เพื่อนบอกว่าไป เรียนต่อญี่ปุ่น ไหงเฟสบุ้คมีแต่รูปเที่ยว
เคยสงสัยไหมคะว่า เพื่อนที่บอกว่าไป เรียนต่อที่ญี่ปุ่น ทำไม๊…อัพรูปในเฟสบุ้คแต่ละวันๆ มีแต่รูปเที่ยว
นั่นน่ะสิคะ เพราะขณะเดียวกันนักเรียนที่ญี่ปุ่น ก็มักจะถูกเพื่อน คนรู้จักแซวว่า ” นี่ไปเรียน หรือไปเที่ยวกันแน่”
จริงๆ คือไปเรียนนั่นล่ะค่ะ เพียงแต่ว่าปรกติไม่ค่อยมีใครถ่ายรูปตอนเรียนกันน่ะสิคะ โดยเฉพาะถ้าคนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนสอนภาษาแล้วล่ะก็ ลักษณะการเรียนจะค่อนข้างคล้ายกันทุกวัน แล้วจะงัดมือถือขึ้นมาถ่ายรูปตอนเรียน อาจจะโดนอาจารย์ดุได้ เลยไม่มีรูปตอนเรียนมาอัพโชว์ให้เห็นกันเท่าไหร่
แต่หลังจากเลิกเรียนนี่สิคะ ได้เวลาแห่งการ “แชะ”
โดยเฉพาะนักเรียนในโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น ถ้าไม่ใช่นักเรียนที่เรียนหลักสูตรเพื่อเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยญี่ปุ่น (ระดับปริญญาตรี) ส่วนใหญ่จะเรียนแค่ครึ่งวันค่ะ หยุดเรียนวันเสาร์และอาทิตย์ ถ้าไม่ได้ไปทำงานพิเศษก็จะมีเวลาว่างพอสมควร มีช่วงปิดเทอมแต่ละภาคเรียนบ้างประมาณ 1 สัปดาห์ – 10 วัน ส่วนระดับมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัย ก็ใช่ว่าจะเรียนทุกวัน แถมปิดเทอมยาวนานอีกต่างหาก
อยู่ที่ญี่ปุ่น ทุกสิ่งทุกอย่างมันแปลก แตกต่างไปจากการใช้ชีวิตประจำวันที่คุ้นเคยในเมืองไทย แม้แต่แค่ออกไปเดินเล่นละแวกบ้าน ละแวกโรงเรียน สามารถพบเจออะไรที่ตื่นตาตื่นใจ ไม่เคยพบไม่เคยเห็นได้ตลอดเวลา และที่สำคัญคืออยู่ญี่ปุ่น 1 ปี จะได้พบเจอกับ 4 ฤดูที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงค่ะ
ฤดูใบไม้ผลิ 春 : haru
เริ่มตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ เดือนเมษายนซึ่งเป็นเดือนแห่งการเริ่มต้นภาคการศึกษาแรก แน่นอนว่า กิจกรรมของฤดูนี้คือ การตระเวณชมซากุระ หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า お花見 : ohanami การชมซากุระไม่ได้หมายความว่าจะต้องนั่งรถไฟข้ามจังหวัด ข้ามเมืองไปดูเสมอไป แค่ในจังหวัดที่อาศัยอยู่ก็สามารถชื่นชมกับความงามของซากุระได้มากมายหลายที่
ถ้าเรียนช่วงเช้า กิจกรรมหลังเลิกเรียนในฤดูนี้คือ ไปชมซากุระกับเพื่อนๆ ตามสถานที่ต่างๆ แถมไม่ต้องเร่งรีบเหมือนนักท่องเที่ยวที่ต้องทำเวลา เราสามารถซื้อข้าวกล่อง หอบปิ่นโตไปนั่งปิกนิค ชื่นชมกลีบซากุระที่ค่อย ๆ ร่วงหล่นลงมาใส่กล่องข้าว สังสรรค์เฮฮากับเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่ หรือจะหลบมุมไปพายเรือกันสองคนกระหนุงกระหนิงตามสวนสาธารณะ สุดแสนจะโรแมนติก
