รีวิวขั้นตอน เข้าประเทศญี่ปุ่น ด้วย วีซ่านักเรียน ** Update ล่าสุด 14 มกราคม 2021**
ในช่วงเดือนตุลาคม 2020 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน นักเรียนไทยได้รับข้อยกเว้นให้สามารถขอวีซ่าและเดินทางเข้าประเทศได้ด้วยระบบ Residence Track แต่เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2021 ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้ประกาศเกี่ยวกับการเข้าประเทศเพิ่มเติม โดยได้ ระงับการออกวีซ่าใหม่ และ ระงับการเข้าประเทศของคนต่างชาติ รวมถึงระงับการขอวีซ่าเข้าประเทศด้วย Residence Track ไปก่อน ทำให้นักเรียนที่ยังไม่ได้ออกวีซ่า ถึงแม้จะมี Residence Track ก็ไม่สามารถขอวีซ่าและเดินทางเข้าประเทศได้จนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2021 ตามกำหนดของประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ซึ่งก็ยกเว้นสำหรับ นักเรียนที่ได้ออกวีซ่าด้วย Residence Track มาเรียบร้อยแล้ว อนุโลมให้เดินทาง เข้าประเทศญี่ปุ่น ได้จนถึงวันที่ 20 มกราคม 2021 เวลา 23.59 น. โดยนักเรียนที่จะเดินทางเข้าประเทศ จะต้องทำตามระเบียบการเข้าประเทศอย่างครบถ้วน
เรามาดู ขั้นตอน สิ่งจำเป็น เอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อม สำหรับนักเรียนที่กำลังเตรียมตัวจะออกเดินทาง เข้าประเทศญี่ปุ่น สำหรับช่วงนี้กันเลยค่ะ
ก่อน เข้าประเทศญี่ปุ่น
1. บันทึกอุณภูมิร่างกายของตัวเองก่อนเข้าประเทศเป็นเวลา 14 วัน
ระหว่างที่ยังอยู่ประเทศไทย ก่อนเดินทาง 14 วัน ให้เราวัดอุณภูมิร่างกายทุกวัน และจดบันทึกอุณภูมิของตนเอง จากนั้นบันทึกเก็บไว้ค่ะ เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะให้กรอกแบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพของเราก่อนเดินทาง เข้าประเทศญี่ปุ่น ด้วย ซึ่งสามารถทำตารางจดอุณภูมิด้วยตนเองได้ หรือจะใช้ตารางตามภาพด้านล่างก็ได้เหมือนกันค่ะ
Download ตารางบันทึกอุณหภูมิ คลิกที่นี่
2. เตรียมตัวซื้อประกันการเดินทาง / ประกันภัยสำหรับนักเรียน
การเดินทาง เข้าประเทศญี่ปุ่น สำหรับ วีซ่านักเรียน ครั้งนี้ แตกต่างกับทั่วไปค่ะ เนื่องด้วยเงื่อนไขใน Residence Track เมื่อไปถึงญี่ปุ่นแล้ว นักเรียนจะต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งในระหว่างกักตัวจะไม่สามารถไปทำเรื่องที่สำนักงานเขต หรือแจ้งสมัครประกันสุขภาพแห่งชาติได้ นักเรียนที่จะเดินทางเข้าประเทศ จึงจะต้องทำประกันการเดินทางจากประเทศของตนมาด้วย
( ทั้งนี้ไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาหรือวงเงินขั้นต่ำอย่างชัดเจน แต่ทางสถาบันที่ญี่ปุ่นที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน แนะนำมาว่าให้ทำประกันระยะเวลา 1 เดือนเป็นอย่างน้อยค่ะ )
อ่านบทความ การทำประกันเดินทาง ก่อนไปเรียนต่อญี่ปุ่น คลิกที่นี่
3. ซื้อซิมอินเตอร์เน็ต ระยะเวลามากกว่า 15 วันขึ้นไป
เนื่องจากในครั้งนี้ เมื่อไปถึงญี่ปุ่น เราจะต้องมีการใช้งาน Application COVID-19 Contact Confirming และเปิดอนุญาตการเข้าถึงตำแหน่ง (Location) ของเราใน Google maps ด้วย ดังนั้นเจ๊เอ๊ดแนะนำว่าให้ซื้อซิมไปจากเมืองไทยไปก่อนเลย พอลงเครื่องก็จะได้เปิดใช้ได้ทันทีค่ะ
