“หวังให้สูง.. ตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ไว้ก่อน”
คือคำที่น้องบุ๊ค – ชาญธิษ อัศรัสกร เด็กชายวัย 17 ปี กล่าวกับคุณพ่อ
ก่อนที่เส้นทางการเรียนภาษาญี่ปุ่นของบุ๊คจะเริ่มต้น
คุณพ่อได้ยื่นข้อเสนอให้น้องเลือกว่า หากจะไปต่างประเทศ บุ๊คอยากจะไปประเทศไหน?
ตอนแรกก็ยังลังเล แต่เมื่อลองปรึกษาพูดคุยกันดู
น้องจึงลองขอไปเรียน Study Trip ที่โรงเรียนมัธยมปลาย OISCA เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์
ทริปสั้นๆ ครั้งนั้น ก็เหมือนการได้ไป “ทดลองใช้ชีวิตแบบนักเรียนญี่ปุ่น”
เขาเรียนยังไง.. กินนอนแบบไหน.. จะอยู่ได้มั้ย.. ปรับตัวได้หรือเปล่า..
และบุ๊คพบว่า “ได้! แถม ชอบ” มากกว่าที่คิด !
จนเปลี่ยนความชอบนั้น กลายมาเป็นเป้าหมาย
“ผมจะไปเรียนมัธยมปลายที่ญี่ปุ่น”
แต่การจะเข้าไปเป็นนักเรียนของเขา ไม่ง่ายดายค่ะ
ปีที่บุ๊คจะสอบเข้า มีผู้สมัคร 15 คน แต่ทางโรงเรียนสามารถรับได้เพียงแค่ 5 คน เท่านั้น
ณ ตอนนั้น ทั้งภาษาญี่ปุ่นและคะแนนการสอบข้อเขียนของบุ๊ค ไม่ได้เก่งหรือโดดเด่นกว่าคนอื่น
แต่น้องก็ตั้งใจ แสดงให้อาจารย์ผู้สัมภาษณ์เห็นถึงความมุ่งมั่น จนได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 5
บุ๊คเริ่มเข้าเรียนม.4 ช่วงเมษายน 2015
เมื่อเรียนไปได้ 3 เดือน เดือนกรกฎาคม 2015
อาจารย์ให้น้องลองไปสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น (JLPT) ระดับ N4
ผลปรากฎว่าน้องบุ๊คผ่าน
แถมยังผ่านด้วยผลคะแนนเกือบเต็ม
พอสิ้นปี ( เดือนธันวาคม 2015 ) บุ๊คเลยตัดสินใจก้าวกระโดดไปสอบระดับ N2
และอย่างที่คาดไว้ น้องผ่าน…
นับระยะเวลาตั้งแต่เข้าเรียน ม.ปลาย ที่ร.ร. OISCA
บุ้คสอบผ่าน N2 ด้วยเวลาเพียง 8 เดือนเศษเท่านั้น
การที่น้องบุ๊คโชคดีที่มีคุณพ่อคุณแม่ที่สามารถซัพพอร์ตให้ไปเรียนม.ปลายที่ญี่ปุ่นได้ อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งค่ะ
แต่ก็เป็นเพียงเหตุผลเล็กๆ เท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมด
ที่ OISCA Senior High School เข้มงวดเรื่องกฎระเบียบมาก
มีตารางตื่นนอน ทำความสะอาด กินข้าว พักผ่อน เป็นเวลา แบบเป๊ะๆ
และมีช่วงเวลาให้ทบทวนบทเรียน ตอนประมาณ 1-2 ทุ่ม
แต่น้องบุ๊คให้เวลากับการอ่านหนังสือจนถึง 4-5 ทุ่ม..
ผ่านไป 1 ปี 3 เดือน
นับจากการเริ่มต้นใช้ชีวิตมัธยมปลายที่ญี่ปุ่น
เดือนกรกฎาคม 2016
บุ้คลองสนามสอบ N1 เป็นครั้งแรก
แต่ผลไม่เป็นไม่ตามที่คาดหวังไว้
ไม่แปลก..
เพราะการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นระดับ N1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดไม่ใช่เรื่องง่าย
ที่สำคัญคือ บุ๊คบอกว่าไม่เสียใจ..
“อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าตัวเองพลาดตรงไหน แล้วไปเน้นตรงนั้นเยอะๆ”
จนกระทั่งเมื่อผลการสอบรอบล่าสุดออกมา (รอบเดือนธันวาคม 2016)
เจ๊เอ๊ด ก็ได้รับแจ้งข่าวดีจากคุณพ่อว่า
“น้องบุ๊คผ่าน N1 แล้ว !!”