ถึงจะเรียนช่วงบ่าย เลิกเรียนออกมาตอนเย็นก็ใช่ว่าจะพลาด หลายๆแห่งมีการ light up ให้จิบเบียร์ชมซากุระยามค่ำคืน ขอโทษนะคะ ชมซากุระยามค่ำเนี่ยตัวดีเลย ถ้าเป็นสถานที่ดังๆ ยอดฮิตแล้วล่ะก็ ผู้คนที่เลิกงานจะแห่แหนกันมาชมอย่างแน่นขนัดเลยล่ะค่ะ
แล้วแน่นอนว่า… ต้องถ่ายรูป เซลฟี่ อัพ IG ลง Facebook ให้เพื่อนๆที่เมืองไทยอิจฉาเล่นๆ
วันนี้ไปที่นี่ อีกวันไปที่อื่น เสาร์อาทิตย์ไม่มีเรียน นั่งรถไฟออกไปไกลหน่อยก็ยังได้ เรียกว่าดูซากุระกันซะให้เข็ด แต่ไม่เข็ด ดูเท่าไหร่ ดูกี่ปี ดูที่เดิม ไม่ยักเบื่อสักที
ซากุระร่วงไป ใช่ว่าฤดูชมดอกไม้จะหมดง่ายๆ นะคะ
เพราะจะมีดอกนู้นดอกนี้บานกันสลอน แล้วไงล่ะ… ไปสิคะ จะรออะไร
ฤดูร้อน 夏 : natsu
เวลาชิวๆ อากาศสบายๆ ของฤดูใบไม้ผลิผ่านไป เข้าสู่ฤดูร้อนช่วงเดือนกรกฎาคม สิงหาคม แม้อากาศจะเริ่มร้อนอบอ้าว ทรมานกว่าเมืองไทย แต่ฤดูนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกและได้บรรยากาศญี่ปุ๊น…ญี่ปุ่นสุดๆ
ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงดอกไม้ไฟที่อลังการ งานใหญ่ๆ จุดกันเป็นหมื่นดอก ชมกันเป็นชั่วโมง คอเคล็ดขัดยอกไปตามๆ กัน ทั้งยังได้สวมบทบาทเป็นนางเอกอนิเมะ สวมยุกะตะเดินเที่ยวเล่นในงานวัด ช้อนปลาทอง ยิงปืน อย่างที่เห็นในหนังหรืออ่านการ์ตูนยังไงอย่างนั้นเลยล่ะค่ะ
ช่วงนี้จะมีเทศกาลแห่ศาลเจ้าด้วยค่ะ บางโรงเรียนให้นักเรียนสมัครเข้าร่วมแบกได้ด้วย ขอบอกว่ามันหนักมากกกกกกกค่ะ แต่ผู้หญิงจะโชคดีหน่อย เพราะตัวเตี้ยกว่าผู้ชาย จริงๆ แทบจะไม่ได้ออกแรงกับเค้าเท่าไหร่หรอกค่ะ ส่วนใหญ่ก็แกล้งๆ เก๊กหน้าเหมือนหนักให้ถ่ายรูปไปอย่างนั้นแหล่ะค่ะ แหะ แหะ
ช่วงนี้จะเป็นช่วงปิดเทอมด้วย ถ้าโชคดีได้ปิดเทอมตรงกับที่จังหวัดไหนมีงานเทศกาลฤดูร้อนใหญ่ๆ ล่ะก็ พลาดไม่ได้เลยค่ะ แม้วีซ่านักเรียนจะซื้อ JR pass แบบนักท่องเที่ยวไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรค่ะ อาศัยความอึดขึ้นรถบัสตอนกลางคืน นอนไปบนรถ ถึงจุดหมายยามเช้าเที่ยวได้ เหมือนนั่งรถทัวร์กลางคืนจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ราคาค่ารถบัสจะประหยัดกว่าชินคันเซ็นมากกว่าครึ่ง
ฤดูใบไม้ร่วง 秋 : aki
มาถึงฤดูแห่งความโรแมนติกลึกๆ อย่างฤดูใบไม้ร่วง ได้เวลาแห่งการชื่นชมธรรมชาติ พร้อมค้นพบสัจธรรมยามใบไม้ปลิดปลิวลงพื้น นอกจากจะได้ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี แดงๆ เหลืองๆ แล้ว ฤดูนี้ให้ความรู้สึกของความสงบ ได้อยู่กับตัวเอง ออกไปเดินป่า เดินเขาเที่ยวชมธรรมชาติแบบนิ่งๆ เงียบๆ ก็มีความสุขไปอีกแบบ
