ไป เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น 1 ปี คุ้มไหม จะได้อะไรกลับมาบ้าง แตกต่างกับเรียนในไทยยังไง ?
เจ๊เอ๊ดเห็นหลายคนชอบถามมาว่า ไป เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น 1 ปี จะได้อะไรกลับมาบ้าง แตกต่างกับเรียนในไทยยังไง ?
จริงอยู่ว่าการไปเรียนนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูง และปีนึงก็เป็นเวลาแค่แป๊บเดียวเท่านั้น แต่เจ๊เอ๊ดกลับมองว่า เราสามารถใช้เวลาหนึ่งปี (ที่ดูเหมือนจะสั้น) นั้นในการเก็บเกี่ยวอะไรได้เยอะมากกก ซึ่งสิ่งเหล่านั้นหาไม่ได้จากในบ้านเราแน่ๆ จะพูดไป…มันก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเหมือนกันนะคะ
เชื่อว่า 5 ข้อที่เอามาฝากนี้ น่าจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้ว สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจจะไป เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น
เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น 1 ปี อัพสกิลภาษาแบบก้าวกระโดด
แทบทุกคนที่เคยไป เรียนภาษาที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่มักจะพูดตรงกันว่า ก่อนจะไปญี่ปุ่นสอบวัดระดับภาษาได้คะแนนไม่เยอะเท่าไหร่ แต่พอไปเรียนกลับมาแล้วทำคะแนนกันได้ระดับ N2 ขึ้นไปทั้งนั้น!
สาเหตุก็เพราะว่า เวลาเรา เรียนภาษาญี่ปุ่นในประเทศไทย เราจะได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นแค่ในห้องเรียนเท่านั้น แต่พอก้าวออกจากห้องเรียนปุ๊บ เราก็กลับมาใช้ภาษาไทยเหมือนเดิม ทำให้เราพัฒนาภาษาได้ช้า
ตรงกันข้ามกับตอนไป เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น พอเราเอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีใครพูดกับเราเป็นภาษาไทยเลย สถานการณ์จะบังคับให้เราพูดภาษาญีปุ่นเอง การที่เราได้ฟังและได้พูดบ่อยๆ ก็จะทำให้เราเก่งภาษามากขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเลยละค่ะ
นอกจากนี้ใครที่ไป เรียนภาษาที่ญี่ปุ่นระยะยาว 1 ปี ขึ้นไป แล้วต้องการจะทำงานพิเศษไปด้วย ก็สามารถทำได้ค่ะ แต่ก็จำเป็นต้องฝึกภาษาให้เก่งไวๆ เพราะงานส่วนใหญ่ต้องใช้การสื่อสารเยอะ ถ้าภาษาเราไม่คล่อง ก็เท่ากับว่าโอกาสในการหางานพิเศษมีน้อยตามไปด้วย
นี่เลยเป็นเหตุผลว่า ทำไมนักเรียนไทยที่ไป เรียนภาษา ที่ญี่ปุ่น ถึงพัฒนาทักษะภาษาญี่ปุ่นได้ก้าวกระโดดว่าตอนเรียนอยู่ที่ไทยนั่นเองค่ะ
เรียนภาษา ที่ญี่ปุ่น เบิกทางสู่สาขาวิชาในฝัน
เชื่อว่าหลายคนคงมีความฝันที่จะเรียนต่อหรือทำงานในสาขาอาชีพที่ตัวเองถนัดหรือชื่นชอบกันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะคะ…และเจ๊เอ๊ดก็เชื่อว่า หลายๆ สาขาที่เรากำลังเล็งไว้ ก็มีหลักสูตรให้เรียนในประเทศญี่ปุ่นด้วย au casinos online
นี่เลยเป็นเหตุผลที่หลายๆ คนเลือกไปเรียนภาษาที่ประเทศญี่ปุ่นก่อน เพื่ออัพสกิลภาษาของตัวเองให้แข็งแรง จากนั้นก็ใช้ภาษามาเป็นใบเบิกทางในการสอบเข้าเรียนต่อในสาขาวิชาในฝัน บางคนอาจเลือกเรียนต่อในวิทยาลัยอาชีวศึกษา หลักสูตรวิชาชีพเฉพาะทาง ที่เปิดสอนกันแบบเจาะลึกเพื่อปั้นนักเรียนให้เป็นมืออาชีพในด้านนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นมังงะ เกม เบเกอรี่ อาหาร หรือแฟชั่น ส่วนบางคนอาจเล็งไว้ว่า อยากจะสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นระดับปริญญาตรี โท และเอก
เจ๊เอ๊ดบอกได้ตรงนี้เลยค่ะว่า ยิ่งทักษะภาษาเราแน่นมากแค่ไหน ตัวเลือกในการเรียนต่อของเรายิ่งมีมากขึ้นเท่านั้นค่ะ
เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น เพิ่มโอกาสในการเจองานที่ใช่ (ในญี่ปุ่น)
