明徳義塾高等学校 (Meitoku Gijuku Senior High School)
ปีที่ก่อตั้ง :: 1973
จำนวนห้องเรียน :: 40 ห้อง
จำนวนชั่วโมงเรียน :: 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (หลักสูตร 3 ปี / 3 ปี 6 เดือน)
40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (หลักสูตร 1 ปี / 1 ปี 6 เดือน)
ภาคเรียน :: เมษายน / ตุลาคม
Meitoku Gijuku Senior High School มีระบบแนะนำนักเรียนที่มีผลการเรียนดี เพื่อเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย
✏️ ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน
Meitoku Gijuku Senior High School ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน ปี 1973 และเริ่มทำสัญญาโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนในประเทศออสเตรเลียเป็นครั้งแรกในปี 1977 ทางโรงเรียนให้ความดูแลเอาใจใส่นักเรียนทั้งทางด้านการเรียนและกีฬาอย่างดีที่สุด ทำให้นักเรียนมีความสามารถยอดเยี่ยมทั้งสองด้านควบคู่กันไป
โรงเรียนแบ่งออกเป็นสองแคมปัส คือ แคมปัสหลัก ที่ Donoura และ Ryu International Campus นักเรียนต่างชาติจะได้รับการปูพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ปีที่ Ryu International Campus และในปีที่ 2 เป็นต้นไป จะย้ายมาเรียนร่วมกับนักเรียนญี่ปุ่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นโดยการสอบแข่งขันด้วยวิธีการสอบแบบเดียวกันกับนักเรียนญี่ปุ่น
ในเดือนเมษายน ปี 2013 ที่ผ่านมาโรงเรียนได้เปิดหอพักใหม่ใน Ryu International Campus
โดยทางโรงเรียนมีประสบการณ์ในการรับนักเรียนต่างชาติมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี มีการเรียนการสอนอย่างเข้มข้นในด้านภาษาญี่ปุ่น เพื่อการสอบวัดระดับและการสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยนักเรียนไทยที่มีเป้าหมายในการเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น ล้วนแล้วแต่สอบเข้ามหาลัยกันได้สำเร็จทั้งสิ้น อีกทั้งทางโรงเรียนยังอุดมไปด้วยคนหลากหลายชาติ ทำให้เกิดการเรียนรู้แลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอย่างดียิ่ง และไม่เพียงแต่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ยังมีนักเรียนที่เข้าทำงานในบริษัทญี่ปุ่น หรือกลับไปทำงานในบริษัทญี่ปุ่นในประเทศของตัวเองกันอย่างมากมาย
จุดเด่นของสถาบัน
- โรงเรียนมีประสบการณ์ในการสอนและดูแลนักเรียนต่างชาติมายาวนานกว่า 40 ปี และปัจจุบันมีนักเรียนจากหลากหลายประเทศทั่วโลกเข้าศึกษาอยู่
- อาจารย์ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติในการเตรียมตัวสอบเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นได้อย่างตรงเป้าหมาย
- โรงเรียนมีกิจกรรมชมรมมากมายให้นักเรียนเลือกเรียนตามความสนใจ ทั้งชมรมด้านวัฒนธรรมและชมรมกีฬา (สำหรับหลักสูตรมัธยมปลาย 3 ปี และ 3 ปี 6 เดือน)
- นักเรียนอยู่หอพักร่วมกับนักเรียนญี่ปุ่น ทำให้มีโอกาสได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวันตลอดเวลา
- มีระบบแนะนำนักเรียนที่มีผลการเรียนดี เพื่อเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย (Shiteikou Suisen)
สิ่งอำนวยความสะดวกในสถาบัน
หอพัก, ห้องคอมพิวเตอร์, ห้องดนตรี, โรงยิม, โรงอาหาร, ร้านขายของ, สระว่ายน้ำ, ห้องพยาบาล, สนามกีฬา,สนามเบสบอล, สนามฟุตบอล, สนามเทนนิส, สนามซ้อมกอล์ฟ, โรงฝึกเคนโด, คาราเต้, ยูโด, ซูโม่, ยกน้ำหนัก, ยิงธนู, ปิงปอง, ห้องซักรีด, อาคารวิจัย (พร้อมห้องพักค้างคืน)
กิจกรรมของโรงเรียน
กิจกรรมทางวัฒนธรรมญี่ปุ่น : จัดดอกไม้, สวมชุดกิโมโน, ชงชา, เขียนพู่กัน, ทำกระดาษญี่ปุ่น, ทัศนศึกษา Kyoto – Osaka/Hiroshima และรถบัสรับส่งไปซื้อของในตัวเมือง
