เรียนภาษาญี่ปุ่นต้องถึง JLPT ระดับไหน ถึงจะใช้ได้ตรงเป้า?

ถ้าคุณกำลังเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่น และเคยได้ยินคนพูดถึงคำว่า “N5, N4, N3…” แล้วรู้สึกงงๆ ว่า นี่มันคืออะไรกันนะ? ต้องสอบด้วยเหรอ? หรือแค่เรียนพอใช้ได้ก็พอ?

ระดับการสอบ Japanese Language Proficiency Test หรือ JLPT เป็นการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นสำหรับชาวต่างชาติ เป็นที่นิยมในการใช้วัดระดับความรู้เพื่อสมัครเรียน, สมัครเข้าทำงาน หรือ ยื่นประกอบการสมัครทุนการศึกษา

📘 ทำไมถึงต้องสอบ JLPT?

แม้ว่าการเรียนภาษาญี่ปุ่นจะสามารถเรียนเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันได้โดยไม่ต้องสอบก็จริง แต่ถ้าคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น…

  • อยากไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น
  • อยากทำงานกับบริษัทญี่ปุ่น
  • อยากยื่นสมัครทุนการศึกษา
  • หรืออยากรู้ว่าตัวเองเก่งแค่ไหนแล้ว

การสอบ JLPT ก็จะเป็น “เครื่องมือสำคัญ” ที่ช่วยพิสูจน์ระดับความสามารถของคุณได้ (JLPT จัดสอบยังไง?…คลิกที่นี่เพื่ออ่านเพิ่มเติม)

แล้วแต่ละระดับของ JLPT ต้องเรียนถึง ระดับไหน ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

และถ้ากำลังสงสัยว่า “ต้องมีระดับไหนถึงจะไปเที่ยวญี่ปุ่นได้?” หรือ “จะทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นต้องสอบถึงระดับไหน?” เราสรุปมาให้แล้วค่ะว่า แต่ละเป้าหมายในชีวิต ใช้ JLPT ระดับไหนจึงจะตรงจุด! เลื่อนลงไปดูกันเลย


JLPT

ภาพแบบสรุปเข้าใจง่ายๆ หรืออ่านแบบละเอียดด้านล่างได้เลย!

🌸 N5 – เริ่มต้นสายเที่ยว / ไปเรียนภาษาที่ญี่ปุ่น

ระดับนี้เป็นพื้นฐานเบื้องต้น ใช้สำหรับฟัง พูด อ่าน เขียน ในชีวิตประจำวันแบบง่ายๆ เช่น ทักทาย แนะนำตัว สั่งอาหาร ขออนุญาต หรือถามทางได้อย่างไม่ลำบาก

จำเป็นสำหรับ

สำหรับคนที่จะไป “เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น” เพราะเป็นเอกสารที่ทาง ตม. ญี่ปุ่นขอนั่นเอง จะเป็นใบผลสอบ JLPT N5 หรือใบรับรองการเรียนภาษาญี่ปุ่นมาแล้วมากกว่า 150 ชั่วโมงก็ใช้ได้เช่นกัน

📚 คอร์สเรียนอัปทักษะภาษาญี่ปุ่นให้ได้ N5 (สำหรับผู้ไม่มีพื้นฐาน)

🌸 N4 – ใช้สอบ A-Level / เริ่มพูดคุยจริงจังขึ้น

ระดับนี้ จะสามารถเข้าใจประโยคได้หลายแบบขึ้น บอกความรู้สึกตัวเองได้ ให้คำแนะนำได้ อธิบายเหตุการณ์ง่ายๆ ได้ จึงทำให้เราสามารถเริ่มพูดคุยกับคนญี่ปุ่นได้บ้างแล้วนั่นเอง และยังเริ่มอ่านคันจิพื้นฐานได้ด้วยค่ะ

จำเป็นสำหรับ

สำหรับนักเรียนที่จะสอบ Applied Knowledge Level ( A-Level ) ภาษาญี่ปุ่น ใน TCAS ระดับจะอยู่ประมาณ N4+  น้องๆ คนไหนไม่ได้เรียนสายศิลป์-ญี่ปุ่น แต่อยากใช้ภาษาญี่ปุ่นสอบจึงต้องเรียนให้ได้เลยระดับ N4 นั่นเอง

📚 อยากเรียนอัปทักษะภาษาญี่ปุ่นให้ได้ N4 กับ Jeducation Center

🌸 N3 – ดูอนิเมะรู้เรื่อง / เริ่มสมัครงานสายญี่ปุ่นในไทยได้แล้ว!