ทุกวันนี้ที่ญี่ปุ่นเปิดกว้างมากขึ้น หลายบริษัทอ้าแขนต้อนรับนักเรียนต่างชาติที่เรียนจบจากญี่ปุ่นให้เข้าทำงานในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทญี่ปุ่นที่มีสาขาหรือสำนักงานในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็กหรือใหญ่ หลายแห่งยินดีต้อนรับนักเรียนไทยให้เข้าไปทำงานในบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น 2-3 ปี ก่อนจะกลับมาทำงานที่สำนักงานในไทย
ไม่ใช่แค่บริษัทเอกชนเท่านั้นนะคะ ร้านค้าและงานด้านบริการ อย่างโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็เหมือนกันค่ะ สาเหตุที่เขาเปิดรับนักเรียนไทยที่เรียนจบจากญี่ปุ่น ก็เพราะเด็กไทยส่วนใหญ่สามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาไทย อังกฤษและญี่ปุ่น สามารถต้อนรับลูกค้าได้หลากหลายชาติ (รวมถึงลูกค้าคนไทยด้วยเหมือนกันนะคะ เพราะนักท่องเที่ยวไทยไปญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นทุกปี)
และสิ่งที่สำคัญคือการไปเรียนที่ญี่ปุ่นยังทำให้เราได้คอนเน็คชั่นดีๆ จากรุ่นพี่นักเรียนไทย ที่มักจะหาโอกาสในการทำงานดีๆ มาให้รุ่นน้องอีกด้วย
เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น อัพเงินเดือนให้พุ่งปรี๊ด
คนรุ่นใหม่สมัยนี้ เก่งภาษาไทยและภาษาอังกฤษอย่างเดียวไม่พอต่อการอัพเงินเดือนแล้วค่ะ ยุคนี้ต้องมีภาษาที่ 3 หรือ 4 เพิ่มเติมด้วย!
ในประเทศไทยมีบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งที่กำลังมองหาบุคลากรคนไทยที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นเข้าไปทำงาน ซึ่งแต่ละที่นั้นบอกได้เลยค่ะว่าเงินเดือนไม่ใช่น้อยๆ โดยอาชีพที่ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นพนักงานด้านธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม เจ้าหน้าที่สายการบิน เจ้าหน้าที่วิเทศสัมพันธ์ อาจารย์ เลขานุการ ล่าม ฯลฯ
ถ้าเรามีความรู้ภาษาญี่ปุ่นแน่น แถมยังเข้าใจระเบียบวินัย วัฒนธรรมและวิธีการทำงานแบบคนญี่ปุ่นด้วยแล้ว บอกเลยว่ายิ่งได้เปรียบและเป็นที่ต้องการมากเป็นพิเศษแน่นอนค่ะ
เรียนภาษา ที่ญี่ปุ่น เปิดโลกใบใหม่ให้ตัวเอง
นอกจากการไปเรียนที่ญี่ปุ่นจะทำให้ภาษาของเราแข็งแรงขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือเรายังได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ชีวิตอีกด้วย
เราจะได้ไปเยือนสถานที่แปลกใหม่ที่อาจค้นไม่พบในหนังสือแนะนำสถานที่ท่องท่องเที่ยว ไปสัมผัสกับเทคโนโลยีล้ำสมัยที่บ้านเรายังไม่มี ไปชื่นชมความคิดสร้างสรรค์ที่เราเองก็ยังคาดไม่ถึง ไปทำความรู้จักศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และน่าค้นหา ฯลฯ ประสบการณ์เหล่านี้ต่อให้ฟังคนพูดต่อๆ กันมาหรืออ่านเจอจากที่ไหนก็ไม่เท่ากับไปสัมผัสด้วยตัวเองอย่างแน่นอนค่ะ
งัดเอาความกล้าออกมา แล้วลองออกไปเผชิญกับโลกที่ไม่คุ้นเคยข้างนอกดูค่ะ เชื่อเถอะว่า เราจะเติบโตและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และสำหรับใครที่ยังจับทิศทางของชีวิตตัวเองไม่ได้ เจ๊เอ๊ดเชื่อว่า ประสบการณ์ที่เราจะไปเจอข้างหน้า อาจช่วยให้เราได้เรียนรู้และกลับมาทำความเข้าใจตัวเองให้ดีขึ้นมากกว่าเดิมก็ได้นะคะ
> ทำไมถึงสมัครไปเรียนต่อญี่ปุ่นกับ Jeducation
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999 ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง ไม่คิดค่าดำเนินการใดๆ
รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)
ติดต่อสอบถาม-ปรึกษาเรื่องเรียนต่อญี่ปุ่น
โทร. 02-267-7726
email : ask@jeducation.com
ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับเจ้าหน้าที่ คลิกเลย >> https://bit.ly/jed-line