Table of Contents
นักเรียนต่างชาติกับการ ทำงานพิเศษ ที่ญี่ปุ่น
การ ทำงานพิเศษ ที่ญี่ปุ่น เรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า アルバイト อารุไบโตะ หรือเรียกสั้นๆ ลงไปอีกว่า ทำไบต์ เป็นเรื่องที่หลายๆคนสงสัยว่าที่ญี่ปุ่น สามารถทำงานพิเศษระหว่างเรียนได้ไหม คำตอบคือ นักเรียนต่างชาติที่ถือวีซ่า “นักเรียน ” ในญี่ปุ่นสามารถทำงานพิเศษได้ แต่ตามกฎหมายคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นนั้น การทำงานพิเศษ ถือเป็นกิจกรรมที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของสถานภาพนักเรียน ดังนั้น
ถ้านักเรียนต่างชาติจะสามารถทำงานพิเศษ จะต้องยื่นใบคำร้องขออนุญาตทำงานพิเศษ ต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก่อน เพื่อขอทำกิจกรรมนอกเหนือจากสถานภาพที่ตนถืออยู่ ( Permission to engage in an activity other than those permitted by the status of residence previously granted )
เงื่อนไขในการ ทำงานพิเศษ ที่ญี่ปุ่น ของนักเรียนต่างชาติ
ญี่ปุ่นไม่มีโครงการ Work & Travel สำหรับนักเรียนไทย
เงื่อนไขในการทำงานพิเศษที่ญี่ปุ่นของนักเรียนต่างชาตินั้น ต้องอยู่ภายในขอบเขตต่อไปนี้
- อายุ 18 ปีขึ้นไป
- ถือวีซ่านักเรียน ( Student Visa )
- ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน หากขาดเรียนเพื่อมาทำงานพิเศษ จะไม่สามารถต่อวีซ่าได้
- มีจุดประสงค์ในการหารายได้มาช่วยเสริมค่าใช้จ่ายทางการศึกษา หรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่น ๆ ในระหว่างศึกษาอยู่ในญี่ปุ่น
- ต้องไม่เป็นงานที่ผิดกฎหมายหรือศีลธรรม ประเพณีที่ดีงาม
- จำนวนชั่วโมงที่สามารถทำได้คือ ไม่เกิน 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
หากนักเรียนทำงานพิเศษโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตก่อน ถือว่าผิดกฎหมาย
เนื่องจากดำเนินกิจกรรมนอกเหนือขอบเขตของสถานภาพการอยู่อาศัย อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ เพราะฉะนั้น จึงควรทำเรื่องขออนุญาตให้เรียบร้อยเสียก่อน
นักเรียนระยะสั้น ที่ไม่ใช่วีซ่านักเรียน ไม่สามารถทำงานพิเศษได้
ประเภทของงานพิเศษ
งานพิเศษ ที่ญี่ปุ่น ที่นักเรียนต่างชาติทำได้มีหลากหลาย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นของนักเรียน (รวมถึงความกล้าที่จะเข้าไปสมัคร) ได้แก่ พนักงานเสริฟในร้าน อาหารไทย ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารชาติอื่นๆ ร้านฟาสต์ฟูด ร้านขายขนมปัง ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายดอกไม้ ที่ทำการไปรษณีย์ โรงงาน ฯลฯ หากทักษะภาษาญี่ปุ่นดีมาก อาจเป็นครูสอนภาษาไทยให้กับชาวญี่ปุ่น ซึ่งค่าตอบแทนจะค่อนข้างสูงกว่างานอื่น ๆ