4. โหลด Application COVID-19 Contact Confirming และ เปิด Location
โดย Application นี้มีไว้เพื่อแจ้งข่าวสาร และแจ้งว่าเราได้เดินทางไปในจุดที่เสี่ยงต่อการสัมผัสผู้มีเชื่อ COVID-19 หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะทำการตรวจดูว่าเราได้โหลดเรียบร้อยหรือยัง ตั้งแต่ที่สนามบินเลยค่ะ อ่านข้อมูล หรือ โหลด Application ได้ที่นี่ จากนั้นตั้งค่าโทรศัพท์ โดย เปิดอนุญาตการเข้าถึงตำแหน่ง (Location) ใน Google Map ให้เรียบร้อย เพื่อให้ Application ทำการติดตามตัวเราได้ค่ะ
5. เข้ารับการตรวจ PCR ที่โรงพยาบาลจากที่ไทย
การตรวจจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,500 บาทขึ้นไป สามารถเข้าตรวจที่โรงพยาบาลได้ โดยผลตรวจจะต้องไม่เกิน 72 ชั่วโมง ดูรายชื่อโรงพยาบาลในไทยที่สามารถเข้าตรวจได้ คลิกที่นี่
อย่าลืม! ขอใบรับรองแพทย์ที่ระบุผลเป็นลบ หรือ Not detected พร้อมใบผล Lab ที่ระบุเวลาที่รับการตรวจเป็นภาษาอังกฤษมาด้วยนะคะ
วันเดินทาง
ตรวจเอกสารที่สนามบิน
ที่จุด check-in ก่อนขึ้นเครื่อง เจ้าหน้าที่จะมีการตรวจเอกสารเพิ่มเติมนอกจาก Passport ด้วยค่ะ นั่นก็คือ
- เอกสารผลตรวจ PCR (ตัวจริง) *แนะนำให้ทำสำเนาเผื่อไว้ด้วยนะคะ
- Residence Track ตามตัวอย่างด้านล่าง
** (Update) ตั้งแต่ 8 มกราคม 2021 เป็นต้นไป Residence Track ได้เปลี่ยนรูปแบบไหม่แล้วนะคะ นักเรียนใหม่ที่ได้วีซ่าแล้ว จะเดินทางเข้าประเทศ ต้องไปขอ Residence Track ใหม่กับโรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัยของเราใหม่ก่อนเดินทางเข้าประเทศนะคะ ดูฟอร์ม Residence Track ที่นี่
กรอกเอกสารเพิ่มเติมที่ได้รับบนเครื่องบินให้เรียบร้อย
- แบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพ (Questionnaire)
แบบฟอร์ม Questionnaire นี้นักเรียนทุกคนจะได้รับตอนที่ขึ้นเครื่องบินค่ะ สามารถดูตัวอย่างแบบฟอร์มได้โดย คลิกที่นี่
*ข้อมูลข้อ 9 – 14 สามารถกรอกเป็นข้อมูลของสถาบันที่ตนจะไปศึกษาได้เลยค่ะ
**ตรง ※ ให้ระบุสถานที่ที่เราจะกักตัวหลังไปถึงญี่ปุ่นด้วย ให้เรากรอกสถานที่ กับระยะเวลาที่เราจะกักตัวที่นั่นลงไปค่ะ
เมื่อเดินทางถึงสนามบินที่ประเทศญี่ปุ่น
เมื่อลงจากเครื่อง เจ้าหน้าที่จะถามว่าไปต่อเครื่องหรือไม่ สำหรับผู้ที่ไม่ต่อเครื่อง เจ้าหน้าที่จะพาเราไปรับการตรวจหาเชื้อโควิดอีกครั้งและรอฟังผลค่ะ หากผลเป็นลบ ก็สามารถเดินต่อไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เหมือนเวลาเราไปเที่ยวปกติได้เลยค่ะ โดยจะต้องยื่นเอกสารทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์ เอกสารที่จำเป็นก็มี
- ผลตรวจหาเชื้อโควิดที่สนามบิน
- แบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพ (Questionnaire) *ที่ได้รับบนเครื่อง
- เอกสารผลตรวจ PCR (ตัวจริง)
- ใบ Residence Track (ตัวจริงและสำเนา)
- Passport , ใบ Admission Letter และใบขยายเวลา COE (เฉพาะผู้ที่ระยะเวลา COE เกิน 3 เดือนแล้วเท่านั้น)
ห้ามลืม ! ขั้นตอนนี้ ใครที่จะยื่นเอกสารขอทำงานพิเศษด้วย ก็ให้ยื่นตรงนี้ได้เลยนะคะ
