ชีวิตใน โรงเรียนสอนภาษาที่ญี่ปุ่น กับ เพื่อนต่างชาติ
โดยกุ๊กไก่ 

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่น คงต้องขอแนะนำตัวเองก่อน พี่ชื่อกุ๊กไก่
เรียนอยู่ที่จังหวัดเกียวโต โรงเรียน Kyoto Institute of Culture and Language (KICL) เริ่มมาเรียนภาคเรียนเดือนเมษา 2017

ตอนเริ่มคลาสมาแรกๆ ที่นี่คนไต้หวันเยอะมาก ขอบอก อันตัวเราก็แอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่บ้างว่าเขาเก่งกันจัง งงตัวเองว่าตอนก่อนถูกจับเข้าคลาสแต่ละคลาส เราสอบวัดระดับมาอยู่เลเวลนี้ได้ยังไง

แรกๆก็คุยกับคนอื่นเขาไม่รู้เรื่อง มีความกดดันทางด้านคันจิอยู่อย่างมาก จริงๆ เพิ่งค้นพบทีหลังว่าคนไทยส่วนมากก็ทุลักทุเลไม่ต่างกัน 555   อันตัวพี่เอง ก็ใช้ช่วงเวลาหยุดยาวฤดูร้อนให้เป็นประโยชน์ ซึ่งก่อนหยุดยาวเนี่ย จะเป็นช่วงหลังจากที่การพูดหน้าห้องทั้งแบบกลุ่ม แบบเดี่ยว ผ่านมรสุมการสอบย่อย และสอบกลางภาคไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพอถึงตอนนั้น เราเองก็พอจะรู้ตัวเองบ้างแล้วว่ามีจุดไหนต้องแก้ไขปรับปรุง ก็ให้พยายามแก้จุดที่ยังคิดว่าด้อยอยู่กันไป

ในห้องเรียน กับ เพื่อนต่างชาติ

จริงๆ แล้ว เรื่องพัฒนาการของเรา ครูที่ประจำชั้นของเราจะคอยติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่เสมออยู่แล้ว จากประสบการณ์ตรง ของเด็กที่ไม่ค่อยขยันเท่าไหร่ อ่านเฉพาะเวลามีคะแนน (ซึ่งตรงนี้ไม่แนะนำนะ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง 5555) ทุกครั้งก่อนจะมีสอบเก็บคะแนน พี่จะอ่านหนังสือหนักมาก ด้วยความที่กลัวซ้ำชั้น ไม่ผ่านเลเวลพร้อมเพื่อนไง ผลก็จะออกมาโอเคหน่อย ไม่บอกหรอกนะว่าได้เท่าไหร่ 5555

แต่อย่าพูดถึงเวลาสอบไม่เก็บคะแนนนะ เพราะสอบตกทุกครั้ง จนครูประจำชั้นเรียกไปพูดคุยหลังคาบเรียนตลอด ซึ่งจุดๆนี้เป็นจุดที่พี่ต้องบอกว่าประทับใจมาก กับความใส่ใจที่ครูมีให้กับนักเรียนทุกๆคน ใครเก่งไม่เก่งอะไร ต้องพัฒนาตรงไหนครูจะรู้และคอยให้ข้อแนะนำและคำชมกับเราเสมอ

เอาล่ะ เรื่องเรียนก็ว่าสำคัญแล้ว อีกอย่างที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งคือ เพื่อน ค่ะ เพื่อน สิ่งหนึ่งที่พี่สังเกตได้คือคนไทยส่วนมาก (จริงๆแล้วคนไต้หวันด้วย) มักจะชอบจับกลุ่มกันและอยู่แต่กับคนชาติเดียวกันเอง กินข้าวเช้ากลางวันเย็น พักเลิกเรียนไปเที่ยวด้วยกัน เข้าใจว่าอาจจะพูดคุยเม้ามอยคล่องคอ เข้าใจกันเร็วทันใจมากกว่า

