น้องท็อป … สอบ N1 ผ่านตอนมัธยมปลาย

Q :   ท็อปเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่  เพราะอะไรคะ 

ผมเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่ตอนอยู่ม.3 ครับ ตอนนั้นนึกอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นขึ้นมาก็เลยลองเรียนดูจากทางอินเตอร์เน็ตครับ  พอได้เรียนก็รู้สึกว่าทำได้ดี และบวกกับการได้ลองไปที่ประเทศญี่ปุ่นดู ก็เลยชอบภาษาญี่ปุ่นขึ้นมาครับ

ในครั้งแรกที่ได้ไปเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้นที่ญี่ปุ่นกับทาง Jeducation นั้น   คุณพ่อเป็นคนให้ไปครับ  พ่อบอกว่าการศึกษาคือการลงทุน  อยากให้เรารู้จักวัฒนธรรมที่โน่น  พอปิดเทอมเลยส่งให้ไปเรียนที่ญี่ปุ่น 2 อาทิตย์

ก็เป็นประสบการณ์ที่สนุกครับ เพราะเราได้ทำในสิ่งที่ชอบ  เป็นการปูพื้นที่ดีครับผมว่า ในตอนที่เริ่มเรียนตอนแรกนั้น แทบจะไม่ออกห่างจากตำราญี่ปุ่นเลยครับ เพราะเรายังไม่ค่อยรู้คำศัพท์

ส่วนการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นในตอนนั้นก็เป็นเรื่องแปลกใหม่  เพราะไม่เคยอยู่คนเดียวและตอนไปยังเด็กอยู่ แต่ก็สนุกตามภาษาเด็กไปครับ

Q :   ท็อปมีโอกาสได้ไปเรียนภาษาที่ญี่ปุ่นระยะสั้นหลายครั้ง  ทั้งโตเกียว โกเบ ไซตะมะ  ชอบเมืองไหนเป็นพิเศษไหมคะ   

ที่ชอบที่สุดก็น่าจะเป็นเมืองโกเบครับ เพราะว่าเป็นเมืองที่มีภูมิศาสตร์เป็นภูเขาและอยู่ริมทะเล จึงมีวิวสวย สะดวกสบายและมีที่เที่ยวเยอะครับ   ส่วนเรื่องที่พัก  โดยส่วนตัวชอบโฮมสเตย์มากกว่าครับ เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นและวัฒนธรรมแล้ว ยังได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่นด้วยครับ

คิดว่าที่ภาษาญี่ปุ่นเก่งขึ้น เพราะได้ใช้ในสถานการณ์จริงที่ญี่ปุ่น  และยังมีแรงผลักดันจากในสังคมครับ

Q :   ท็อป สอบ N1 ได้ตั้งแต่ยังอยู่ม.ปลายแบบนี้  มีเคล็ดลับยังไงไหมคะ

ตอนนี้ สอบ N1 ผ่านแล้ว  แต่คะแนนไม่ค่อยดีเท่าไรนะครับ  ถึงคะแนนด้านการอ่านและฟังจะพอได้ แต่คำศัพท์ยังไม่ค่อยดี  เนื่องจากเรียนระดับสูงภายในสองเดือนเอง   เรื่องพูด ผมก็พูดไม่เก่ง  ก็ต้องพยายามกันต่อไปครับ

ถึงจะพูดว่าผม สอบ N1 ได้ภายในมัธยมปลาย แต่ความจริงแล้วผมไม่ใช่คนหัวดีนะครับ  เป็นเด็กธรรมดาๆ ที่เรียกว่าระดับต่ำเลย  เรียนได้เกรดเฉลี่ย 2   แต่คงเป็นเพราะชอบภาษาญี่ปุ่นมาก จึงพยายามให้ตัวเองเข้ากับมันให้ได้มั้งครับ

เคยได้ยินคำว่า”ทำสิ่งไหนจงขายวิญญาณให้กับมัน” แต่ผมคิดว่าการขายวิญญาณนี่ ไม่ไช่การพยายามอย่างเดียวหรอกนะครับ แต่เป็นการทำทุกวิถีทางเพื่อจะทำให้ได้

