ชีวิตม.ปลายที่ญี่ปุ่น Fukui
…ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ จากเคยอยู่ที่บ้านมีคนทำทุกอย่างให้ ก็ต้องมาทำอะไรๆ ด้วยตัวเอง…
การเข้าเรียนต่อม.ปลายที่ญี่ปุ่นสำหรับนักเรียนไทยนั้น ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนโรงเรียน แต่นับเป็นการเปลี่ยนสังคม เปลี่ยนการใช้ชีวิตของน้องๆไปเลยตลอด 3 ปีค่ะ
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้ให้เพียงประสบการณ์เท่านั้น แต่ยังมอบทัศนคติที่ดี ความมีระเบียบวินัย ด้วยการฝึกฝนและขัดเกลาจากที่โรงเรียนมัธยมปลายของญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ
แต่สำหรับเด็กอายุ 15 ปี จะสามารถรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้มั้ย?
“น้องพุทธ” เป็นหนึ่งในนักเรียนไทยที่ตัดสินใจไปเรียนต่อมัธยมปลายที่ญี่ปุ่น และเป็นนักเรียนอีกหนึ่งคนที่เรียกได้ว่าชีวิตเปลี่ยนไปแบบสุดๆ เมื่อได้มาอยู่ในรั้วม.ปลายที่ญี่ปุ่นแห่งนี้ ซึ่งน้องพุทธ จะมาเล่าให้ฟังกันค่ะว่า ชีวิตม.ปลายที่ญี่ปุ่น Fukui Senior High School จะเป็นยังไงบ้าง
Q: แนะนำตัวหน่อย
สวัสดีครับ ผมชื่อพุทธครับ ภูมิลำเนาคือจังหวัดขอนแก่นครับ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนม.ปลายฟุคุอิ ชั้น ม.6 ครับ อยู่ชมรมเคนโด้ ยินดีที่ได้รู้จักครับ
น้องพุทธ (คนขวา)
Q: ได้มาเรียนที่ Fukui Senior High School เป็นยังไงบ้าง
พอมาอยู่ญี่ปุ่นแล้วก็เริ่มต้องทำอะไรด้วยตัวเองครับ เช่น ตื่นนอนเอง, ซักผ้า, ตากผ้า โดยรวมคือต้องรู้จักทำอะไร ๆ ด้วยตัวเองครับ รู้สึกว่าตัวเองนั้นโตขึ้นมากเลยล่ะครับ
นอกจากนี้ อาหารการกิน จะมี 2 แบบครับ โรงอาหารของหอพักนักเรียนชาย เมนูก็จะเปลี่ยนทุกวันครับ ส่วนวันที่ไปโรงเรียน ก็สามารถเลือกกินที่โรงอาหารโรงเรียนได้
พออยู่มาได้ 3 ปีแล้วรู้สึกตัวเองเปลี่ยนไปเยอะมากครับ จากตอนแรกทำอะไรเองไม่ค่อยเป็นเดี๋ยวนี้ก็ทำได้แล้ว แถมยังเก่งภาษาญี่ปุ่นขึ้นมากด้วยครับ
Q: ชีวิตประจำวันที่นี่เป็นยังไงบ้าง
ชีวิตประจำวันของนักเรียนไทยในโรงเรียนญี่ปุ่น โดยคร่าว ๆ ก็จะประมาณนี้ครับ
7.35 | ตื่นนอน, ล้างหน้าแปรงฟัน |
7.45 | กินข้าวเช้า |
8.00 | ไปโรงเรียน |
8.35-15.35 | เรียนหนังสือ |
15.45-16.35 | เรียนพิเศษภาษาญี่ปุ่น |
16.40-18.30 | ไปชมรมเคนโด้ |
18.50 | อาบน้ำ |
19.00 | กลับหอ ไปซักผ้า,กินข้าว |
19.30 | เก็บผ้าตากผ้า |
20.00 | ทำการบ้าน ทบทวนบทเรียน |
21.35 | เช็คชื่อประจำหอ |
21.35-23.00 | เวลาอิสระ |
23.05 | แปรงฟังล้างหน้าเตรียมตัวนอน |
23.25 | ปิดไฟนอน |
Q: มาใช้ ชีวิตม.ปลายที่ญี่ปุ่น แบบนี้ มี Culture Shock บ้างไหม
Culture Shock เรื่องใหญ่ที่สุดก็คือเรื่องการอาบน้ำครับ เพราะปกติคนไทย อาบน้ำ 2 ครั้งต่อวันใช่ไหมครับ แต่คนญี่ปุ่นนั้นอาบน้ำกันแค่วันละครั้งครับคือตอนเย็น ตกใจมาก ๆ เลยครับในตอนแรก แต่เพราะอากาศที่ไม่ได้ร้อนจนเกินไปก็เลยเข้าใจได้แล้วครับว่าทำไมเขาถึงอาบน้ำแค่วันละ 1 ครั้ง