แต่พี่ขอแนะนำไว้ตรงนี้เลยค่ะ สำคัญมาก ในเมื่อเรามีโอกาสได้มาอยู่ถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว และไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสได้มาแบบนี้ จะดีกว่าไหมถ้าเราจะเก็บและตักตวงเรียนรู้สิ่งใหม่ๆรอบตัว

เพราะการที่เราได้เข้ามาเรียนในโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นเนี่ย เราได้เอาตัวเข้ามาในสังคมนานาชาติเรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่ความกล้าที่จะเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาตินี่แหละค่ะ

 

ซึ่งการมี เพื่อนต่างชาติ เนี่ย ข้อดีมหาศาลเลยล่ะค่ะ จริงๆ ถึงพี่ไม่ต้องร่ายว่ามันมีอะไรบ้าง น้องๆก็คงพอรู้กันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการได้เปิดโลกกว้างเรียนรู้วัฒนธรรม ความเชื่อ ความคิด และภาษาที่ต่างกัน เรายังได้แชร์ความชอบในวัฒนธรรมญี่ปุ่นกับเพื่อนๆด้วย ไม่แน่เราอาจจะพบว่าจริงๆแล้วมีคนที่เขามีความชอบเดียวกับเราอยู่เยอะเลยก็ได้

ไปเที่ยว กับ เพื่อนต่างชาติ

อ้าว แล้วการจะไปเป็นเพื่อนกับเขามันยากไหมละเนี่ย ตอบได้ตรงนี้ เดี้ยวนี้เลย ว่าไม่ยาก น้องอยู่ประเทศใหม่แล้ว หากยังเป็นคนขี้อายไม่กล้าทักคนอื่น เก็บตัว ก็ได้โอกาสเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ไปด้วยเลยตอนนี้ เดี้ยวพี่จะเล่าประสบการณ์การหาเพื่อนของพี่ให้ฟัง

วันแรกที่พี่เข้าห้องเรียน ตามสเตป ไม่รู้จักใครสักคน ใครมองมาก็ยิ้มไทยไมตรีให้เขาไป พอถึงเวลาแนะนำตัว ก็ไม่ต้องทำเก็กไป ทั้งเทอมยังไงก็ได้รู้นิสัยใจคอกันแน่นอน ก็แนะนำตัวไป ทำตัวร่าเริง ไม่อมทุกข์ นั่นคือสิ่งที่จะทำให้น้องได้เพื่อนเร็ว

สำคัญอีกเรื่องคือ พยายามจำชื่อเพื่อนในห้องให้ได้ จำไม่ได้ก็ต้องทัก อาจจะทักว่า วันนี้มาเร็วจังเลย ขยันจังเลย เสื้อสวยจังเลยวันนี้ และอีกมากมายหลายประการที่ทำให้เราได้เริ่มพูดคุยกับคนอื่นได้

เมื่อเราเริ่มจากตัวเราโดยการเป็นคนร่าเริง กันเอง คนอื่นในห้องก็จะเริ่มมีความรู้สึกสบายๆ และเป็นตัวเองมากขึ้น นั่นคือสิ่งที่จะทำให้ บรรยากาศในห้องเรียนของน้องๆ เรียนอย่างมีความสุข

 

เรื่องเล่าคือ (เพิ่งเข้าเรื่อง 5555) หลังจากเปิดเทอม มีวันหนึ่งที่โรงเรียนมีการอธิบายเรื่องรายละเอียดสำคัญของการมาอยู่ที่ญี่ปุ่น สิ่งที่พี่สังเกตเห็นคือ มีเพื่อนสเปนในห้องคนนึง เขามักจะนั่งอยู่คนเดียว ฟังคำอธิบายไม่ทัน เพราะภาษาอังกฤษเขาก็ไม่คล่องมาก ภาษาญี่ปุ่นตอนนั้นก็ยังไม่รอด