ถ้าจำไม่ได้ก็มาฝึกวิธีจำใหม่ ถ้าเรียนไม่รู้เรื่องหรือไม่สนุก ก็เปลี่ยนวิธีเรียนใหม่ เพราะใช้วิธีเดียวก็ไม่ไช่ว่าจะได้ผลที่ดีเสมอไปครับ

Q :   ถ้าอย่างนั้น วิธีการเรียนภาษาญี่ปุ่นในแบบของท็อปเป็นแบบไหนคะ 

ตั้งแต่ผมเริ่มเรียนญี่ปุ่น ผมก็ชอบเอาการ์ตูนมาดู  แล้วบังเอิญตอนไปเรียนที่โกเบช่วงปิดเทอมตอน ม.5  ผมก็ได้ดูเรื่อง No Game No Life  ซึ่งผมชอบมาก  แต่พอดูจบมันไม่มีให้ดูต่อ  ไม่มีมังงะให้อ่าน  มีแต่แบบที่เป็นนิยายเล่มๆ   ผมเห็นนิยายมันวางขายอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านโฮสต์  ผมเลยซื้อมา 6 เล่มเลย

ตอนช่วงนั้น ผมเตรียมสอบ N3  ครับ  ซื้อนิยายมาก็อ่านคันจิไม่ออกทั้งหมดหรอกครับ  แล้วมันเป็นภาษานิยายด้วย   แต่ผมไม่ได้คิดอะไร  ก็อ่านไปเรื่อยๆ  แล้วอ่านแบบไม่เปิดดิกฯ   พออ่านไปเรื่อยๆ มันก็เจอคันจิซ้ำๆ  เราก็พอเดาได้  จำได้จากความเคยชิน

ตอนแรกที่ผมอ่านนิยาย   อ่านไปได้แค่ 2-3 บรรทัดก็เลิกนะครับ  เริ่มมึน  แต่พอไปเรื่อยๆ ก็อ่านได้มากขึ้น เป็น 10 หน้า 20 หน้า จนจบเล่ม  จบไปทีละเล่มๆ จนหมด  ก็ใช้เวลาไป 7-8 เดือนอ่ะครับ  แต่ไม่ได้รู้สึกเบื่อหรือทรมานนะครับ เพราะมันสนุก

หลังจากนั้น ก็ลองเซิร์ซจากอินเตอร์เน็ต หาเว็บนิยายญี่ปุ่น เป็นพวกนิยาย เรื่องสั้นของนักเขียนหน้าใหม่ ที่มาประกวดแข่งกัน  แต่ยังไม่ได้ตีพิมพ์   ก็อ่านมาเรื่อยๆ  แบบไม่เปิดดิก ยกเว้นจะอยากรู้จริงๆ ถึงค่อยเปิด   จนตอนนี้ชินกับการอ่านแล้วครับ

หลังจากที่เริ่มอ่านนิยายตอนนั้น ไปสอบ N3 ผมได้คะแนนพาร์ทการอ่านเต็ม  เทอมต่อมา ม.6 เทอมหนึ่ง ก็สอบ N2  ผ่าน  พอม.6 เทอมสอง ก็ สอบ N1 ผ่าน คือผมรู้คันจิมากขึ้นจากการอ่านนิยายเนี่ยล่ะครับ

แล้วผมต้องสอบ EJU ด้วย  วิชาภาษาญี่ปุ่นของ EJU  จะประมาณระหว่าง N2 กับ N1   แต่มันมีวิชาอื่นๆ ที่ต้องสอบเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วย   พ่อเห็นผมอ่านแต่นิยาย ก็บอกให้ไปซื้อหนังสืออย่างอื่นมาอ่าน  ผมก็เลยไปซื้อตำราหนังสือเรียนวิชาอื่นๆ มาอ่านบ้าง   ก็ทำได้  เพราะคำศัพท์ คันจิที่ผมได้จากการอ่านนิยายมา มันก็เอามาใช้ได้

จากผลคะแนนการสอบ EJU   ท็อปได้รับทุนจาก Jasso  เป็นจำนวนเงิน  48,000 เยน ต่อเดือน  ซึ่งจะได้ทุนเมื่อท็อปสอบเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นด้วยค่ะ

