โครงการทุน JLP + FIT เพื่อเรียนภาษาญี่ปุ่น พร้อมต่อปริญญาตรี ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัย Fukuoka Institute of Technology (FIT) ประเทศญี่ปุ่น
น้องๆ มัธยมปลาย สายวิทย์ที่อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นห้ามพลาด! เพราะโอกาสดีๆ จากมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์จากฟุคุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น กำลังจะเปิดรับสมัครโครงการ JLP + FIT
มอบทุนการศึกษาลดค่าเล่าเรียน 50% ที่จะ ให้ทุนเราไปเรียนทั้งภาษาญี่ปุ่น พร้อม
ให้โควต้า+ทุนเรียนต่อปริญญาตรี ของมหาวิทยาลัยต่อได้เลย! รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านเยน
เตรียมเปิดรับในปีการศึกษาต่อไป เดือนมกราคม 2025
รู้จัก Fukuoka Institute of Technology (FIT)
Fukuoka Institute of Technology (FIT) ก่อตั้งในปี 1954 ตั้งอยู่กลางเมืองฟุคุโอกะ เดินทางโดยรถไฟ 15 นาทีจากสถานี Hakata ปัจจุบันมีนักศึกษาระดับปริญญาตรี 4,222 คน (จาก 10 ประเทศ) และมีนักศึกษาระดับปริญญาโท 162 คน (จาก 32 ประเทศ)
มีคณะโดดเด่นได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์สารสนเทศ และคณะสังคมศาสตร์และสิ่งแวดล้อม
การเรียนการสอนระดับปริญญาตรีเป็นภาษาญี่ปุ่น โดยมีหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นโครงการ JLP ให้เฉพาะนักเรียน FIT เรียนภาษาญี่ปุ่น 1 ปี 6 เดือนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนระดับปริญญาตรี โดยมีทุนการศึกษาส่วนลดค่าเล่าเรียนทั้งโครงการเรียนภาษาญี่ปุ่น JLP และค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี
จุดเด่นของ Fukuoka Institute of Technology (FIT)
- เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนอันดับ 1 ในหมวดการสนับสนุนการจ้างงานนักศึกษา ประจำปี 2023-2024 มีอัตราการได้งานสูงมาก นักเรียนต่างชาติที่เรียนจบ หลักสูตร JLP + FIT สามารถเข้าทำงานบริษัทที่ญี่ปุ่นได้ถึง 70% โดยเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงเป็นส่วนใหญ่ เช่น Denso Ten, Toshiba System Technology Co.,Ltd, Yashima Sangyo Co.,Ltd
- เป็นมหาวิทยาลัยด้านวิศวกรรมโดยเฉพาะ มีสาขาหลากหลาย สามารถเรียนต่อได้ถึงปริญญาเอก
- มีนักเรียนต่างชาติจาก 46 ประเทศทั่วโลก และมีนักเรียนจากประเทศไทยกำลังศึกษาอยู่ 9 คน
- มีทุนการศึกษาส่วนลดค่าเล่าเรียนให้นักเรียนต่างชาติในหลักสูตร JLP + FIT
สาขาที่เปิดสอนในระดับปริญญาตรี
คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Faculty of Engineering)
1. สาขา Information Electronics
2. สาขา Intelligent Mechanical Engineering
3. สาขา Life, Environment, and Applied Chemistry
4. สาขา Electrical ENgineering
คณะวิศวกรรมสารสนเทศ (Faculty of Information Engineering)
1. สาขา Computer Science and Engineering
ในสาขานี้ นักเรียนจะได้ศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และ วิทยาการข้อมูล ควบคู่ไปกับการเรียนรู้เทคโนโลยีประยุกต์ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ ความจริงเสมือน (Virtual Reality) รวมถึงทักษะการเขียนโปรแกรมที่จำเป็นสำหรับนักเทคโนโลยีสารสนเทศ และสามารถพยากรณ์ข้อมูลเพื่อประยุกต์ใช้ในอนาคตได้