นอกจากนี้ Culture Shock อีกเรื่องคือ การอาบน้ำรวมครับ สำหรับนักเรียนที่พักอาศัยกับหอพักของโรงเรียน จะต้องไปอาบน้ำที่ออนเซ็นของโรงเรียน (โรงเรียนมีโรงแรมในเครือและมีออนเซ็นบริการฟรีสำหรับนักเรียน)
และกฎระเบียบ ที่นี่ค่อนข้างเคร่งครัดรวมไปถึงระบบรุ่นพี่รุ่นน้องด้วย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายกันอย่างที่มีข่าวนะครับ แต่ว่าคนที่อายุน้อยกว่าจะต้องให้ความเคารพแก่คนที่อายุมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น การทักทายคนที่มีอายุมากกว่า เวลาพบเจอตามทางเดิน ว่า こんにちは (คนนิจิวะ) ด้วยเสียงดังฟังชัด อะไรแบบนี้ครับ
Q: ทำไมถึงเลือกที่เข้าชมรมเคนโด้ ทั้งๆที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
ตอนแรกดูๆไว้สองชมรมครับคือ วอลเลย์บอลกับเคนโด้ แต่พอดู ๆ แล้วอยากลองอะไรที่มีแค่ญี่ปุ่น หรือมาจากญี่ปุ่นอะไรแบบนี้ พอได้ลองเล่นก็รู้สึกชอบครับ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็สนุกครับ
นอกจากนี้ตอนเข้าชมรมใหม่ ๆ ด้วยความที่ยังไม่เคยเล่นอะไรหนัก ๆ มาก็เหนื่อยมากครับ มีท้อบ้างแต่ก็อดทน ต้องบอกว่านอกเหนือจากเล่นเพื่อเก่งแล้ว มันมีอะไรมากกว่านั้นครับ ได้ฝึกตัวเองในหลาย ๆ เรื่อง เช่น ความอดทน แถมยังได้เพื่อน ได้สังคมครับ
สำหรับน้องๆ ที่จะมา แนะนำให้เข้าชมรมครับ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นเคนโด้ แต่ว่าการเข้าชมรมนั้นเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นและสิ่งใหม่ๆ นอกเหนือจากในห้องเรียน มีกีฬาอีกหลายอย่างที่เราอาจจะชอบ ซึ่งถ้าเจอที่ตัวเองชอบแล้วตั้งใจทำมัน ผมเชื่อว่ามันต้องออกมาดีแน่นอนครับ
Q: ลองรีวิว Fukui Senior High School ให้ฟังหน่อยค่ะ
โรงเรียนในสายตาผม คือโดยรวมผมชอบนะครับ คุณครูใส่ใจเด็กๆ มาก หากมีเรื่องไม่เข้าใจ ไม่ต้องกลัวที่จะถามอาจารย์นะครับ (ฮ่าๆ) คือที่ญี่ปุ่นนี่ยินดีมาก ถ้านักเรียนจะเข้าไปถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และถ้ายังไม่เข้าใจอีก ก็ไปขอให้อธิบายให้ทีหลังก็ได้ด้วยครับ ถึงแม้โรงเรียนจะมีกฎระเบียบเข้มงวด แต่ในความเข้มงวดนั้นก็มีความเอาใจใส่นักเรียนแฝงอยู่ครับ
ที่ผมชอบมาก ๆ คือเนื้อหาการสอบก็จะเอามาจากที่เรียนในห้อง ไม่ต้องเรียนพิเศษเพิ่ม ถ้าตั้งใจเรียนในห้องและหมั่นทำความเข้าใจบทเรียน ก็จะทำข้อสอบได้แน่นอนครับ
นอกจากนี้ นักเรียนไทยในโรงเรียนเองก็เป็นที่ยอมรับจากคนญี่ปุ่น
กิจกรรมชมรม (เคนโด้) ก็เข้มข้นมากครับ ตามสไตล์โรงเรียนญี่ปุ่น เพราะมีการแข่งขันระหว่างโรงเรียนม.ปลายด้วยกัน ถึงแม้จะฝึกหนัก แต่สิ่งตอบแทนที่ได้รับก็คุ้มค่ามากครับ ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ลองทำกิจกรรมชมรมให้เต็มที่เลยนะครับ 3 ปีมันไวมากจริง ๆ
สำหรับผม ผมคิดว่าโรงเรียนแห่งนี้ได้สอนผมในหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องเรียน, การอยู่ร่วมกับผู้อื่น และการดูแลตัวเอง เป็นต้นครับ