ทุกคนก็จะนั่งเป็นโซนๆไป มีล่ามคอยอธิบาย คนไทยอธิบายภาษาไทย คนไต้หวันภาษาไต้หวัน คนต่างชาติ ที่เหลือจะเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อนสเปนคนนี้ก็นั่งฟังหน้างงเลอหลามาก เราก็คิดในใจ ในขณะที่ทุกคนมีเพื่อนชาติเดียวกันให้พูดคุยไถ่ถาม แต่เขาไม่มีใครเลย เราคิดถึงตัวเรา ว่าถ้าเป็นเราบ้างละ ไปอยู่ต่างแดน คนแต่ละชาติก็จับกลุ่มอยู่แต่กับชาติตัวเอง เราก็พูดภาษาเขาไม่ได้ แล้วเราจะเป็นยังไง

คิดได้ดังนั้น หลังเสร็จการอธิบาย พี่ก็วิ่งเข้าชาร์จเพื่อนสเปนคนนี้เลยทันที แล้วถามเขาว่าเจอคนสเปนมาเรียนที่นี่บ้างไหม เขาบอกทั้งโรงเรียนมีเขาคนเดียว พี่เลยบอกเขาไปว่า ถ้าอยากไปเที่ยวไหน ชวนเราได้นะ ไว้พรุ่งนี้พักเที่ยงกินข้าวด้วยกันไหม เพียงเท่านั้น จากวันนั้นจนวันนี้ เขาคือเพื่อนสนิทที่สุดของพี่ไปแล้ว

เพื่อนต่างชาติ ชาวสเปน

บทความที่พี่เขียนมาทั้งหมดนี้ พี่อยากให้น้องๆ ลองคิดภาพตาม ว่าการมาอยู่ที่ญี่ปุ่นเนี่ย เป้าหมายน้องคืออะไร แล้วน้องต้องการอะไรกลับไปบ้าง แค่อยากได้ภาษากับมาเที่ยวอย่างเดียวรึเปล่า พี่ว่าลึกๆทุกคนคงตอบว่าไม่ใช่ ถ้าให้เลือกได้

ใครๆก็คงอยากมีประสบการณ์ที่น่าประทับใจจากการมาเรียนที่ญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่เรียนงกๆ หรือเอาแต่เที่ยว การมีเพื่อนที่คอยช่วยกันเรียน ชวนกันไปเปิดหูเปิดตา (ไม่ได้หมายความถึงผับบาร์นะอันนี้ พี่ไม่ได้พูดนะ 5555) ทำในสิ่งที่ตัวน้องในอนาคตจะสามารถพูดได้เต็มปากว่า เคยทำแล้ว เคยไปมาแล้ว อันนี้รู้แล้ว

การได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไปพร้อมๆกับการเรียนภาษาไปด้วย พี่ว่านี่มันคือโอกาสที่เราทุกคนควรจะเก็บเกี่ยวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยละ

สุดท้ายนี้ พี่ขอให้น้องๆทุกคนโชคดี หากใครตัดสินใจจะมาเรียนที่ญี่ปุ่น ก็ขอให้เก็บเอาคำถามของพี่ไปคิดก่อนมาด้วยน้า บ๊ายบาย

 

แล้วเจอกับพี่กุ๊กไก่ใหม่ตอนต่อไปนะคะ
พี่กุ๊กไก่จะมาเล่าเรื่องการทำงานพิเศษในญี่ปุ่นค่ะ

โรงเรียนที่พี่กุ๊กไก่ไปเรียน
Kyoto Institute of Culture and Language (KICL)

 


ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานในประเทศไทยของสถาบันโดยตรง  แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นทุกระดับ โดยศิษย์เก่าญี่ปุ่น  ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน  โดยไม่คิดค่าดำเนินการใด ๆ รวมถึงค่าส่งเอกสารไปที่ญี่ปุ่น

ปรึกษาเรื่องเรียนต่อญี่ปุ่น โทร. 02-665-2969, 02-258-3983
email : ask@jeducation.com

ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับเจ้าหน้าที่ คลิกเลย  >> https://bit.ly/jed-line

Scroll to Top