หลักสูตรในสาขานี้ครอบคลุมหลายด้าน เช่น:
- วิทยาการข้อมูล: การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ อัลกอริธึม และโครงสร้างข้อมูล
- การเขียนโปรแกรม: เรียนรู้ภาษาคอมพิวเตอร์เพื่อควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ เช่น C Programming, JAVA Programming
- ปัญญาประดิษฐ์ (AI): ศึกษาเทคโนโลยีที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานอัจฉริยะ เช่น การเรียนรู้ของเครื่อง หุ่นยนต์อัจฉริยะ และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ
- เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์: การประมวลผลข้อมูลเพื่อสร้างคุณค่า เช่น ฐานข้อมูล การประมวลผลภาพ ความจริงเสมือน และอินเทอร์เฟซผู้ใช้
โอกาสทางอาชีพ:
- Software Engineer/Developer: พัฒนาโปรแกรมและซอฟต์แวร์สำหรับระบบต่างๆ รวมถึงแอปพลิเคชันบนมือถือและเว็บไซต์
- AI Engineer: ทำงานเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ การพัฒนาระบบที่ใช้ AI เพื่อการวิเคราะห์และตัดสินใจ
- Data Scientist: วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อหาข้อมูลเชิงลึกและช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
2. สาขา Information and Communication Engineering
“การสื่อสารข้อมูล” เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่อสังคมปัจจุบันเช่นเดียวกับถนน ระบบขนส่งทางราง เครือข่ายไฟฟ้า และระบบน้ำ โดยการสื่อสารนี้ช่วยให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในอุตสาหกรรม การออกอากาศ การสื่อสารผ่านดาวเทียม การจองออนไลน์ ร้านค้าออนไลน์ การชำระเงินออนไลน์ การทำงานทางไกล และการเรียนการสอนออนไลน์
บทบาทของ “การสื่อสารข้อมูล” ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในทุกวัน ในภาควิชานี้ นักศึกษาจะได้เรียนรู้และวิจัยเกี่ยวกับความรู้เฉพาะทางที่จำเป็นสำหรับการทำงานในตำแหน่งต่างๆ เช่น วิศวกรไร้สาย วิศวกรสื่อสาร วิศวกรเครือข่าย วิศวกรระบบ และโปรแกรมเมอร์
หลักสูตรในสาขานี้ครอบคลุมหลายด้าน ได้แก่:
- เทคโนโลยีการสื่อสาร: เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการสื่อสารทั้งแบบมีสายและไร้สาย รวมถึงวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
- วงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
- คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
- การสื่อสารด้วยแสง
- การส่งข้อมูล
- เสาอากาศ
- การส่งพลังงานแบบไร้สาย เป็นต้น
- เทคโนโลยีเครือข่ายและข้อมูล: เรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมและเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูล
- เครือข่าย
- ความปลอดภัย
- ระบบสารสนเทศ
- AR/VR/MR
- การประมวลผลแบบคลาวด์ เป็นต้น
โอกาสทางอาชีพ:
- Network Engineer: ออกแบบและดูแลเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งในองค์กรและระบบเครือข่ายขนาดใหญ่
- Telecommunications Engineer: ทำงานด้านการสื่อสารผ่านเครือข่ายโทรคมนาคม เช่น การพัฒนาเครือข่าย 5G หรือระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียม
- IoT Specialist: พัฒนาระบบ Internet of Things ที่เชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ ในการสื่อสารและทำงานร่วมกันอย่างอัตโนมัติ