ชมรมวัฒนธรรม : Culture Clubs, การแสดงละครนานาชาติ, ดนตรี(วงโยธวาทิต), คอมพิวเตอร์, วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ, ชมรมห้องสมุด, ชมรมกลอง (Wadaiko), ศิลปะ, วัฒนธรรมญี่ปุ่น, วาดการ์ตูน เป็นต้น
ชมรมกีฬา : ยกน้ำหนัก, ไอคิโด, กรีฑา, ปิงปอง, เบสบอล, ซูโม่, กอล์ฟ, วอลเล่ย์บอลหญิง, ฟุตบอล, คาราเต้, เคนโด, ยูโด, ซอฟท์บอล, เทนนิส, บาสเกตบอล เป็นต้น
📍 ตั้งอยู่ที่ 7-6-3 Nishi Kasai, Edogawa-ku, Tokyo 134-0088
📍 สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
โรงเรียนตั้งอยู่ในจังหวัด Kochi ศูนย์กลางเมืองท่าทางใต้ของเกาะ Shikoku ซึ่ง Donoura Campus (แคมปัสหลัก) อยู่ที่เมือง Susaki และ Ryu International Campus อยู่ในเมือง Tosa ห่างจากสนามบิน Kochi ประมาณ 50 นาที โดยรถยนต์ ทั้งสองแคมปัสรายล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีบรรยากาศที่เหมาะสมแก่การเรียนและการอยู่อาศัย
📖 หลักสูตรมัธยมปลาย 3 ปี, 3 ปี 6 เดือน และหลักสูตร 1 ปี, 1 ปี 6 เดือน
สำหรับหลักสูตร 3 ปี, 3 ปี 6 เดือน ในปีที่ 1 นักเรียนต่างชาติจะเรียนหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นที่มุ่งเน้นให้เข้าใจการเรียนโดยใช้ภาษาญี่ปุ่น หลังจากนั้นตั้งแต่ปีที่ 2 จะเรียนต่อในหลักสูตรเร่งรัด 1 และ 2 เหมือนกับนักเรียนญี่ปุ่น กรณีนักเรียนที่มีความรู้ความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นที่ดีอยู่แล้ว จะสามารถเข้าเรียนในหลักสูตรเดียวกันกับนักเรียนญี่ปุ่นได้ตั้งแต่ปีแรก
สำหรับหลักสูตร 1 ปี, 1 ปี 6 เดือน จะมีการสอบเพื่อแยกชั้นเรียนก่อนเข้าเรียน และจัดการเรียนการสอนแยกตามระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น
📖 การเรียนภาษาญี่ปุ่น
หลักสูตร 3 ปี, 3 ปี 6 เดือน เรียน 6 คาบ หลังจากนั้นทุกคนจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมชมรมจนถึง 5 โมงครึ่ง ในปีที่ 1 ในภาคเรียนที่ 2 เป็นต้นไป นอกจากคาบเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วจะเพิ่มวิชาเรียนอื่นๆ มากขึ้น เช่น ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม ดนตรี คอมพิวเตอร์ พลศึกษา รวมไปถึงคาบเรียนพิเศษเพื่อเตรียมตัวสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่น (JLPT) หรือ EJU (ข้อสอบสำหรับนักเรียนชาวต่างชาติที่ต้องการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น)
สำหรับหลักสูตร 1 ปี, 1 ปี 6 เดือน เรียน 8 คาบ นอกจากคาบเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้ว จะได้เรียนวิชาอื่นๆ ด้วย เช่น ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม ดนตรี คอมพิวเตอร์ พลศึกษา รวมไปถึงคาบเรียนพิเศษเพื่อเตรียมตัวสอบ เตรียมตัวสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่น (JLPT) หรือ EJU (ข้อสอบสำหรับนักเรียนชาวต่างชาติที่ต้องการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น)
มีอาจารย์ที่ปรึกษาแนะแนวการศึกษาต่อเป็นรายบุคคล ทำให้นักเรียนที่จบจากโรงเรียนมีอัตราเข้าศึกษาต่อในระดับสูงได้ถึง 100% รวมถึงการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับมหาวิทยาลัยที่เข้ายาก และสำหรับนักเรียนต่างชาติ ถึงแม้จะเข้าเรียนหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นแค่เพียง 1 ปี ก็สามารถเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนได้ในอัตราที่สูง
จำนวนภาคการศึกษา : 3 ภาคการศึกษา
- เทอมที่ 1 : เดือนเมษายน – เดือนกรกฎาคม
- เทอมที่ 2 : เดือนกันยายน – เดือนธันวาคม
- เทอมที่ 3 : เดือนมกราคม – เดือนมีนาคม
📖 ค่าเล่าเรียน (หน่วยเงินเยน)
*มัธยมปลาย 1 ปี และ 3 ปี