อ่านมาจนถึงตรงนี้ อาจจะรู้สึกว่า น้องบุ๊คเป็นเด็กเนิร์ดมาก เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเรียนสุดๆ
แต่ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ..
เพราะคุณพ่อของน้องมีแนวคิดว่า
“อ่านหนังสือเป็น 100 เล่ม ก็ไม่เท่ากับการได้ออกไปเที่ยวครั้งเดียว”
บุ๊คก็เลยทั้งแบกเป้ลุยปีนภูเขาไฟฟูจิจนถึงจุดสูงสุด
หรืออยากมีประสบการณ์นอนค้างที่สนามบิน ก็จัดการวางแผนซะดิบดี
แถมยังมีการแนะนำน้องๆ ให้เที่ยวนั่นนี่
เรียกได้ว่าเป็นหัวหน้าก๊วนเลยล่ะค่ะ :)
ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่จัดการ Work Life Balance ได้เป็นอย่างดี
และแม้ว่าตอนนี้จะได้ N1 มาไว้ในครอบครองแล้ว
แต่บุ๊ค.. ขยันมากกว่าเดิม
คุณพ่อเล่าให้ฟังว่าตอนนี้น้องเรียนกวดวิชาเพิ่ม ทุกวันพฤหัส – ศุกร์ ต้องขอโรงเรียนเป็นกรณีพิเศษ กว่าจะกลับถึงหอพักโรงเรียนก็ 5 ทุ่มครึ่ง แล้วค่อยมากินข้าว
ฟังแล้วรู้สึก โห.. ทำไมต้องทำขนาดนั้น.. ?
เพราะต่อจากนี้น้องบุ๊คมีเป้าหมายใหม่
“จะเข้ามหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นให้ได้”
คณะที่น้องอยากจะเข้าคือเศรษฐศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยระดับท็อป
ซึ่งอาจารย์แนะแนวบอก ถ้าดูจากเป้าหมายกับคะแนนของบุ๊คตอนนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ จะต้องทำให้มากขึ้น 2 – 3 เท่า
นี่คือเหตุผลว่าทำไมบุ๊คต้องไปซื้อหนังสือ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ มาอ่าน
อ่านแทบจะตลอดเวลา ไปเที่ยวก็พกไปอ่าน กลับมาไทยก็ติวเพิ่ม..
บุ๊คทุ่มเททำอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้เป้าหมายของเขาเป็นจริง
“น้องเปลี่ยนไปมาก เอาเรื่องกายภาพก่อนนะ ก่อนไปบุ๊คเป็นผู้ชาย ก๊องแก๊ง ไม่มีกล้ามเนื้อ พอกลับมาเยี่ยมบ้าน คาร์แรคเตอร์เปลี่ยนไปเลย อาจจะเพราะได้ทำอะไรเองเยอะ ถูพื้น ออกกำลังกาย.. พ่อชอบนะ เพราะเวลาที่มีภัย เราจะรอด ก็เพราะว่าเราแข็งแรงนี่แหละ”
คุณพ่อพูดไปพร้อมเสียงหัวเราะ
“นอกจากนี้ก็ได้วินัย รู้จักวางแผน มีระบบการจัดการที่ดีขึ้น คิดว่าถ้าน้องบุ๊คยังอยู่ใกล้พ่อแม่คงไม่ทุ่มเท อดทนได้ขนาดนี้ ทั้งเรื่องเรียนพิเศษ ทุกอย่าง เขาขอเอง เราไม่ต้องคิดให้เขาเลย”
เมื่อเจ๊เอ๊ดลองถามว่าคุณพ่อภูมิใจในตัวน้องบุ๊คมั้ย… ?
“ภูมิใจแน่นอน.. ภูมิใจที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลง
ไม่ใช่แค่เพราะน้องสอบ N1 ผ่าน
พ่อดูที่ความตั้งใจ.. ชอบที่เขาขยัน
หากพลาดเขาก็ได้เรียนรู้ว่าความสำเร็จไม่ได้ได้มาง่ายดาย
หากสำเร็จเขาก็จะได้รู้สึกว่า นี่แหละ.. ผลลัพธ์ของความพยายาม”
ปัจจุบันน้องบุ๊คกำลังศึกษาระดับปริญญาตรี คณะ Science information engineering, Ritsumeikan University จ.Kyoto
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่นโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999 แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นทุกระดับ โดยศิษย์เก่าญี่ปุ่น ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน
สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง ไม่มีค่าดำเนินการใดๆ
รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)
ติดต่อสอบถาม – สมัคร เรียน
โทร. 02-2677726 ต่อ 101-104
email : ask@jeducation.com