3. สาขา Information and Systems Engineering
เพื่อให้เกิดสังคมที่มนุษย์และหุ่นยนต์สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ จำเป็นต้องมีวิศวกรที่เชี่ยวชาญในการออกแบบ พัฒนา และดำเนินการระบบสารสนเทศ ไม่เพียงแต่เทคโนโลยีสารสนเทศและการควบคุมหุ่นยนต์เท่านั้น แต่ความเข้าใจในระบบชีวภาพของมนุษย์ก็มีความสำคัญเช่นกัน ในอนาคตที่ทุกสิ่งเชื่อมต่อกัน เทคโนโลยีสารสนเทศที่จะทำให้สิ่งของทำงานได้อย่างชาญฉลาดจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ในภาควิชานี้ การเรียนรู้และวิจัยเพื่อสร้างระบบสารสนเทศจะได้รับการสนับสนุนโดย 3 สาขาหลัก ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศ, การควบคุมหุ่นยนต์, และ ระบบชีวภาพ นอกจากนี้นักเรียนจะมีโอกาสเข้าร่วมการวิจัยในห้องปฏิบัติการตั้งแต่ชั้นปีที่ 3 เพื่อเสริมสร้างความเชี่ยวชาญในสาขาที่ตนสนใจ
หลักสูตรในสาขานี้ครอบคลุมหลายด้าน ได้แก่:
- เทคโนโลยีสารสนเทศ: เรียนรู้เทคโนโลยีการประมวลผลข้อมูลขั้นสูงด้วยคอมพิวเตอร์ เช่น การพัฒนาโปรแกรมซอฟต์แวร์ ปัญญาประดิษฐ์ และการประมวลผลภาพ
- การควบคุมหุ่นยนต์: ศึกษาบทบาท โครงสร้าง และเทคโนโลยีการควบคุมหุ่นยนต์ เช่น การวัดและควบคุมผ่าน IoT การรับรู้ภาพ และระบบเครื่องกล
- ระบบชีวภาพ: เรียนรู้การนำข้อมูลทางชีวภาพและความรู้สึกของมนุษย์มาประยุกต์ใช้ในด้านการแพทย์ เช่น ระบบข้อมูลทางชีวภาพและการวัด ระบบการแพทย์ และวิศวกรรมชีวภาพ
โอกาสทางอาชีพ:
- Systems Analyst: วิเคราะห์และออกแบบระบบสารสนเทศสำหรับองค์กรต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
- Database Administrator: ดูแลและจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ขององค์กร เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
- IT Consultant: ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในองค์กร เพื่อปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ
- Business Analyst: วิเคราะห์กระบวนการทางธุรกิจและการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพในการทำงาน
4. สาขา System Management
วิศวกรรมการจัดการ และ วิทยาการข้อมูล มีความเกี่ยวข้องกันอย่างลึกซึ้ง การเรียนรู้ทั้งสองสาขานี้ในเชิงลึกจะช่วยให้คุณเข้าใจมากยิ่งขึ้นและพัฒนาทักษะการประยุกต์ใช้ในธุรกิจ พร้อมทั้งเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา
นักเรียนจะได้มีโอกาสนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในโลกจริง โดยผ่านการเรียนรู้แบบ PBL (Problem-Based Learning) ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาร่วมกับชุมชน องค์กร และหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการจัดการและการแก้ปัญหา
หลักสูตรในสาขานี้ครอบคลุมหลายด้าน ได้แก่:
- เรียนรู้เกี่ยวกับวิศวกรรมการจัดการ (Management Engineering) และวิทยาการข้อมูล (Data Science): เรียนรู้ความรู้ทางเทคนิคและบทบาทของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (DX) ในสังคม
- การบริหารจัดการระบบสารสนเทศ (Information Systems Management): ความรู้เกี่ยวกับการจัดการและดูแลระบบสารสนเทศขององค์กร รวมถึงการวางโครงสร้างระบบที่มีความเสถียรและปลอดภัย