ครั้งแรกชำระค่าแรกเข้า ค่าเล่าเรียน ค่าหอพัก 1 ปี และค่าอื่นๆ รวม 2,250,000 เยน
*มัธยมปลาย 1 ปี 6 เดือน และ 3 ปี 6 เดือน
ครั้งแรกชำระค่าแรกเข้า ค่าเล่าเรียน ค่าหอพัก 6 เดือน และค่าอื่นๆ รวม 1,428,000 เยน
*ค่าอื่นๆ รวมค่าชุดนักเรียน ค่ากิจกรรม และค่าประกันสุขภาพ
*ค่าหอพัก รวมอาหาร 3 มื้อแล้ว
การชำระเงิน
หลังจากประกาศผลการสอบแล้ว จะชำระในส่วนของค่าแรกเข้า และหลังจากผลวีซ่าประกาศจะให้ชำระเพิ่มในส่วนของค่าเล่าเรียนและค่าอื่นๆ อีกครั้ง (ชำระค่าเทอมเป็นรายปี)
ภาคเรียน
เมษายน / ตุลาคม
* สมัคร/สอบ 6 เดือนก่อนเข้าเรียน*
คุณสมบัติผู้สมัคร
- อายุ 15-17 ปี บริบูรณ์
- หลักสูตร 1 ปี หรือ 1 ปี 6 เดือน ต้องสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมปีที่ 6 จากประเทศของตนเอง และมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นในระดับ N3 ขึ้นไป
- หลักสูตร 3 ปี หรือ 3 ปี 6 เดือน ต้องสำเร็จการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี (เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 3) จากประเทศของตนเอง
- ผู้สมัครควรมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นขั้นพื้นฐาน หรือสามารถเขียนตัวอักษรฮิรากานะ – คาตาคานะได้
วิชาที่สอบเข้า
ภาษาอังกฤษ, คณิตศาสตร์ (โจทย์ภาษาไทย หรือ อังกฤษ สามารถเลือกได้)
กำหนดการ
เข้าเรียน”เดือนเมษายน” (หลักสูตร 1 ปี / 3 ปี)
- ตุลาคมปีก่อนหน้า : ส่งเอกสารสมัคร
- พฤศจิกายนปีก่อนหน้า : สอบคัดเลือก
- ธันวาคมปีก่อนหน้า : ส่งเอกสารสำหรับใบพำนักระยะยาว COE
- กุมภาพันธ์ : ประกาศผลใบพำนักระยะยาว COE จากกองตรวจคนเข้าเมือง
- มีนาคม : ชำระค่าเล่าเรียน / ขอวีซ่านักเรียน / ซื้อตั๋วเครื่องบิน / ปฐมนิเทศ
- เมษายน : เปิดภาคเรียน
เข้าเรียน”ตุลาคม” (หลักสูตร 1 ปีครึ่ง / 3 ปีครึ่ง)
- เมษายน : ส่งเอกสารสมัคร
- พฤษภาคม : สอบคัดเลือก
- มิถุนายน : ส่งเอกสารสำหรับใบพำนักระยะยาว COE
- สิงหาคม : ประกาศผลใบพำนักระยะยาว COE จากกองตรวจคนเข้าเมือง
- กันยายน : ชำระค่าเล่าเรียน / ขอวีซ่านักเรียน / ซื้อตั๋วเครื่องบิน / ปฐมนิเทศ
- ตุลาคม : เปิดภาคเรียน
โรงเรียนนี้ให้อะไรหลาย ๆ อย่างกับเราค่ะ มีความอบอุ่นอยู่ทั้งในโรงเรียนและในหอพัก โรงเรียนสอนให้เรารับผิดชอบตัวเอง ดูแลตัวเอง มีความอดทน ความพยายามและยึดมั่นกับเป้าหมายที่เรามี
ชื่อ ฉัตรปวีณ์ เกิดศรีทอง
ปีการศึกษาที่เข้าเรียน : ตุลาคม 2014
สวัสดีค่ะ ชื่อข้าวปั้นนะคะ โรงเรียน Meitoku มีหลักสูตรทั้งหมด 5 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรภาษาญี่ปุ่น, ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน, หลักสูตรทั่วไปและหลักสูตรแบบเข้มค่ะ โรงเรียนมีหอพักให้นักเรียนภายในหอเราจะต้องทำความสะอาดกันเอง สำหรับของใช้ในชีวิตประจำวัน โรงเรียนมีกฎไม่ให้นักเรียนในหอออกมาซื้อของเอง ทางโรงเรียนจึงจัดรถบัสเข้าไปในเมืองเดือนละสองครั้งค่ะ
สำหรับกฎที่เข้มงวดของโรงเรียน คือ โรงเรียนไม่ให้ออกไปนอกโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาตค่ะ โทรศัพท์มือถือและ Pocket wifi เป็นสิ่งของที่ผิดกฎในโรงเรียนและหอพักค่ะ เราสามารถใช้เครื่องเล่น Mp3, iPod, Laptop และ Taplet แทนได้ แต่จะไม่สามารถเอาขึ้นมาใช้ในห้องเรียนได้ค่ะ
โรงเรียนนี้ให้อะไรหลาย ๆ อย่างกับเราค่ะ มีความอบอุ่นอยู่ทั้งในโรงเรียนและในหอพัก โรงเรียนสอนให้เรารับผิดชอบตัวเอง ดูแลตัวเอง มีความอดทน ความพยายามและยึดมั่นกับเป้าหมายที่เรามี หากน้อง ๆ อยากมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น อยากพัฒนาตัวเองทั้งด้านภาษา การใช้ชีวิตและทัศนคติ พี่ก็ฝาก Meitoku ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