แต่มีข้อห้ามไม่อนุญาตให้นักศึกษาทำงานพิเศษในสถานบันเทิง เช่น ไนท์คลับ , บาร์ , บ่อนการพนัน ซึ่งในสถานที่เหล่านี้ แม้แต่จะทำงานประเภททำความสะอาดหรือล้างจานก็ไม่สามารถทำได้
ระวังเรื่องการรับสมัครเรียนต่อญี่ปุ่นโดยการให้ทุนการศึกษาด้วยการการทำงานพิเศษใช้ทุน
ควรศึกษาเรื่องประเภทของงานที่จะให้ทำอย่างละเอียด เนื่องจากไปแล้วจะไม่สามารถย้ายโรงเรียนหรือยกเลิกได้
ขวัญ กับการทำงานที่ร้าน 7 Eleven
ขวัญ อิศรา อุดมพาณิชย์ นักแปลการ์ตูน One Piece ชื่อดัง ใช้เวลาระหว่างเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ CBC ( College of Business and Communication ) ด้วยการทำงานพิเศษที่ร้าน 7Eleven ซึ่งทำให้ได้ประสบการณ์การทำงานกับคนญี่ปุ่นจริงๆ
อ่านบทสัมภาษณ์ขวัญเพิ่มเติมคลิกที่ภาพเลยค่ะ
รณ กับงานพิเศษที่โรงงานทำขนม
รณ นักเรียน Jcenter ใช้เวลาระหว่างไปเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ Fukuoka ด้วยการสมัครเข้าทำงานพิเศษที่ โรงงานทำขนม
เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ บวกกับการค้นคว้าและทุ่มเท เอาใจใส่ ร่วมกับพี่ชาย เกิดเป็น PHOENIX LAVA ซาลาเปาลาวาชื่อดัง ที่ขยายสาขาทั้งไทยและต่างประเทศ
คลิกที่ภาพ เพื่อรู้จักที่มาของ PHOENIX LAVA
ออย กับงานสอนภาษาไทยให้คนญี่ปุ่น
ระหว่างที่เรียนภาษาญี่ปุ่นที่ ร.ร. Yono Gakuin Japanese Language School ที่เมืองไซตะมะ ออยใช้เวลาว่าง ด้วยการทำงานพิเศษที่ร้านอาหารไทย และสอนภาษาไทยให้คนญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ได้ทั้งเพื่อนคนญี่ปุ่น และเข้าใจคนญี่ปุ่นมากขึ้น
ค่าจ้างที่ได้รับจากการ ทำงานพิเศษ ที่ญี่ปุ่น
โดยทั่วไปแล้ว จะได้ค่าจ้างเป็นชั่วโมง อยู่ที่ประมาณ 800-1,000 เยนต่อชั่วโมง ( 200-300 บาทต่อชั่วโมง ) แล้วแต่ลักษณะของงานและเมืองที่อยู่ ผู้ว่าจ้างบางแห่งอาจจะเพิ่มค่าเดินทางให้ด้วย หากทำร้านอาหาร บางร้านจะให้ทานอาหารฟรี บางร้านให้ทานอาหารในราคาพิเศษ
งานที่ใช้ทักษะภาษาญี่ปุ่นสูง ค่าจ้างก็จะสูงขึ้นไปด้วย เช่น งานสอนภาษาไทย , งานล่าม , งานพนักงานขาย
ค่าแรงจากงานพิเศษ อาจช่วยแบ่งเบาค่าครองชีพได้บางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด อย่าคาดหวังว่าจะอยู่ในญี่ปุ่นได้สบายๆ โดยหวังพึ่งเงินจากงานพิเศษเป็นหลัก
การขออนุญาต ทำงานพิเศษ ที่ญี่ปุ่น
ในปัจจุบัน สามารถยื่นขออนุญาตทำงานพิเศษได้ไม่ยาก โดยยื่นเอกสารได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน ในวันที่เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้เลย ที่ สนามบินนาริตะ ฮาเนดะ คันไซ จูบุ ฮิโรชิมะ ชิโตเสะ (ฮอกไกโด) ฟุกุโอกะ