- การจัดการความเสี่ยงด้านไอที (IT Risk Management): นักศึกษาจะได้เรียนรู้การวางแผนและจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในองค์กร
- การวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการธุรกิจ (Business Process Improvement): การปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทำงานภายในองค์กร โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยพัฒนา
โอกาสทางอาชีพ:
- Data Scientist : วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่โดยใช้การเรียนรู้ของเครื่องและเทคนิคอื่นๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์และช่วยเร่งกระบวนการตัดสินใจในธุรกิจ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงสายการผลิต และการพัฒนายาใหม่ (บริษัท IT, อุตสาหกรรมการผลิต, บริษัทผลิตยา, อุตสาหกรรมการเงิน)
- Marketing Researcher : วิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค และตรวจสอบแนวโน้มตลาดเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางธุรกิจขององค์กร (บริษัท IT, บริษัทผู้ผลิตอาหาร, บริษัทการตลาด, อุตสาหกรรมบริการ)
- Web Engineer : ออกแบบ พัฒนา และจัดการระบบที่ใช้ในเว็บไซต์และแอปพลิเคชันเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด (บริษัท IT, อุตสาหกรรมบริการ, บริษัทค้าขายออนไลน์)
- Researcher : ดำเนินการวิจัยและพัฒนาในสาขาดิจิทัล เช่น วิทยาการข้อมูลและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (DX) เพื่อสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ๆ สำหรับสังคม (บริษัท IT, มหาวิทยาลัย, สถาบันวิจัย)
คณะสังคมศาสตร์และสิ่งแวดล้อม (Faculty of Socio-Environmental Studies)
1. สาขา Socio-Environmental Studies (Humanities)
โครงการทุน JLP + FIT คืออะไร?
เป็นโครงการสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายจะเข้าเรียน Fukuoka Institute of Technology เท่านั้น โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือก จะได้รับทุนส่วนลดค่าเรียน 50% เพื่อเรียนภาษาญี่ปุ่นหลักสูตร 1 ปี 6 เดือน ที่มหาวิทยาลัย พร้อมกันนี้ยังได้รับโควต้าเรียนต่อปริญญาตรีที่ Fukuoka Institute of Technology และได้รับทุนส่วนลดค่าเรียนจนจบ 4 ปีอีก 50% โดยเป็นทุนให้เปล่า ไม่ต้องใช้ทุนคืน ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ หลังเรียนจบ
จุดเด่นหลักสูตรเรียนภาษาญี่ปุ่น 1 ปี 6 เดือน (JLP)
- นักเรียนที่เข้าเรียนจะเป็นสมาชิกของ FIT Community
- นักเรียนของ JLP สามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของมหาวิทยาลัย FIT ได้
- เนื้อหาหลักสูตรเข้มข้น เรียนรู้ทั้งคำศัพท์ ไวยากรณ์ คันจิ และทักษะต่างๆ เช่น การฟัง พูด อ่าน และเขียน
- เรียนภาษาญี่ปุ่นทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 9.00 – 14.30 น.
มูลค่าทุน และ สิทธิประโยชน์ ของโครงการทุน JLP + FIT
- ได้รับทุนส่วนลดค่าเรียนภาษาญี่ปุ่น 1 ปี 6 เดือน 50% มูลค่า 450,000 เยน (ค่าเรียนสามารถแบ่งจ่ายได้ 150,000 เยน/6 เดือน)
- รับส่วนลดค่าหอพักตลอดหลักสูตรจนเรียนจบ มูลค่ารวม 726,000 เยน
- เมื่อเรียนจบภาษาญี่ปุ่นหลักสูตร 1 ปี 6 เดือน สามารถเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่ FIT ได้* (มหาวิทยาลัยจะช่วยเหลือด้านการสอบเข้า)