จากนั้นรอรับ บัตรไซริวการ์ด*ค่ะ
*ไซริวการ์ด (在留カード)คือ บัตรประจำตัวคนต่างชาติ ที่เป็นเหมือนบัตรประชาชนของเราเวลาอยู่ที่ญี่ปุ่น
หลังจาก เข้าประเทศญี่ปุ่น แล้ว
เดินทางไปกักตัว ( 14 คืน 15 วัน )
สำหรับนักเรียนที่กักตัวที่หอพักนักเรียน หรือ โรงแรมที่ทางโรงเรียนจัดหาให้ จะมีรถรับ-ส่ง ของทางโรงเรียนมารับถึงที่สนามบินค่ะ
สำหรับนักเรียนที่หาที่พักด้วยตนเอง จะต้องเดินทางด้วยตนเองค่ะ โดยสามารถขึ้นรถบัส จากสนามบิน Haneda ไปยังสถานี Kamata, Kawasaki เป็นต้น ได้ตามตารางใน ลิงก์นี้ หรือจะขึ้นรถไฟตู้พิเศษสำหรับคนที่เพิ่งเดินทางเข้าประเทศของบริษัท Keisei ไปยังสถานี Ueno ก็ได้ค่ะ รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก(ภาษาญี่ปุ่น)
หรือขึ้น Airport Limousine เข้าไปยังโรงแรม แถว Shinjuku และ Akasaka ก็ได้เช่นกันค่ะ มีค่าบริการ จากสนามบิน Haneda 1,500 เยน จากสนามบิน Narita 4,000 เยน รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก
กรณีที่ที่พักอยู่นอกเหนือจากพื้นที่ที่ระบุด้านบน สามารถจองรถมารับเป็นรถส่วนตัวได้ (เรียกว่า ハイヤー) ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 เยนขึ้นไปค่ะ
เช็คโรงแรมที่รับการกักตัว คลิกที่นี่
ในช่วงที่เรากักตัว จะไม่สามารถไปเที่ยวได้ค่ะ แต่ก็สามารถออกไปใกล้ๆ ที่พัก เพื่อซื้ออาหารมารับประทานได้ หรือจะใช้บริการสั่งอาหารผ่าน Application Online มาส่งที่ห้อง ก็ได้เช่นกันค่ะ
ระหว่างนั้น 14 วัน (ไม่นับวันแรกที่ไปถึง) จะต้องตรวจวัดอุณภูมิร่างกายอย่างต่อเนื่องเพื่อแจ้งกับสถาบันของตนเองค่ะ เมื่อครบ 14 วันแล้ว เราก็สามารถที่จะปิดระบบติดตาม Location ได้ค่ะ **ห้ามปิดก่อนเด็ดขาดเลยนะ**
***หากเราทำผิดกฎข้อใดข้อหนึ่ง มีสิทธิที่จะถูกเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะด้วยนะคะ ดังนั้นต้องทำตามกฎอย่างเคร่งครัด!!***
หมายเหตุ
ปกติแล้วเมื่อนักเรียนไปถึงที่ญี่ปุ่น จะต้องไปทำการดำเนินเรื่องแจ้งที่อยู่ และทำประกันสุขภาพที่สำนักงานเขต ภายใน 14 วัน ค่ะ แต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นกรณีพิเศษที่ชาวต่างชาติทุกคนจะต้องกักตัวทันที่เมื่อไปถึง ทางสำนักงานเขตจึงได้มีการผ่อนผัน ให้สามารถไปทำเรื่องหลังจากเรากักตัวครบ 14 วันได้ ซึ่งแม้จะไม่ได้กำหนดว่าจะต้องไปภายในกี่วัน แต่ทางที่ดีก็ควรไม่เกิน 1-2 วันนะคะ
สำหรับนักเรียนที่ไปเรียนต่อกับเจเอ็ดดูเคชั่น หากพบปัญหา หรือคำถามเกี่ยวกับการเตรียมตัวเดินทาง สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามทีมเจ๊เอ๊ดได้ที่ข้อมูลติดต่อด้านล่างนี้ หรือ เข้ามาที่สำนักงานก็ได้เช่นกันเลยนะคะ
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่นโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999 แนะแนวโดยศิษย์เก่าญี่ปุ่น ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง ไม่คิดค่าดำเนินการใดๆ
รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)
ติดต่อสอบถาม – สมัคร เรียน
โทร. 02-2677726 ต่อ 101-104
email : ask@jeducation.com
คุยกับเจ้าหน้าที่แนะแนว ศิษย์เก่าญี่ปุ่น คลิก http://bit.ly/jed-line