มหาวิทยาลัยญี่ปุ่น ปริญญาตรี ( Undergraduate)

การเรียนมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น ระดับ ปริญญาตรี  โดยทั่วไปจะใช้เวลาในการศึกษา 4 ปี ยกเว้นคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และสัตวแพทยศาสตร์ จะใช้เวลาศึกษาทั้งสิ้นรวม 6 ปี  

มหาวิทยาลัยญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ

1. มหาวิทยาลัยรัฐบาล
คือมหาวิทยาลัยที่จัดตั้งโดยรัฐบาลกลางของญี่ปุ่น  ในแต่ละจังหวัดจะมีมหาวิทยาลัยของรัฐบาล 1 แห่งเป็นอย่างต่ำ

2. มหาวิทยาลัยท้องถิ่น
คือมหาวิทยาลัยที่จัดตั้งโดยองค์กรปกครองตนเองส่วนท้องถิ่น 

3. มหาวิทยาลัยเอกชน
คือมหาวิทยาลัยที่จัดตั้งโดยเอกชน

แม้ว่าจะแบ่งมหาวิทยาลัยออกเป็น 3 ประเภทตามองค์กรที่จัดตั้งก็ตาม แต่ทั้ง 3 ประเภทก็ถูกจัดตั้งขึ้นด้วยมาตรฐานเดียวกัน คุณภาพทางการศึกษาในระดับเดียวกัน ต่างกันที่ค่าใช้จ่ายของเอกชนจะแพงกว่าของรัฐบาลและท้องถิ่น

และถึงแม้ว่านักศึกษาส่วนใหญ่ ต่างก็มุ่งที่จะเรียนในโตเกียวก็ตาม แต่ในพื้นที่อื่น ๆ ของญี่ปุ่นก็มีข้อได้เปรียบอื่น ๆ หลายอย่าง เช่นในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า จำนวนนักศึกษาต่อห้องที่น้อยกว่าทำให้อาจารย์ดูแลได้ทั่วถึง มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับสังคมท้องถิ่นง่ายกว่าการอยู่ในเมืองใหญ่ที่สับสนวุ่นวาย เป็นต้น

เงื่อนไขในการเข้าศึกษาใน มหาวิทยาลัยญี่ปุ่น ปริญญาตรี

โดยทั่วไป จะต้องมีอายุครบ 18 บริบูรณ์และมีคุณสมบัติตามข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

  1. จบการศึกษาหลักสูตร 12 ปี ( นับจาก ป.1 – ม.6 ) หรือมีวุฒิเทียบเท่าการศึกษาหลักสูตร 12 ปี
  2. จบการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติในประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการรับรองแล้วว่าเทียบเท่าโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
  3. มีใบรับรอง International Baccalaureate, Abitur หรือ Baccalaureate
  4. จบการศึกษาหลักสูตร 12 ปี จากโรงเรียนนานาชาติที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรต่างประเทศ (WASC,CSI,ACSI)
  5. มหาวิทยาลัยได้พิจารณาคุณสมบัติแล้วให้เข้าศึกษา

(*ในข้อ1-2 นั้น กรณีศึกษาไม่ครบระยะเวลา 12 ปี จำเป็นต้องศึกษาในหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นเพื่อเตรียมศึกษาต่อที่ได้การรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการฯ ญี่ปุ่น ได้แก่ โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น The Naganuma School ,  ABK และ Sendagaya )

การเข้าศึกษาใน มหาวิทยาลัยญี่ปุ่น

การเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่สอนโดยใช้ภาษาญี่ปุ่น  การจะเข้าไปนั่งเรียนกับนักศึกษาญี่ปุ่นได้  จึงจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นในระดับที่ดีมาก


สำหรับผู้ที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นแล้ว (ระดับ N2 – N1)