- ทุนส่วนลดค่าเล่าเรียน 50% ระดับปริญญาตรีตลอดหลักสูตร มูลค่ารวมกว่า 3 ล้านเยน
มูลค่าทุนรวม 4,262,900 เยน
*นักเรียนในโครงการทุน JLP + FIT เมื่อเรียนจบหลักสูตรภาษาญี่ปุ่น 1 ปี 6 เดือนแล้ว ไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยอื่นได้ จะต้องเข้าเรียนต่อที่ Fukuoka Institute of Technology เท่านั้น
ค่าเล่าเรียน หลักสูตรปริญญาตรี
ที่ Fukuoka Institute of Technology
(หน่วยเป็นเงินเยน คำนวณโดยประมาณเป็นเงินบาท จากเรท 0.25 )
ค่าเล่าเรียนโครงการเรียนภาษาญี่ปุ่น JLP
450,000 เยน (จาก 900,000 เยน)
สำหรับหลักสูตร 1 ปี 6 เดือน (สามารถแบ่งจ่ายได้ 150,000 เยน / 6 เดือน)
หอพัก
หอพักหญิง Cosmos
ตั้งอยู่บนเขา วิวสวย ห้องนอนเดี่ยว มีเตียง โต๊ะ ตู้ อุปกรณ์ในห้องนอนให้พร้อม แชร์ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และครัวส่วนกลาง
ราคา 11,000 เยน/เดือน
หอพักชาย International House
สามารถเดินไปมหาวิทยาลัยภายใน 3 นาที ห้องนอนคู่ มีเตียง โต๊ะ ตู้เสื้อผ้า แชร์ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และครัวส่วนกลาง
ราคา 11,000 เยน/เดือน
กำหนดการ
กิจกรรม | กำหนดการ |
---|---|
ส่งเอกสารสมัคร | มกราคม – มีนาคม 2025 |
สอบสัมภาษณ์ | กลางเดือนเมษายน 2025 |
ประกาศผล | สิ้นเดือนเมษายน 2025 |
เรียนภาษาญี่ปุ่นที่ JLP | กันยายน 2025 – มีนาคม 2027 |
สอบเข้าปริญญาตรี | ธันวาคม 2026 |
เข้าเรียนปริญญาตรีที่ FIT | เมษายน 2027 |
คุณสมบัติผู้สมัครโครงการทุน JLP + FIT
- ผู้ที่สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี (จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า)
- ผู้ที่มีผลสอบภาษาอังกฤษ TOEIC 450 คะแนน
- ผู้ที่มีผลสอบ National Test เช่น เช่น SAT, GAT/PAT, A-Level เป็นต้น
- ผู้ที่ต้องการสมัครคณะ Engineering (ยกเว้นสาขา Life, Environment and Applied Chemistry) และคณะ Information Engineering ต้องแสดงผลสอบ A-level วิชาคณิตศาสตร์
- ผู้ที่ต้องการสมัครคณะ Engineering สาขา Life, Environment and Applied Chemistry ต้องแสดงผลสอบ A-level วิชาเคมี หรือฟิสิกส์
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร
- ใบสมัคร (ติดต่อขอรับใบสมัครจากเจ้าหน้าที่ Jeducation คลิกที่นี่)
- ใบรับรองจบการศึกษาระดับม.6 หรือใบคาดว่าจะจบการศึกษาระดับม. 6
- ใบรับรองผลการเรียน (Transcript)
- ผลสอบ National Test เช่น เช่น SAT, GAT/PAT, A-Level เป็นต้น
- ผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษ TOEIC 450 คะแนน
- สำเนาพาสปอร์ต
- รูปถ่าย 40 mm x 30 mm รูปหน้าตรง พื้นหลังสีขาว ถ่ายไม่เกิน 3 เดือน
- ผลคะแนนสอบต่าง ๆ เช่น ผลสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น JLPT
- ค่าสมัคร 700 บาท
การพิจารณาคัดเลือก
- พิจารณาจากเอกสารในการสมัคร
- มีการสอบสัมภาษณ์ทางออนไลน์โดยมหาวิทยาลัย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม/ส่งเอกสารสมัคร
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
โทร. 02-2677726
อาคารลิเบอร์ตี้สแควร์ (ปากซอยคอนแวนต์) ชั้น 23 ห้อง 2303
287 สีลม บางรัก กทม. 10500
LINE >> http://bit.ly/jed-line