เอส ธนาสิทธิ์.. ประสบการณ์เรียน Engine Maintenance ที่ญี่ปุ่น
คุณธนาสิทธิ์ อริยะมงคลสุข (เอส)
การศึกษาที่ไทย | ปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ ภาควิชาภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยรังสิต |
การศึกษาที่ญี่ปุ่น | หลักสูตรภาษาญี่ปุ่น 1 ปี TOYO LANGUAGE SCHOOL , Tokyo |
หลักสูตร Engine Maintenance วิทยาลัยวิชาชีพ Tokyo Professional College of Automobile Technology |
คอลัมน์ Senior Talk วันนี้ พามาคุยกับคนคุ้นหน้าคุ้นตา #เจ๊เอ๊ด เป็นอย่างดีค่ะ (จะไม่คุ้นได้ยังไง น้องเอสมาเรียนภาษาญี่ปุ่นที่เจเอ็ดดูเคชั่น เซ็นเตอร์ ตั้งแต่อยู่มัธยม, สมัครไปเรียนญี่ปุ่นระยะสั้นช่วงปิดเทอม หรือจะเจอกันในทุกงานของ Jeducation เลยค่ะ) จากเด็กห้าวๆ กวนๆ สมัยก่อน จนถึงตอนนี้เอสเรียนจบด้าน Engine Maintenance จากญี่ปุ่น เป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลย มาอ่านบทสัมภาษณ์ของเอสกันนะคะ
ผมชอบรถแข่ง เรียกได้ว่ากินนอนบนรถยังได้
เรื่องพวกนี้จะหาเรียนที่ไหนได้ นอกจาก.. ญี่ปุ่น
- จุดเริ่มต้นของการเรียนภาษาญี่ปุ่น..
เมื่อก่อนผมเป็นเด็กเหลวไหลครับ ขนาดเรียนพิเศษยังซ้ำชั้นได้อะ เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมานับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่อายุ 16 แล้วครับ ครอบครัวผมมีธุรกิจอยู่ที่ญี่ปุ่น มองอนาคตแล้วยังไงก็ต้องเรียนอยู่ดี ตอนเข้ามหาวิทยาลัยเลยเลือกเรียนเอกภาษาญี่ปุ่นครับ
- เรียนเอกญี่ปุ่นมาแล้ว แต่ยังไม่พอ..
ถึงจะเรียนเอกญี่ปุ่นมาแล้ว แต่ไม่พอครับ ก็ต้องมาเรียนปรับภาษากันอีกหน่อย และเนื่องจากเงื่อนไขของเซนมง (วิทยาลัยวิชาชีพ) ที่อยากเข้านั้น ต้องเป็นคนที่เคยเรียนภาษาในญี่ปุ่น 6 เดือน ผมก็เลยเลือกเรียนคอร์สภาษาญี่ปุ่น 1 ปี เพื่อฝึกภาษา, หาประสบการณ์ และทำงานพิเศษเก็บเงินไปด้วยครับ อีกเหตุผลคือ
- ความรู้ภาษาญี่ปุ่นแค่ไหน ที่เรียกว่าพอ สำหรับเซนมง..
อันนี้ผมว่าแล้วแต่ตัวคนด้วยนะ เพื่อนผมคนไต้หวันตัวจี๊ด มาแบบไม่รู้ภาษาอะไรเลย ตอนแรกเรายังสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษล้วนๆ ผ่านมาปีเดียว เค้าพัฒนามาก เรียนเซมมงสบายๆ มีเพื่อนคนญี่ปุ่นมากมาย
- พูดถึงการสอบเข้าเรียนต่อเซนมง..
ตอนที่ผมเรียนอยู่โรงเรียนภาษา Toyo ครูที่ปรึกษาจะคอยถามไถ่เป้าหมายของเราตลอด เราก็บอกไป อยากเรียนต่อเซนมง ชอบรถแข่ง ชอบรถซิ่ง เขาก็เอาหนังสือแนะนำโรงเรียนมาให้เราดู ยังไม่พอ.. ครูที่ Toyo นี่ใจดีมากกกกก โทรไปนัดเพื่อเข้าไปเยี่ยมชมโรงเรียนให้เราเลย
ผมไปดูอยู่ 2-3 โรงเรียน แต่ก็รู้สึกว่า ยังไม่ตอบโจทย์ จนมาเจอโรงเรียนนี้ เรียกได้ว่า รู้สึกเหมือนตกหลุมรัก ทั้งๆที่ 2-3 โรงเรียนก่อนหน้านี้หรูเลยนะ มีรถแลมโบกินีให้นักเรียนได้เรียนด้วย
- สิ่งที่กำลังเรียนอยู่ตอนนี้..
ตอนนี้กำลังศึกษาภาควิชา Engine Maintenance หรือ ซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ ชั้นปี 2 ครับ คือปีสุดท้ายนั่นแหละ จะว่าเหมือนช่างยนต์ก็คล้ายๆ แต่ที่ทำให้ตรงนี้ไม่เหมือนช่างทั่วไปก็คือ เราต้องเรียนเครื่องยนต์เรือ ยันรถแข่ง F1 เลยครับ ซึ่งเราทำรถแข่งกันเอง และส่งลงสนามแข่งกันจริงๆ ด้วย ตอนนี้ก็มีผลงานเรื่อยๆ นอกจากซ่อมแล้ว สิ่งที่เราเรียนคือ ทำอย่างไรให้ยานพาหนะคันนึง “ปลอดภัย” สำหรับผู้บริโภคและใช้มันได้เต็มสมรรถนะด้วยครับ
- สาเหตุที่เลือกเรียนต่อด้านนี้..
