ซักผ้า (洗濯:sentaku)
อ.ปมโปโกะ
อยู่เมืองไทยแสนสบายกว่าอยู่ญี่ปุ่น ที่แน่ๆ คือ อะไรที่ไม่อยากทำเองก็สามารถจ้างคนอื่นทำได้ เพราะค่าจ้างถูก แต่พอมาอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้ว อะไรๆ ก็ต้องทำเอง ค่าแรงที่นี่สูง บ้านไหนๆ จึงไม่ค่อยมีแม่บ้านหรือคนดูแลบ้านที่เรียกว่า「メード」(maid)ผู้หญิงมักจะต้องรับภาระดูแลงานบ้านทั้งหมด กลายเป็น “แม่บ้าน” ที่เรียกว่า「専業主婦」(sengyou-shufu)
เวลาใครถามว่าทำงานอะไรก็บอกว่าเป็น「専業主婦」ก็เข้าใจว่าเป็นแม่บ้านดูแลบ้านให้สามี สมัยนี้ผู้หญิงผู้ชายเริ่มมีสิทธิเท่าเทียมกันมากขึ้น ถ้าเป็นพ่อบ้านก็จะเรียกว่า “เซ็งเงียวชูฝุ” เหมือนกัน แต่ถ้าเขียนเป็นคันจิจะแก้คันจิเป็น「専業主夫」แทน เพราะ「夫」หมายถึงสามี ส่วน「婦」หมายถึงภรรยา ถ้าเอามาติดกันเป็น「夫婦」(ฟู่ฝุ)ก็จะแปลว่าสามีภรรยา
เนื่องจากที่ญี่ปุ่นเครื่องใช้ไฟฟ้าถูกกว่าที่เมืองไทย (ที่จริงราคาก็พอๆ กัน แต่ว่าค่าครองชีพที่ญี่ปุ่นสูงเลยดูเหมือนว่าราคาถูกลง) แต่ละบ้านจึงมีเครื่องซักผ้า(洗濯機:sentaku-ki)ประจำบ้าน มีอะไรก็หย่อนลงถังซักผ้า แต่ถ้าอยู่คนเดียว หรืออยู่อพาร์ตเมนต์ชั่วคราว การลงทุนซื้อเครื่องซักผ้ามาใช้ก็ค่อนข้างลำบาก เพราะถ้าคำนึงถึงตอนย้ายบ้านก็จะกลายเป็นสัมภาระไป คนกลุ่มนี้จึงนิยมไปร้านซักผ้าที่เรียกว่า「コインランドリー」( koin randorii:มาจากภาษาอังกฤษว่า coin laundry หมายถึงร้านซักผ้าแบบหยอดเหรียญ)โดยในร้านจะมีเครื่องซักผ้าอัตโนมัติตั้งอยู่มากมาย
ข้อดีของร้านนี้คือ มีเครื่องอบแห้ง(乾燥機:kansou-ki)ด้วย ลองนึกสภาพอากาศของญี่ปุ่น ฝนตกก็บ่อย ยิ่งหน้าหนาวหากตากผ้าไว้ข้างนอก ผ้าจะแข็ง และก็ชื้นๆ (ใครอยู่ฮอกไกโดคงตากผ้าข้างนอกได้ยากหน่อย) หลายบ้านใช้วิธีตากผ้าในบ้านซึ่งก็ทำให้บ้านชื้นเหมือนกัน จึงจำเป็นต้องมีเครื่องอบแห้ง (บางบ้านนิยมตากผ้าในบ้านเวลาหน้าหนาวเพราะเมื่อเปิดฮีตเตอร์แล้วอากาศในบ้านจะแห้ง มีผ้าตากไว้ก็ช่วยแชร์ความชื้นทำให้อากาศไม่แห้งมาก แถมผ้าก็แห้งด้วย)
เวลาไปร้านซักผ้า ขั้นแรกก็จะเอาผ้าใส่ถังซักผ้า ราคาซักก็ตกครั้งละ 200-300 เยน ประมาณเกือบหนึ่งร้อยบาท ผงซักฟอก(洗剤:senzai)น้ำยาปรับผ้านุ่ม(柔軟仕上げ剤:juunan-shiage-zai)ต้องนำมาเอง ถ้าไม่มีก็ซื้อที่ร้านได้แต่จะเป็นถุงเล็กขนาดใช้ต่อครั้งราคา 50-100 เยน แต่ปกติซื้อผงซักฟอกตามร้านแบบกล่องที่ร้านร้อยเยนก็มีขาย ราคาจะถูกกว่า คนจึงนิยมนำไปเองมากกว่า บางเครื่องจะมีช่องใส่ผงซักฟอก แต่ถ้าไม่มีก็ใส่ก่อนลงผ้า
การใช้เครื่องซักผ้าหรือเครื่องอบแห้งจะมีภาพประกอบทำให้เข้าใจง่าย โดยปกติ หยอดเหรียญไปแล้วไฟก็จะขึ้น ถ้าไฟดับเมื่อไหร่ก็แสดงว่าเสร็จแล้ว เครื่องซักผ้าบางที่จะมีปุ่ม「シャワー」(shower)เพื่อฉีดน้ำมาทำความสะอาดถังก่อน เพราะอาจจะมีสิ่งสกปรกตกค้างจากการซักครั้งที่แล้ว ก่อนซักจึงควรทำความสะอาดถังเสียก่อน เครื่องซักผ้าในปัจจุบันจะมีขั้นตอนการทำงาน 3 ขั้น คือ「洗い」(arai:ล้าง ในที่นี้คือการซักผ้าด้วยผงซักฟอก)、「濯ぎ」(susugi:การขจัดคราบ ในที่นี้คือการซักด้วยน้ำ)、「脱水」(dassui:การรีดน้ำออก ในที่นี้คือการปั่นให้หมาด)
