่นกับเจ๊เอ๊ด
เรียนภาษาระยะยาวที่ญี่ปุ่น 1 – 2 ปี เทอมเมษายน 2025 กำลังรับสมัคร
คลิกที่ภาพดูรายละเอียด
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานในประเทศไทยของสถาบันโดยตรง แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นทุกระดับ โดยศิษย์เก่าญี่ปุ่น ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน โดยไม่คิดค่าดำเนินการใด ๆ รวมถึงค่าส่งเอกสารไปที่ญี่ปุ่น
ปรึกษาเรื่องเรียนต่อญี่ปุ่น โทร. 02-267-7726 ต่อ 101 – 106
email : ask@jeducation.com
ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับเจ้าหน้าที่ คลิกเลย >> https://bit.ly/jed-line