เมื่อก่อน ป๊าเป็นนักซิ่งอยู่ที่ญี่ปุ่นนี่ และทำธุรกิจไปด้วย ตอนเด็กๆ ได้มีโอกาสตามมาช่วยงานบ้าง เราเห็นป๊าเราทำงานในสิ่งที่เขารักมาตลอด เราเลยอยากทำบ้าง บวกกับตอนที่อยู่ไทยเราชอบรถยนต์ รถแข่งเอามากๆ เรียกได้ว่ากินนอนบนรถยังได้ แต่ยุคสมัยมันเริ่มเปลี่ยนไป รถใหม่ๆ ออกมา เช่น Hybrid และรถไฟฟ้า ทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับคนรุ่นก่อน แล้วผมจะหาเรียนที่ไหนได้ นอกจากประเทศที่อุตสาหกรรมยานยนต์ยอดขายสูงสุดในโลก อย่าง “ญี่ปุ่น” ครับ
- แล้วต้องเรียนอะไรบ้าง..
หลักสูตร Engine Maintenance ที่ผมเรียนอยู่ ใช้เวลา 2 ปีครับ ได้เรียนแทบทุกอย่าง เรือ รถยนต์รุ่นเก่า รถยนต์รุ่นใหม่ มอเตอร์ไซค์ รถไฟฟ้า และ Hybrid
นอกจากเรื่องของระบบรถยนต์แล้ว ยังมีเรียนวิชาเชื่อมไฟ (มีสอบใบอนุญาต) วิชาตัดเหล็ก (อันนี้ก็มีสอบใบอนุญาต) วิชาไฟฟ้า(นี่ก็มีสอบใบอนุญาต) และอีกมากมายครับ เรียกว่าสอบกันหัวยุ่งเลย ส่วนเวทีสุดท้ายของพวกผม คือ การสอบใบอนุญาตวิชาชีพช่างยนต์ระดับ 2 (ถ้าเป็นระดับ1 นี่ใช้เวลาเรียน 4 ปี)
- อุปสรรคของการเรียน..
ถ้าถามถึงอุปสรรค.. อย่างเช่น เรียนยากไหม ผมว่ามันก็ยากนะ ด้วยความไม่ใช่ภาษาบ้านเรา แต่ยังดีที่วงการยานยนต์ ยังมีทับศัพท์อยู่บ้าง ทำให้เราพอเดาๆได้ และผมก็เป็นคนไทยคนเดียวในโรงเรียนนี้ด้วย ไม่มีใครให้ถามเป็นภาษาไทยแน่
อีกปัญหาที่เจอนอกจากนี้ ก็คือเรื่องของความกดดัน คือการที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของคนบนรถยนต์ คันที่เราผลิตหรือซ่อมไปนั่นเองครับ
- ชีวิตหลังจากนี้..
หลังจากเรียนจบ คิดว่าจะกลับไปทำงานที่ไทยครับ จะใช้ความรู้ที่เรียน มาพัฒนาบ้านเราครับ อาจจะทำงานในฝ่ายผลิต ซึ่งภาษาญี่ปุ่นเราก็ได้ คิดว่าการทำงานกับคนญี่ปุ่น ก็น่าจะไม่มีปัญหา ตัวผมเองคงเป็นประโยชน์ต่อบริษัทที่จะเข้า แน่นอนครับ
- ได้อะไรจากการเรียนต่อญี่ปุ่น..
การมาเรียนที่ญี่ปุ่นให้อะไร ผมพูดเรื่องนี้กับเพื่อนอยู่บ่อยๆ เราอาจจะไม่มีประสบการณ์สุดเฟี้ยวเหมือนเพื่อนที่ไปเรียนประเทศอื่นๆ แต่ญี่ปุ่น หล่อหลอมให้เราเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพครับ เช่น การตรงต่อเวลา การนึกถึงผู้อื่น ทานอาหารยังไง ให้คนเก็บจาน ล้างจาน ได้อย่างไม่ลำบาก เรื่องเล็กๆพวกนี้แหละครับ ที่ได้จากญี่ปุ่น และผมเชื่อว่า มันทำให้เราเป็นคนที่มีคุณภาพขึ้นครับ
คุณธนาสิทธิ์ อริยะมงคลสุข
ไปเรียนต่อญี่ปุ่น กับ เจเอ็ดดูเคชั่น
– หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว เดือนเมษายน ปี 2014
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่นโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999 แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นทุกระดับ โดยศิษย์เก่าญี่ปุ่น ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน
สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง ไม่มีค่าดำเนินการใดๆ
รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)
ติดต่อสอบถาม-ปรึกษาเรื่องเรียนต่อญี่ปุ่น
โทร. 02-267-7726
email : ask@jeducation.com
ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับเจ้าหน้าที่ คลิกเลย >> https://bit.ly/jed-line