นอกเหนือจากการเรียนในห้องเรียนหรือกิจกรรมชมรมแล้ว โรงเรียนยังมีกิจกรรมนอกห้องเรียนให้นักเรียนด้วยนะครับ
การปฏิบัติตามวิถีเซน ณ วัดเอเฮย์จิ (วัดมรดกโลก) |
เมษายน |
ทัศนศึกษาแบบเดินเท้าประจำฤดูใบไม้ผลิ | พฤษภาคม |
เทศกาลทานาบาตะ | กรกฎาคม |
งานโรงเรียน | กันยายน |
งานกีฬา | กันยายน |
ทัศนศึกษาแบบเดินเท้าประจำฤดูใบไม้ร่วง | ตุลาคม |
สกี | กุมภาพันธ์ |
ทัศนศึกษา | กุมภาพันธ์ |
เป็นไงครับ น่าสนุกไหม
Q: ข้อดีของการได้มาเรียนที่ Fukui Senior High School
มีมากมายเลยครับเช่น สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เพราะได้เรียนภาษาญี่ปุ่นมาตลอด 3 ปี, ได้ภาษาที่ 3 (ภาษาญี่ปุ่น), มีวินัย เพราะที่โรงเรียนให้ความสำคัญในเรื่องระเบียบวินัยมาก ความสามารถในการอยู่ร่วมกับคนอื่น, มีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม, ได้ประสบการณ์ล้ำค่าต่อตนเอง
ถ้ามีโอกาสได้มาเรียน ผมอยากแนะนำให้มาเลยครับเป็นประสบการณ์ชีวิตดีๆ ที่หลายๆ อย่างหาไม่ได้ที่ไทย ได้เพื่อน ได้สังคม ได้รู้จักโลกใหม่ มีมุมมองที่ต่างออกไปจากตอนอยู่ที่ไทยมากเลยครับ
Q: ชีวิตก่อนและหลังมาเรียนที่ญี่ปุ่นเปลี่ยนไปมากมั้ย?
ชีวิตที่ไทยนี่สบายมาก อยู่บ้านมีคนคอยทำนู่นทำนี่ให้ หน้าที่หลัก ๆ คือไปโรงเรียน ครับ ซึ่งพอตอนนี้มองกลับไปรู้สึกว่าเป็นอะไรที่แย่มากเลยครับ แต่ก็อย่างว่าถ้าไม่ลองอะไรใหม่ๆ เราก็จะอยู่แต่ที่เดิม
ส่วนหลังจากได้มาเรียนที่ญี่ปุ่นแล้ว เรียกได้ว่าชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ จากเคยอยู่ที่บ้านมีคนทำทุกอย่างให้ ก็ต้องมาอยู่หอกับเพื่อนและต้องทำอะไร ๆ ด้วยตัวเอง เหมือนอยู่โรงเรียนประจำเลยครับ มีกฎระเบียบเคร่งครัด ต้องเข้า-ออกหอ ตรงเวลา, ทำเวรที่โรงเรียน และปฏิบัติตามกฎของโรงเรียนอย่างเคร่งครัดครับ
ประสบการณ์ของรุ่นพี่ กับการเรียน มัธยมปลายที่ญี่ปุ่น
- ชีวิตนักเรียน ม.ปลาย ที่ญี่ปุ่น : ONE DAY IN JAPAN!
- “หวังให้สูง.. ตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ไว้ก่อน” น้องบุ๊ค – ชาญธิษ นักเรียน ม.ปลาย OISCA
- เปา – ยศเทพ แชร์ประสบการณ์ตอนเป็นนักเรียนมัธยมปลายของ Meitoku
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียน มัธยมปลายที่ญี่ปุ่น
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่นโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999 แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นทุกระดับ โดยศิษย์เก่าญี่ปุ่น ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน
สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง ไม่มีค่าดำเนินการใดๆ
รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)
ติดต่อสอบถาม – สมัคร เรียน
โทร. 02-665-2969, 02-258-3983
email : ask@jeducation.com
คุยกับเจ้าหน้าที่แนะแนว ศิษย์เก่าญี่ปุ่น คลิกเลย >> http://bit.ly/jed-line