Open Campus ของญี่ปุ่น

open campus แบบญี่ปุ่น

 

ลองให้รู้ ดูให้ชัด Open Campus แบบญี่ปุ่น (ตอนที่1)

อีกกิจกรรมยอดฮิตของนักเรียนม.ปลายญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อน ( เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม )  ก็คือการหาสถาบันเพื่อเรียนต่อหลังจบม.ปลาย   ในช่วงนี้สถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่นทั้งระดับวิทยาลัย และมหาวิทยาลัย มักจะมีงาน Open Campus  (オープンキャンパス )  เหมือนกับที่ไทยเรามีงาน Open House ของสถาบันการศึกษา  เป็นการประชาสัมพันธ์สถาบันเพื่อรับสมัครนักเรียนใหม่เข้าเรียนเดือนเมษายนปีหน้าค่ะ

สำหรับคนที่วางแผนเรียนต่อญี่ปุ่น  ระดับวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยระดับปริญญาตรี  เจ๊แนะนำเลยว่า การไปงาน โอเพ่นแคมปัสที่ญี่ปุ่น จะทำให้เราได้รับข้อมูล เพื่อการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมากเลยล่ะค่ะ

ตามสถานีรถไฟหรือบนรถไฟ รถประจำทาง หรือแม้แต่ในโทรทัศน์ จะมีการโฆษณาเชิญชวนไปร่วมงานให้เห็นกันทั่วไปหมดค่ะ

open campus ป้ายโฆษณาบนรถไฟ

Open Campus ของญี่ปุ่น ที่ Kyoto University of Art and Design
Kyoto University of Art and Design

 

open campus banner
Kobe International Universtiy

 

งานโอเพ่น แคมปัสเหล่านี้  นอกจากนักเรียนญี่ปุ่นและผู้ปกครองแล้ว   นักเรียนต่างชาติอย่างเราก็สามารถเข้าร่วมได้เช่นกันค่ะ  บางสถาบันอาจจะจัดแยกวันสำหรับนักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะ   โดยส่วนใหญ่จะจัดร่วมกันกับนักเรียนญี่ปุ่นเลย  แต่จะแยกการอธิบายเรื่องการสมัครเข้าเรียนสำหรับนักเรียนต่างชาติไปคนละกลุ่ม

นักเรียนไทยที่เรียนภาษาอยู่ที่ญี่ปุ่น  ก็จะใช้ช่วงเวลาวันเสาร์-อาทิตย์  ในช่วงนี้ล่ะค่ะ  ไปร่วมกิจกรรมโอเพ่น แคมปัสของวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยต่างๆ

เพื่อที่จะรวบรวมข้อมูลและตัดสินใจสมัครเข้าเรียนในสถาบันที่ตรงกับเป้าหมายของตัวเอง  โดยเฉพาะการจะเข้าเรียนในวิทยาลัยวิชาชีพ หรือ senmon gakkou  การได้ไปทดลองเรียน จะทำให้เข้าใจมากขึ้น ว่าใช่สิ่งที่ตัวเองอยากจะเรียนจริงๆ หรือเปล่า

เพราะหลักสูตรในวิทยาลัยวิชาชีพ ค่อนข้างจะแบ่งย่อยเป็นวิชาเอก เพื่อเรียนเจาะลึกเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ เช่น หลักสูตรเกม  ก็มีวิชาเอกแยกย่อยลงไปอีก เช่น Game programmer ,  Game designer , Game Business ฯลฯ  ถ้าเรายังไม่มั่นใจว่าอยากจะเรียนอะไรกันแน่  ก็สามารถไปทดลองเรียนดูได้

ที่สำคัญคือ  ส่วนใหญ่ทางสถาบันจะไม่จำกัดว่า ไปทดลองเรียนได้กี่สาขาวิชา กี่วิชา กี่วัน  คือลงทะเบียนไปลองได้อย่างจุใจค่ะ

งาน Open Campus ของญี่ปุ่นเค้าไปทำอะไรกัน

 

Campus Tour (学校見学 : gakkou kengaku )

ไปดูสถานที่จริงของสถาบันด้วยตาตัวเองว่าเป็นอย่างไร  ห้องเรียนเป็นแบบไหน  มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง  อุปกรณ์การเรียนไฮเทคขนาดไหน

นอกจากนั้น  ผู้ที่เป็นไกด์พาชมสถาบันมักจะเป็นนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในสถาบันนั้น  ทำให้เราสามารถซักถามข้อมูลปลีกย่อยได้ละเอียดยิบ  หากมีข้อสงสัยเล็กๆ น้อยๆ ที่ปรกติจะไม่มีเขียนในโบร์ชัวร์หรือไม่มีการบรรยายให้ฟัง   ใช้โอกาสนี้ ซักถามกับเจ้าหน้าที่ของสถาบันหรือนักเรียนปัจจุบันไปเลย