  1.  สมัครโดยตรงจากประเทศไทย 
    มีมหาวิทยาลัยรับนักศึกษาโดยพิจารณาจาก ใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัคร  และตอบรับเข้าเรียนก่อนที่จะเดินทางไปญี่ปุ่น   โดยพิจารณาจากผลการสอบ EJU ( มหาวิทยาลัยประมาณ 60 แห่ง)  ประกอบกับผลสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น
  2. เดินทางไปสอบคัดเลือกในประเทศญี่ปุ่นโดยวีซ่าระยะสั้น 
    วิธีนี้ต้องวางแผนการให้ดี เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยมีการจัดสอบไม่ตรงกัน คือสำหรับการเปิดภาคเรียนในเดือนเมษายน การสอบเข้าจะอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน – มีนาคม

สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่น หรือต่ำกว่าระดับ N2

เข้าศึกษาในสถาบันสอนภาษาที่ญี่ปุ่นก่อน
เป็นวิธีที่นักศึกษาต่างชาติส่วนใหญ่ใช้มากที่สุด  โดยเลือกเข้าเรียนในสถาบันสอนภาษาที่ญี่ปุ่น ที่มีหลักสูตรเพื่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ระยะเวลาประมาณ 1 – 2 ปี หลังจากนั้นค่อยสมัครเข้าเรียนและดำเนินการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย หรือยื่นคะแนน EJU  ตามแต่เงื่อนไขของแต่ละมหาวิทยาลัย 

LINK
>> รายชื่อสถาบันสอนภาษาในญี่ปุ่นที่มีหลักสูตรเพื่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

การสอบเพื่อเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย

เงื่อนไขการสอบคัดเลือกของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง  มีความแตกต่างกันไป   มหาวิทยาลัยแห่งใดจะใช้การสอบแบบใดนั้น  จำเป็นที่จะต้องเช็คเงื่อนไขของมหาวิทยาลัยนั้นโดยตรง 

1. การสอบคัดเลือกของมหาวิทยาลัยโดยตรง
มหาวิทยาลัยจำนวนมากที่จัดให้มีกระบวนการสอบคัดเลือกพิเศษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครต้องไปสอบที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรายละเอียดของวิชาที่สอบ วันสอบและวิธีการคัดเลือกจะแตกต่างกันไปตามแต่ละมหาวิทยาลัย

2. การสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น (JLPT)
การนำผลการสอบ JLPT  ไปประกอบการพิจารณานั้นแตกต่างกันไปตามมหาวิทยาลัย โดยส่วนใหญ่จะใช้ผลสอบการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น ระดับ N1  แต่ก็มีมหาวิทยาลัยบางแห่งที่ใช้ระดับ N2   อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

3. การสอบเพื่อศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น ( EJU )
เป็นการจัดสอบสำหรับนักศึกษาต่างชาติทุนส่วนตัวที่ประสงค์จะเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น  เพื่อวัดความสามารถทางการศึกษาและความสามารถในด้านภาษาญี่ปุ่น โดยจะใช้ผลการสอบนี้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณารับนักศึกษาเพื่อเข้าศึกษาต่อ  อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

4. การสอบโดยศูนย์การสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติ
เป็นการสอบแบบเดียวกับนักเรียนญี่ปุ่น  มหาวิทยาลัยส่วนมากยกเว้นการสอบนี้สำหรับนักศึกษาต่างชาติ แต่ในบางคณะของสถาบันบางแห่ง ยังคงกำหนดให้นักศึกษาต่างชาติต้องผ่านการสอบนี้อยู่ โดยเฉพาะคณะแพทยศาสตร์

5. วิธีการอื่น ๆ ในการคัดเลือกนักศึกษาต่างชาติ
วิธีการอื่น ๆ ที่มหาวิทยาลัยใช้ในการคัดเลือกนักศึกษาต่างชาติ มีทั้งการตรวจสอบเอกสาร การสอบวัดความสามารถที่มหาวิทยาลัยนั้น ๆ จัดขึ้นโดยเฉพาะ การสอบสัมภาษณ์ บทความสั้น เรียงความ การสอบวัดความสามารถ และความถนัดอื่น ๆ ซึ่งมีวิธีการแตกต่างกันไป ตามคณะของแต่ละมหาวิทยาลัย