ฤดูหนาว 冬: fuyu
และแล้ว…ก็มาถึงฤดูแห่งความหฤโหดสำหรับคนเมืองร้อนอย่างเรา แม้จะเป็นคนชอบความหนาว แต่เชื่อว่าในช่วงแรก ถ้าไม่ใช่คนที่เคยอยู่ต่างประเทศเมืองหนาวๆมาก่อน ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชินเพราะมันหนาวกว่าที่คิด และหนาวไม่เลิกรา
3 เดือนแห่งความหนาวเหน็บ จะให้อยู่เฉยๆ คงจะเฉาเป็นแน่ จึงต้องหากิจกรรมทำแก้หนาวนั่นคือ การไปเล่นกีฬาฤดูหนาวกันสิคะ
ช่วงปลายปีของทุกปี สมาคมนักเรียนไทยในญี่ปุ่นฯ จะมีการจัดกิจกรรมสกีทริป ซึ่งมีนักเรียนไทยจากทั่วภูมิภาคของญี่ปุ่นมารวมตัวกันเป็นร้อยค่ะ เรียกได้ว่าเหมาที่พักบางแห่งในสกีรีสอร์ทกันไปเลย
งานนี้ทำให้ได้รู้จักพี่ๆ น้องๆ เพื่อนใหม่จากที่ต่างๆ และสนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็วค่ะ เพราะต้องใช้เวลาอยู่ร่วมกัน 3 วัน 2 คืน คนที่เล่นไม่เป็นไม่ต้องกังวล เพราะจะมีสต๊าฟรุ่นพี่ที่เล่นเป็นแล้วคอยช่วยสอนในวันแรก
ถ้ารู้สึกว่าสกี หรือสโนว์บอร์ด โลดโผนเกินไป ชั้นไม่ถนัดล่ะก็ ไม่เป็นไรค่ะ ยังมีกิจกรรมฤดูหนาวอื่น ๆ ให้ลองได้ค่ะ อย่างเช่น สโนว์ชูวส์ เป็นการเดินย่ำหิมะในป่า กิจกรรมสโนว์ชูวส์นี้ ส่วนใหญ่จะมีไกด์นำทางค่ะ ไม่ได้ไปเดินดุ่ยๆ เองตามใจชอบ เดี๋ยวตกเขาเดี้ยงพอดีกัน ทำให้ได้เรียนรู้ธรรมชาติ เห็นร่องรอยสัตว์เล็กสัตว์น้อย
คงจะเคยได้ยินสโลแกนที่ว่า เที่ยวญี่ปุ่นกี่ทีไม่มีเบื่อ อยากจะบอกว่าอยู่ญี่ปุ่นทั้งปีไม่มีเบื่อมากกว่าค่ะ
ถ้าไม่ใช่คนที่เก็บตัว หรือไม่ชอบออกไปไหนล่ะก็ มีกิจกรรมอะไรให้ทำมากมาย ตลอดเวลา ยิ่งเราออกไปทำกิจกรรมข้างนอกมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้รู้จักผู้คนเพิ่มมากขึ้น แล้วโอกาสต่างๆ จะยิ่งเปิดเข้ามาหาเราเพิ่มขึ้น ได้ทั้งมิตรภาพดีๆ และประสบการณ์ประทับใจที่ทำให้ยิ้มได้ทุกครั้งที่นึกถึง
เชื่อว่านักเรียนไทยที่มีโอกาสได้ไป เรียนต่อญี่ปุ่น ได้ไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นคิดเหมือนๆกันใช่ไหมคะ
ขอบคุณภาพจาก : Bixbox & ภัทรพล ตันติปิฏก
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานในประเทศไทยของสถาบันโดยตรง แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นทุกระดับ โดยศิษย์เก่าญี่ปุ่น ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน โดยไม่คิดค่าดำเนินการใด ๆ รวมถึงค่าส่งเอกสารไปที่ญี่ปุ่น
ปรึกษาเรื่องเรียนต่อญี่ปุ่น โทร. 02-2677726
email : ask@jeducation.com
ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับเจ้าหน้าที่ คลิกเลย >> https://bit.ly/jed-line