ทางเจ้าหน้าที่จะประทับตราอนุญาตให้ทำงานพิเศษได้ ที่ด้านหลังบัตรประจำตัวคนต่างชาติ (ไซริวการ์ด )
สำหรับนักเรียนที่เข้าประเทศญี่ปุ่นที่สนามบินอื่นนอกเหนือจากนี้ สามารถยื่นขออนุญาตทำงานพิเศษที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ที่อยู่ หลังจากที่ได้บัตรประจำตัวแล้ว
จะหางานพิเศษอย่างไร
การหางานพิเศษไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้ที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นแล้ว เพราะสามารถหาได้จากป้ายประกาศหรือเว็บไซท์ อีกทั้งในการไปสมัครงานหรือสัมภาษณ์งาน โดยมากแล้วจำเป็นที่จะต้องใช้ภาษาญี่ปุ่น
การหางานพิเศษสามารถดูได้จาก
- ดูจากป้ายประกาศตามหน้าร้านที่เปิดรับสมัคร ซึ่งจะมีปิดประกาศอยู่ทั่วไป
- ขอคำแนะนำจากรุ่นพี่ คนรู้จัก
- ดูป้ายประกาศหรือติดต่อสอบถามจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษา
- ดูข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารแนะนำงาน ซึ่งจะมีวางไว้ตามท้องถนน หรือตามสถานีรถไฟ และสามารถหยิบฟรี เช่น Townwork และ DOMO นิตยสารเหล่านี้จะแตกต่างไปในแต่ละเขต
ปัจจุบัน การหางานพิเศษทางเว็บไซต์ หรือแอปลิเคชั่น เป็นช่องทางที่สะดวกสบายมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถค้นหางาน โดยระบุรัศมีในระยะที่ไม่ไกลจากที่พักหรือโรงเรียนได้อีกด้วย
หาได้ในเว็บไซต์ของร้านค้าต่างๆที่สนใจโดยตรง หรือจากเว็บหางาน ซึ่งหากเป็นเว็บภาษาญี่ปุ่น ควรเซิร์ซคำว่า 外国人 アルバイト ด้วย จะช่วยให้หางานที่รับคนต่างชาติได้ง่ายขึ้น
เว็บไซต์หรือแอปส่วนใหญ่จะอธิบายลักษณะของงานและให้ลงทะเบียนสมัครงานออนไลน์ หลังจากลงทะเบียนแล้ว ทางร้านจะโทรศัพท์ติดต่อกลับมาเพื่อสัมภาษณ์คร่าวๆและนัดสัมภาษณ์ที่ร้านอีกทีหนึ่ง
ตัวอย่างเว็บหางานพิเศษ
การหางานพิเศษไม่ใช่เรื่องยาก แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยเวลา ความพยายามและไม่ท้อถอย ที่สำคัญคือ ” ความสามารถในการใช้ภาษาญี่ปุ่น”
การเตรียมตัวโทรศัพท์เพื่อสอบถามงาน
เนื่องจากการสมัครงานพิเศษที่ญี่ปุ่นไม่นิยมระบบ Walk-in ฉะนั้นจะต้องโทรศัพท์ติดต่อ หรือกรณีที่ลงทะเบียนไปทางเว็บไซท์ ทางร้านค้าจะเป็นฝ่ายติดต่อมา แน่นอน การโทรศัพท์ติดต่อร้านค้าเพื่อสมัครงานนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักเรียนต่างชาติ เนื่องจากต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสื่อสาร ฉะนั้นก่อนโทรศัพท์ควรเตรียมตัวดังนี้