หลักสูตรภาษาอังกฤษ

ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติ  ดำเนินการสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษ  บางแห่งมีวิชาภาษาญี่ปุ่นให้นักศึกษาต่างชาติได้เรียนเพิ่มเติม

การจะเข้าเรียนในหลักสูตรภาษาอังกฤษนี้  สามารถสมัครโดยยื่นเอกสารสมัครเรียนจากนอกประเทศญี่ปุ่นได้  แต่ทั้งนี้ จะต้องเป็นนักเรียนที่เรียนจบจากหลักสูตรนานาชาติ  หรือมีผลคะแนนภาษาอังกฤษในระดับดีมาก  ( พิจารณาจากคะแนน TOEFL หรือ IELTS แล้วแต่มหาวิทยาลัย )  หรือยื่นคะแนน EJU  แบบที่เลือกข้อสอบภาษาอังกฤษได้

LINK
>> มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนด้วยหลักสูตรภาษาอังกฤษ
>> มหาวิทยาลัยในโครงการ Global 30 ของรัฐบาลญี่ปุ่น

ค่าเล่าเรียน มหาวิทยาลัยญี่ปุ่น ระดับปริญญาตรี

ตารางแสดงค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในปีแรก
( รวมค่าธรรมเนียมในการสมัคร ค่าเล่าเรียน ค่าอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ด้วย ) สำหรับในชั้นปีที่สอง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะลดลงเหลือประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะค่าแรกเข้านั้นเสียเฉพาะในปีแรกเท่านั้น

รัฐบาล ( ทุกสาขา ) 817,800 เยน 261,696 บาท
ท้องถิ่น 770,355 เยน 246,514 บาท
เอกชน
แพทยศาสตร์ 4,923,504 เยน 1,575,521 บาท
ทันตแพทยศาสตร์ 4,394,504 เยน 1,406,382 บาท
เภสัชศาสตร์ 2,079,655 เยน   665,490 บาท
ศิลปกรรมศาสตร์ 1,678,242 เยน   537,037 บาท
สาธารณสุขศาสตร์ 1,534,088 เยน   490,908บาท
วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ 1,412,274 เยน   451,928 บาท
เกษตรศาสตร์และสัตวแพทย์ศาสตร์ 1,345,191 เยน   430,461 บาท
พลศึกษา 1,264,455 เยน   404,626 บาท
คหกรรมศาสตร์ 1,260,386 เยน   403,324 บาท
อักษรศาสตร์และศึกษาศาสตร์ 1,186,593 เยน   379,710 บาท
เศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์ และพาณิชยศาสตร์ 1,170,613 เยน   374,596 บาท
ศาสนศาสตร์ 1,112,579 เยน  356,025 บาท
สังคมสงเคราะห์ศาสตร์ 1,131,882 เยน   362,202 บาท


เงื่อนไขสำหรับการสำเร็จการศึกษา

มหาวิทยาลัยส่วนมากกำหนดจำนวนหน่วยกิตไว้อย่างน้อย 124 หน่วยกิต (ยกเว้นคณะแพทย์ศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ จะต้องได้หน่วยกิตอย่างน้อย 188 หน่วยกิต ส่วนคณะสัตวแพทยศาสตร์ต้องได้หน่วยกิต อย่างน้อย 182 หน่วยกิต ) หลังจากสำเร็จการศึกษา นักศึกษาจะได้รับ ” ปริญญาตรี ” ( Gakushi )

รายชื่อสถาบันการศึกษาในญี่ปุ่น ที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นสำนักงานในประเทศไทย 

ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น

เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999  ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง  ไม่คิดค่าดำเนินการใดๆ

รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)

ติดต่อสอบถาม – สมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น

สาขาสีลม
อาคารลิเบอร์ตี้สแควร์ (ปากซอยคอนแวนต์) เลขที่ 287 ชั้น 23 ห้อง 2303 ถนนสีลม เขตบางรัก กทม. 10500
สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง / MRT สีลม
โทร. 0-2267-7726 ต่อ 101-104

Email : ask@jeducation.com

ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับเจ้าหน้าที่ คลิกที่นี่ได้เลยค่ะ

Scroll to Top