มหาวิทยาลัยญี่ปุ่น

ฟังการแนะนำสถาบัน (学校説明会 : gakkou setsumeikai )

ในงานโอเพ่นแคมปัส  มักจะมีการบรรยายเพื่อให้ข้อมูลของสถาบัน เช่น วิสัยทัศน์  หลักสูตร  สาขาวิชาที่เปิดสอน การได้งานของนักศึกษาหลังเรียนจบ  ทุนการศึกษา  ค่าเล่าเรียน  วิธีการรับสมัคร ฯลฯ  ซึ่งนักเรียนสามารถรับเอกสาร โบร์ชัวร์ หรือซีดีแนะนำสถาบันมาศึกษาเพิ่มเติมและเปรียบเทียบข้อมูลกับสถาบันอื่น

ที่สำคัญกว่านั้น หลายๆแห่งยังมีการแจกข้อสอบเก่าที่เคยออกสอบในปีก่อนๆ ด้วยค่ะ  บางแห่งอาจจะให้ดูแค่แนวข้อสอบหรือลักษณะคำถาม  ถือเป็นโอกาสดีที่จะทำให้เราเตรียมตัวสอบแบบไม่หลงทาง

 

introduce

 

เข้าทดลองเรียน ( 体験授業  : taiken jugyou  )

เป็นการจำลองห้องเรียนให้ไปนั่งทดลองเรียนจริงสั้น ๆ  ตั้งแต่ 30 นาที , 1 ชั่วโมงไปจนถึงแบบครึ่งวัน    หากมีภาคปฏิบัติจะได้ลงมือปฏิบัติกันจริงๆ   สามารถลงสมัครทดลองเรียนได้หลายวิชาด้วยนะคะ  แล้วแต่ตารางที่ทางสถาบันกำหนด

นอกจากจะทำให้รู้ว่าการเรียนการสอนเป็นอย่างไรแล้ว ยังได้รู้ด้วยว่าเราชอบและอยากจะเรียนด้านนี้อย่างจริงจังหรือไม่  โดยเฉพาะการเรียนในวิทยาลัยวิชาชีพ สาขาวิชาที่เรียนจะย่อยละเอียดมากๆ  จึงควรทดลองเรียนเพื่อที่จะได้รู้ว่า ใช่สิ่งที่เราต้องการเรียนรู้จริงๆ

ถ้าเป็นการทดลองเรียนแบบที่ได้ผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน  เราก็จะได้ผลงานนั้นกลับบ้านมาด้วยค่ะ

นอกจากนั้น งานโอเพ่น แคมปัสของมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยด้านศิลปะและการออกแบบ  ยังมีข้อดีตรงที่  จะมีโอกาสเรียนแบบลงมือปฏิบัติกันจริงๆ กับอาจารย์ผู้สอนโดยตรงด้วย  บางแห่งมีการเชิญอาจารย์พิเศษ ซึ่งเป็นมืออาชีพที่มีชื่อเสียงในวงการมาอีกต่างหาก  โดยเฉพาะถ้าเป็นคนในวงการมังงะล่ะก็  เตรียมรอต่อคิวขอลายเซ็นต์กันได้เลยค่ะ คิวยาวแน่นอน

Open Campus ของญี่ปุ่น workshop วาดรูป

Open Campus ของญี่ปุ่น workshop CG

 

3 อย่างข้างต้น คือประเด็นหลักสำคัญในการไปงานโอเพ่น แคมปัสค่ะ  ต่อไปจะเป็นพวกน้ำจิ้ม ของแถม


อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ

สถาบันส่วนใหญ่จะจัดเตรียมอาหารกลางวันไว้ให้ฟรีสำหรับนักเรียนที่มาร่วมงานค่ะ   บางแห่งอาจจะจัดเป็นข้าวกล่อง  บางแห่งให้คูปองไปทานในโรงอาหาร  ถือเป็นโอกาสอันดีในการเช็คเมนู ความหลากหลาย ความสะอาด บรรยากาศ  ความอร่อยและราคาของร้านอาหารในโรงอาหารไปในตัว

Open Campus ของญี่ปุ่น คูปองอาหารกลางวัน
คูปองอาหารกลางวัน


เมนู อาหารตัวอย่าง


担々麺 : tantanmen


เอนจอยกับงานเทศกาลโรงเรียน

สถาบันหลายแห่งจัดงานเทศกาลโรงเรียนที่เรียกว่า 学園祭  : gakuensai  ไปพร้อมๆ กับการเปิดโอเพ่น แคมปัสค่ะ ปรกติแล้วงานเทศกาลของโรงเรียนมักจะเป็นงานใหญ่ที่สุดที่จัดทุกๆ ปี  ทำให้เรารู้ได้ว่าบรรยากาศแบบพีคสุด ๆ ของสถาบันนั้นเป็นอย่างไรยังไงล่ะคะ

 