- ให้อ่านเงื่อนไขต่างๆให้ละเอียดและคิดคำถามที่จะสอบถาม เช่น รายละเอียดของงาน เวลาทำงาน ค่าจ้าง เอกสารที่ใช้ในการสมัคร เป็นต้น
- หากเป็นฝ่ายโทรไป ให้เลือกเวลาที่เหมาะสมเช่น ถ้าเป็นร้านอาหาร ไม่ควรโทรตอนร้านปิด หรือช่วงเที่ยงหรือเย็นซึ่งเป็นเวลาที่ลูกค้ามาเยอะ เป็นต้น
- ระหว่างการคุยโทรศัพท์ ควรพูดเสียงดังชัดเจน และฟังเจ้าหน้าที่ให้ดี นอกจากจะตอบคำถามของเจ้าหน้าที่แล้ว ควรสอบถามคำถามต่างๆที่เตรียมไว้ และเจ้าหน้าที่จะนัดสัมภาษณ์ สุดท้ายก่อนวางสายควรจะทวนข้อมูลวัน เวลา สถานที่สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่อีกรอบ เพื่อกันผิดพลาด
การเตรียมตัวสัมภาษณ์
- ก่อนไปสัมภาษณ์ควรตรวจสอบสิ่งที่เอาไปให้ดี เช่น เอกสาร ปากกา แผนที่ หมายเลขโทรศัพท์ ชื่อและแผนกที่จะติดต่อ
- การแต่งกาย นอกจากสูทแล้วก็ยังสามารถแต่งชุดสุภาพ ให้เข้ากับกาลเทศะเช่น ควรเน้นเรื่องความสะอาด ไม่ใส่เครื่องประดับเกินควร
- ห้ามไปสาย ก่อนออกเดินทางควรตรวจสอบวิธีการเดินทางให้ดี ไปถึงก่อนเวลา 5-10 นาที หากรู้ตัวว่าจะไปสายต้องโทรศัพท์แจ้งทันที
การสัมภาษณ์งาน
- ก่อนเข้าสัมภาษณ์ควรปิดโทรศัพท์มือถือ ตรวจดูเครื่องแต่งกายอีกครั้ง
- ควรจะเป็นฝ่ายทักทาย และแนะนำตัวก่อนเสมอ พูดด้วยภาษาสุภาพ
- การสัมภาษณ์ในงานพิเศษจะเน้นการสนทนาโต้ตอบเป็นหลัก ฉะนั้นฟังคำถามเจ้าหน้าที่ให้ดีแล้วตอบ ไม่ควรพูดอยู่ฝ่ายเดียว และไม่ตอบแค่ ”ใช่” หรือ ”ไม่ใช่” แต่ทางเราก็ควรถามกลับในสิ่งที่สงสัย
- สุดท้ายควรกล่าว ”ขอบคุณ” และออกจากห้อง หรืออาคารอย่างสุภาพ
- ผลการสัมภาษณ์ส่วนใหญ่จะติดต่อกลับทางโทรศัพท์ภายใน 3-5 วัน หรือบางที่จะประกาศผลการสัมภาษณ์ทันที
หลังจากที่เราได้งานพิเศษแล้ว ก็ยังคงต้องระวังในเรื่องเหล่านี้
- ห้ามไปสาย ในแต่ละที่จะมีธรรมเนียมแตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะต้องถึงก่อนประมาณ 10-15 นาที เพื่อเตรียมตัว
- ทักทายกับเพื่อนร่วมงานก่อนเริ่มงาน และกล่าวลาตอนเลิกงานให้เสียงดังฟังชัด
- หากเวลาลูกค้าและหัวหน้าตำหนิ ต้องขอโทษเท่านั้น ห้ามเถียงหรือหาข้ออ้างแก้ตัว
- ไม่ควรทำงานมากเกินไปจนกระทบเวลาเรียนและเวลาพักผ่อน เพราะจุดประสงค์ที่ไปญี่ปุ่นคือเพื่อการศึกษา ไม่ใช่ไปทำงาน
- หากมีเหตุฉุกเฉินไม่สามารถมาทำงานตามเวลาที่ลงไป ต้องโทรศัพท์แจ้งไปที่ร้านทันทีเพื่อให้คนอื่นมาสลับเวลา
นอกจากนี้ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงานพิเศษ หรือเดินทางมาทำงานพิเศษนั้น นักศึกษาจะได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายเช่นเดียวกับคนญี่ปุ่น
อ่านเรื่องเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานพิเศษในญี่ปุ่น