ระดับนี้เราจะสามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่น ที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีในระดับหนึ่งเลย เราจะมีคำศัพท์ในหัวเยอะขึ้น ฟังเก่งขึ้น ทำให้สามารถเริ่มดูสื่อมีเดียต่างๆแบบไม่มีซับไตเติ้ลเข้าใจ

จำเป็นสำหรับ

สำหรับคนที่อยากสมัครงานบริษัทญี่ปุ่นในไทย มีบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งที่รับตำแหน่งที่ใช้ภาษาญี่ปุ่น ระดับ N3 อยู่ แต่ส่วนมากจะเป็นตำแหน่งที่ใช้ภาษาแค่ในการติดต่อแบบไม่ยาก ไม่ค่อยมีคำศัพท์เฉพาะ หรือการพูดคุยที่ซับซ้อนมาก ดังนั้นตำแหน่งงานส่วนมากที่รับ จึงเป็นตำแหน่ง Admin, ดูแลลูกค้า, ประสานงาน ฯลฯ

📚 อยากเรียนอัปทักษะภาษาญี่ปุ่นให้ได้ N3 กับ Jeducation Center

🌸 N2 – ทำงานล่าม / แปล / เซลส์ ได้เลย

ระดับนี้จะสามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่เพียงพอที่จะอ่านบทความที่ซับซ้อนได้ ในด้านการสนทนาเราก็จะสามารถใช้ประโยคที่อธิบายรายละเอียดเยอะๆ หรือ ถกเถียงได้

จำเป็นสำหรับ

การสมัครงานที่ประเทศญี่ปุ่น หากจะทำงานที่ญี่ปุ่น ระดับ N2 ขึ้นไปจะเป็นพื้นฐานที่ดีที่รับพิจารณา แต่บริษัทส่วนใหญ่จะดูที่ “ทักษะการสื่อสารจริง” มากกว่าแค่ผลสอบในการสัมภาษณ์ รวมไปถึงงานในบริษัทญี่ปุ่นที่ไทย ที่ต้องใช้สกิลพูด ฟัง หรือแปลแบบยากๆ เช่น งานล่าม / แปล / Sales / Consultant ฯลฯ ส่วนใหญ่จะรับตั้งแต่ผู้มี N2 ขึ้นไป

นอกจากนี้สำหรับคนที่อยาก เรียนต่อระดับปริญญาในญี่ปุ่น (ภาคภาษาญี่ปุ่น) ระดับ JLPT N2 ถือเป็น “ขั้นต่ำ” ที่ควรมีค่ะ เพราะ…

  1. ส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยจะขอผลสอบ JLPT N2 และ EJU (ข้อสอบวัดความรู้วิชาการเพื่อเรียนต่อญี่ปุ่น) ซึ่งถ้าเรามี N2 ก็จะสามารถเลือกทำข้อสอบ EJU เป็นภาษาญี่ปุ่นได้ เพิ่มโอกาสในการเลือกมหาวิทยาลัย
  2.  สอบติดแล้วก็ยังต้องเรียนกับคนญี่ปุ่นจริง ๆ หากระดับภาษาไม่ถึง ก็จะตามไม่ทันในชั้นเรียน ดังนั้น N2 คือพื้นฐานที่ควรมี และหากได้สูงกว่านี้ก็ยิ่งดีค่ะ!
📚 อยากเรียนอัปทักษะภาษาญี่ปุ่นให้ได้ N2 กับ Jeducation Center

🌸 N1 – มืออาชีพตัวจริง!

ยอดภูเขาน้ำแข็งที่หลายคนใฝ่ฝัน ระดับนี้สามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ในวงกว้าง เข้าใจลำดับเนื้อเรื่อง เนื้อหา ยาวๆ เอามาจับประเด็นได้ อธิบายเรื่อง ซับซ้อน ลึกซึ้งได้ดี

จำเป็นสำหรับ

ผู้ที่จำเป็นต้องแสดงความน่าเชื่อถือในด้านความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นขั้นสูง เช่น

  • ครูสอนภาษาญี่ปุ่น
  • พนักงานในองค์กรญี่ปุ่นระดับสูง
  • ตำแหน่งที่ต้องอ่านและเขียนเอกสารภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจ
  • ผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท/เอก ภาคภาษาญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้สามารถเข้าใจและวิเคราะห์เนื้อหาวิชาการได้อย่างแท้จริง

“แม้จะมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นในระดับสูงสุดแล้ว การรักษาความคล่องแคล่วในการสื่อสาร และความลึกซึ้งในการเข้าใจบริบททางภาษาและวัฒนธรรม ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การใช้ภาษาของเรามีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ทั้งในแวดวงวิชาการและโลกของการทำงานระดับมืออาชีพ”

📚 อยากลับคมสกิลภาษาญี่ปุ่น กับ Jeducation Center

คลิกที่นี่ ทักไลน์สอบถามคอร์สเรียนกับเจ้าหน้าที่ได้เลย!


หน้าตากระดาษผลสอบ “ผ่าน” ของข้อสอบ JLPT

📌 สรุปง่ายๆ

การวางเป้าหมายให้ชัด จะช่วยให้เราเรียนภาษาญี่ปุ่นได้ตรงจุด และมีแรงบันดาลใจมากขึ้นค่ะ

ไม่ว่าจะเพื่อเรียนต่อ ทำงาน หรือใช้เดินทางท่องเที่ยว ทั้งหมดล้วนเป็นเป้าหมายที่จะเป็นพลังในการเรียนของเรา 💪🇯🇵

มาพยายามไปกับเจ๊เอ๊ดนะคะ!


 

Scroll to Top