เมื่อเครื่องทำงานเสร็จ ก็จะนำผ้าที่ซักไปเข้าเครื่องอบแห้ง(乾燥機)เสียเงินอีก 100-200 เยน เสร็จแล้วก็จะได้ผ้าที่ร้อนทีเดียวจึงต้องระวังจะลวกมือด้วย การซักผ้ามักกินเวลานาน คนที่ใช้เครื่องซักผ้าจึงต้องหาหนังสือมาอ่าน หรือถ้าบ้านใกล้ ที่ปล่อยทิ้งไว้แล้วค่อยมาเก็บก็มี ร้านซักผ้าหยอดเหรียญปัจจุบันมักอยู่ใกล้โรงอาบน้ำ หรืออาจจะเป็นบริการหนึ่งของโรงอาบน้ำ เพราะสามารถไปอาบน้ำ หรือแช่น้ำระหว่างที่ ซักผ้า ได้ ไม่เสียเวลา อีกทั้งยังอยู่ใกล้หูใกล้ตาไม่กลัวหาย
นอกจากร้านซักผ้าหยอดเหรียญแล้วยังมีร้านซักแห้งเรียกว่า「ランドリー」(randorii)หรือ「クリーニング」(kuriiningu:มาจากภาษาอังกฤษว่า cleaning แปลว่าทำความสะอาด)ด้วย ร้านพวกนี้จะซักผ้าซึ่งปกติซักหรือทำความสะอาดลำบากเช่น ชุดแจ็คเก็ต หรือโค้ทหน้าหนาว ชุดสูท ผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ผ้านวมเป็นต้น ราคาประมาณตั้งแต่ 500 เยน โดยราคาจะแตกต่างไปตามเนื้อผ้าว่าซักง่ายหรือซักยาก และขนาดเสื้อ หากใครเงินน้อย หรืออยากประหยัด บางคนก็จะนำเสื้อผ้าที่จะซักแห้งไปแขวนไว้ในห้องน้ำ ก่อนอาบน้ำ คนญี่ปุ่นจะเติมน้ำร้อนลงอ่างที่เรียกว่า「お風呂」(ofuro:อ่างอาบน้ำ)ในช่วงนี้ไอน้ำจากน้ำร้อนจะลอยขึ้นมาเต็มห้องน้ำ ก็อาศัยไอน้ำนั้นอบผ้าแล้วนำไปผึ่งอีกที
โดยปกติ เสื้อผ้าที่ส่งร้านซักแห้งจะราคาแพงทีเดียว ดังนั้นเสื้อผ้าทั่วไปจึงต้องซักเอง แล้วก็ต้องรีดเอง ไม่มีบริการอย่างในเมืองไทย การรีดผ้าเรียกว่า「アイロン」(airon)เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ เดี๋ยวนี้ที่ญี่ปุ่นนิยมเตารีดไอ้น้ำ แต่ถ้าไม่อยากรีดจะใส่ทั้งยับๆ ก็ได้ เพราะนอกจากเสื้อเชิ้ตทำงานแล้ว คนญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยจะรีดกางเกงหรือแม้แต่เสื้อเชิ้ตแบบลำลอง ใส่เสื้อยับไปก็ไม่แปลกตาเท่าในเมืองไทย
คำศัพท์เพิ่มเติม
洗濯物(sentaku-mono)เสื้อผ้าที่จะซัก
ドライクリーニング(dorai kuriiningu)การซักแห้ง (ทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า dry cleaning)
生地(kiji)เนื้อผ้า หรือ ผ้าทั่วไป
綿(men)ผ้าฝ้าย
絹(kinu)ผ้าไหม บางครั้งเรียกทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า「シルク」(shiruku:silk)เช่นผ้าไหมไทยเรียกว่า「タイシルク」(tai-shiruku)ไม่เรียกว่า「タイ絹」(tai-kinu)
麻(asa)ผ้าลินิน
ウール(uuru)ผ้าขนสัตว์
ポリエステル(poriesuteru)ผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือผ้าใยสังเคราะห์
คำศัพท์รู้ไว้ใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นกับอ.ปมโปโกะ อ่านเพิ่มเติม คลิกที่นี่
ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารการศึกษาวันนี้
- เรียนต่อญี่ปุ่น หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว
- เรียนต่อญี่ปุ่น หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานในประเทศไทยของสถาบันโดยตรง แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นทุกระดับ โดยศิษย์เก่าญี่ปุ่น ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน โดยไม่คิดค่าดำเนินการใด ๆ รวมถึงค่าส่งเอกสารไปที่ญี่ปุ่น
ปรึกษาเรื่องเรียนต่อญี่ปุ่น โทร. 02-665-2969, 02-258-3983
email : ask@jeducation.com
ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับเจ้าหน้าที่ คลิกเลย >> https://bit.ly/jed-line