* EJU = The Examination for Japanese University Admission for International Students 
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยญี่ปุ่นสำหรับนักเรียนต่างชาติ  ซึ่งมีทั้งวิชาภาษาญี่ปุ่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ) ความรู้ทั่วไป 

Q :  คุณพ่อบอกว่า วิชาอื่นๆ ของท็อปก็ดีขึ้นไปด้วย  ท็อปคิดว่าเป็นเพราะอะไรคะ 

จากที่ผมไม่เคยทำอะไรเลย เพราะคิดว่าทำไม่เป็น ทำไม่ได้  แต่พอมาเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้ว  ผมชอบ … เรียนภาษาญี่ปุ่นได้ดีขึ้น  ทำให้ผมมีความตั้งใจมากขึ้น

แล้วจากการเรียนญี่ปุ่น ทำให้ผมมีวิธีการเรียน วิธีการจำ  พอเรียนวิชาอื่นๆ มันก็ปรับใช้เหมือนๆ กันได้  แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้หมดทุกวิชานะครับ

นอกจากนั้น จากที่ผมเคยเป็นเด็กที่ป่วยง่าย  หอบ  ก็กลายเป็นว่า ผมแข็งแรงขึ้น  ออกกำลังกายมากขึ้น  ทั้งหมดเพราะ ผมแค่ชอบภาษาญี่ปุ่นน่ะครับ

Q :   คุณพ่อบอกว่าตอนหาข้อมูลมหาวิทยาลัย ท็อปได้เดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อไปงาน Open Campus ของมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นหลายแห่งด้วยตัวเองคนเดียว  เป็นยังไงบ้างคะ   

ตอนที่ไป Open Campus ที่ญี่ปุ่นคนเดียว ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากเลยครับ คือเป็นการเดินทางที่ยากก็จริง เพราะต้องเดินทางไปถึง 4 จังหวัดคือ ซากะ ฟุกุโอกะ โตเกียว ชิสุโอกะ ภายในหนึ่งอาทิตย์ แถมยังท้องเสียอีกด้วย แต่ผมก็ชอบมหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นมากครับ

รู้สึกดีใจและขอบคุณคุณพ่อมากครับ ที่ทำให้มีโอกาสและได้มีประสบการณ์ที่ล้ำค่านี้

จากเด็กชายพูนพงศ์วัย 14 เมื่อหลายปีก่อน  มาเป็นนายพูนพงศ์ที่เจ๊เจอในวันนี้
ท็อปดูเป็นหนุ่มที่มีความขี้อาย   พูดคุยแบบติดๆขัดๆ บ้าง  ไม่ใช่หนุ่มมหาวิทยาลัยวัยโจ๋ที่คล่องเปรี้ยะ

แต่แววตาที่เป็นประกาย  เมื่อพูดถึง “ญี่ปุ่น” และความชอบ “ภาษาญี่ปุ่น”  ยังคงเป็นเด็กชายพูนพงศ์คนเดิม  ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือ ความมั่นใจและความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงความฝัน นั่นคือ ” การไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นและทำงานที่เกี่ยวกับญี่ปุ่น ”

…….

อาจจะไม่ใช่ทุกคน  ที่จะโชคดี  มีโอกาสได้ไปเรียนซัมเมอร์ที่ญี่ปุ่นแบบท็อป
แต่เจ๊อยากให้ลองถามตัวเองดูว่า

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
ในวันที่โอกาสยังไม่มาถึง… เราได้พยายามสร้างมันหรือเปล่า
ในวันที่โอกาสเข้ามาถึงตัว… เราได้พยายามคว้ามันหรือเปล่า
ในวันที่ได้โอกาสมาอยูในมือ…เราได้พยายามให้เต็มที่กับมันหรือเปล่า

หมายเหตุ
ท็อปสอบผ่านและเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี
ที่ Tokai University Marine Science ที่จ.ชิซึโอกะ  เมื่อเดือนเมษายน 2017
โดยได้ทุนช่วยเหลือจาก Jasso ทุกเดือน

 

ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น

เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่นโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999  แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นทุกระดับ โดยศิษย์เก่าญี่ปุ่น ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน

สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง  ไม่มีค่าดำเนินการใดๆ

รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)

ติดต่อสอบถาม – สมัคร เรียน
โทร. 02-267-7726
email : ask@jeducation.com