ชื่นชมผลงาน  กระตุ้นต่อมแรงบันดาลใจ

ในงานนี้มักจะมีการจัดแสดงผลงานของนักเรียนปัจจุบัน หรือผลงานจบการศึกษา   ทำให้เห็นได้ว่าผลงานของนักเรียนที่เรียนที่สถาบันนั้นเจ๋งขนาดไหน   ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดีค่ะ   สร้างความมุ่งมั่นและฝันบรรเจิดว่าเราจะสร้างผลงานดีๆแบบนี้บ้าง

ผลงานนักเรียน ในงาน Open Campus
ผลงานนักเรียน

 

ได้ของที่ระลึกติดไม้ติดมือ

ข้อสุดท้าย…ไม่ได้งกค่ะ  สถาบันส่วนใหญ่มักจะทำของที่ระลึกแจกผู้ที่มาร่วมงาน   นอกจากนั้นของที่ใช้ในการทดลองเรียน  ถ้าเป็นของกระจุกกระจิกที่ทำด้วยฝีมือเราเอง  ก็จะได้กลับมาเป็นที่ระลึกด้วย  ถือเสียว่าเป็นของแถมเล็กๆน้อยๆ ติดไม้ติดมือกลับมาด้วยนะคะ

ของที่ระลึกทำเองกับมือ
ของที่ระลึกทำเองกับมือ
ของที่ระลึก Open Campus ของญี่ปุ่น
ของที่ระลึก

 

การจะไปร่วมงานโอเพ่นแคมปัสทำอย่างไร

สำหรับนักเรียนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนสอนภาษาที่ญี่ปุ่นอยู่แล้ว  ไม่ใช่เรื่องยากค่ะ สามารถทำได้หลายทางได้แก่

  1. เข้าไปลงทะเบียนออนไลน์ในเว็บไซท์ของสถาบันที่สนใจ
    ในเว็บไซท์ของสถาบันจะมีรายละเอียดและตารางเวลาแจ้งเอาไว้อย่างละเอียด พร้อมทั้งให้ลงทะเบียนออนไลน์ในเว็บไซท์ได้เลย  เป็นวิธีที่สะดวกที่สุด
  2. สถาบันหลายแห่งมีการไปแนะนำตามโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น
    มีการนำโบร์ชัวร์หรือไปรษณียบัตรสำหรับให้ส่งลงทะเบียนเข้าร่วมงานไปแจกด้วย   หากสนใจสถาบันไหน  ก็สามารถกรอกรายละเอียดในไปรษณียบัตรส่งทางไปรษณีย์
  3. สอบถามกับเจ้าหน้าที่หรืออาจารย์ของโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นที่เรียนอยู่
    โรงเรียนสอนภาษาส่วนใหญ่ยินดีที่จะให้คำแนะนำกับนักเรียนค่ะ   และยิ่งถ้าเป็นโรงเรียนสอนภาษาที่อยู่ในสังกัดเดียวกันกับมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยวิชาชีพ   บางแห่งทางโรงเรียนมีการจัดกลุ่มพานักเรียนไปทดลองเรียนด้วย

 

หมายเหตุ

  • สำหรับการทดลองเรียน ส่วนใหญ่จะจัดหลายวัน  แล้วแต่วิชา ดังนั้นหากต้องการทดลองเรียนหลายวิชา  จำเป็นที่จะต้องลงทะเบียนในแต่ละครั้งไป  
  • งานโอเพ่นแคมปัส ของมหาวิทยาลัยเอกชน และวิทยาลัยวิชาชีพหลายแห่ง จะมีการจัดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ไปจนถึงปลายปี

 

เจ๊แนะนำเลยค่ะ   สำหรับผู้ที่คิดจะเรียนต่อ โดยเฉพาะการเรียนหลักสูตรวิชาชีพเฉพาะทางในวิทยาลัยวิชาชีพของญี่ปุ่น

การไปงานโอเพ่น แคมปัสหลายๆ แห่งและเข้าทดลองเรียนจริง คือวิธีการเลือกสถาบันและสาขาวิชาที่ดีที่สุด   เพราะทำให้เราสามารถตัดสินใจเลือกสถาบันและสาขาวิชาได้ตรงกับเป้าหมายของตัวเองมากที่สุดค่ะ

 

ตอนหน้ามาดูกันว่า  การไปงานโอเพ่น แคมปัส มีอะไรที่ต้องคำนึงถึงและควรต้องเช็คเรื่องอะไรบ้างนะคะ
>> ตอนที่ 2 ไปงาน Open Campus กัน

 


ภาพประกอบจาก

Kyoto University of Art and Design
Nihon Kogakuin College
Toho Gakuen College
Shobi College of Music
Bunka Fashion College

 

ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น

เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999  ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง  ไม่คิดค่าดำเนินการใดๆ

รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)

ติดต่อสอบถาม-ปรึกษาเรื่องเรียนต่อญี่ปุ่น
โทร. 02-267-7726
email : ask@jeducation.com

ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับเจ้าหน้าที่ คลิกเลย  >> https://bit.ly/jed-line

Scroll to Top