midashihi

การศึกษาระดับสูงในญี่ปุ่นนั้นเริ่มต้นหลังจากผ่านการศึกษาในระดับโรงเรียนมาแล้ว 12 ปี คือจบมัธยมศึกษาตอนปลาย ดังนั้นนักศึกษาไทยที่ประสงค์จะศึกษาต่อระดับสูงในประเทศญี่ปุ่น จะต้องสำเร็จการศึกษาอย่างน้อย 12 ปีในประเทศเสียก่อน ( จบม.6 ) ซึ่งสถาบันที่นักศึกษาสามารถเข้าศึกษาต่อได้นั้น แบ่งประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

มหาวิทยาลัย

midashiu

นักศึกษาภาคปกติ โดยทั่วไปจะใช้เวลาในการศึกษา 4 ปี ยกเว้นคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และสัตวแพทยศาสตร์ จะใช้เวลาศึกษาทั้งสิ้นรวม 6 ปี

นักศึกษาเวลาพิเศษประเภทไม่รับหน่วยกิต ( Auditors ) สามารถเลือกเรียนวิชาต่างๆ ได้ แต่คุณสมบัติของนักศึกษาและวิชาที่เปิดให้เข้าเรียน จะแตกต่างไปตามแต่ละมหาวิทยาลัย นักศึกษาประเภทนี้จะไม่ได้รับหน่วยกิต

นักศึกษาเวลาพิเศษประเภทได้รับหน่วยกิต รายละเอียดเช่นเดียวกับนักศึกษาเวลาพิเศษประเภทแรก แต่นักศึกษาประเภทนี้จะได้รับหน่วยกิต

มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ

1. มหาวิทยาลัยรัฐบาล
คือมหาวิทยาลัยที่จัดตั้งโดยรัฐบาลกลางของญี่ปุ่น กระจายอยู่ทั่วประเทศทั้งหมด 87 แห่ง (ข้อมูลปี 2549) ในแต่ละจังหวัดจะมีมหาวิทยาลัยของรัฐบาล 1 แห่งเป็นอย่างต่ำ

2. มหาวิทยาลัยท้องถิ่น
คือมหาวิทยาลัยที่จัดตั้งโดยองค์กรปกครองตนเองส่วนท้องถิ่น มีอยู่ทั้งสิ้น 86 แห่งทั่วประเทศ

3. มหาวิทยาลัยเอกชน
คือมหาวิทยาลัยที่จัดตั้งโดยเอกชน มีอยู่ทั้งสิ้น 408 แห่งทั่วประเทศ ซึ่ง 40% ของมหาวิทยาลัยเอกชนอยู่ในกรุงโตเกียว
แม้ว่าจะแบ่งมหาวิทยาลัยออกเป็น 3 ประเภทตามองค์กรที่จัดตั้งก็ตาม แต่ทั้ง 3 ประเภทก็ถูกจัดตั้งขึ้นด้วยมาตรฐานเดียวกัน คุณภาพทางการศึกษาในระดับเดียวกัน ต่างกันที่ค่าใช้จ่ายของเอกชนจะแพงกว่าของรัฐบาลและท้องถิ่น
และถึงแม้ว่านักศึกษาส่วนใหญ่ ต่างก็มุ่งที่จะเรียนในโตเกียวก็ตาม แต่ในพื้นที่อื่น ๆ ของญี่ปุ่นก็มีข้อได้เปรียบอื่น ๆ หลายอย่าง เช่นในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า จำนวนนักศึกษาต่อห้องที่น้อยกว่าทำให้อาจารย์ดูแลได้ทั่วถึง มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับสังคมท้องถิ่นง่ายกว่าการอยู่ในเมืองใหญ่ที่สับสนวุ่นวาย เป็นต้น

ระยะเวลาการศึกษาของหลักสูตรปริญญาตรีโดยปรกติคือ 4 ปี ยกเว้นคณะแพทยศาสตร์ , ทันตแพทยศาสตร์ และสัตวแพทยศาสตร์ ซึ่งจะต้องใช้เวลา 6 ปี

 

เงื่อนไขในการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย ( ระดับปริญญาตรี )

การเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น จำเป็นต้องเป็นไปตามเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่ง ดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตร 12 ปี ( ตั้งแต่ป.1 – ม.6 )

2. กรณีที่สำเร็จการศึกษาในเวลา 10 ปีหรือ 11 ปี จะต้องเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาใน ” หลักสูตรเตรียมเข้าศึกษาต่อ ” จากสถาบันที่ได้รับการรับรองโดยกระทรวงการศึกษา วัฒนธรรม การกีฬาและวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และต้องเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

3. เป็นผู้ที่สอบผ่านการสอบที่ได้รับการรับรองจากแต่ละประเทศว่าเทียบเท่า ” การสอบอนุมัติสำเร็จหลักสูตรการศึกษา จากสถานศึกษาระดับสูง ” ของญี่ปุ่น

4. เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความรู้ความสามารถเทียบเท่า หรือมากกว่าผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย

ก. เป็นผู้ที่สอบผ่านหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายนานาชาติ ( International Baccalaureate ) หรือสอบผ่านหลักสูตร Abitur ของประเทศเยอรมัน และมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

ข. ผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตร 12 ปี จากสถานศึกษาสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การประเมินการศึกษานานาชาติ ( WASC , ACSI , ECIS ) และมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

5. เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความรู้ความสามารถเทียบเท่าหรือมากกว่าผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ขึ้นอยู่กับการพิจารณาคุณสมบัติให้เข้าศึกษาเป็นราย ๆ ไป จากมหาวิทยาลัย และมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

วิธีการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น

1. ได้รับการตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยก่อนที่จะเดินทางไปญี่ปุ่น กล่าวคือทางมหาวิทยาลัยรับนักศึกษาเข้าศึกษาโดยพิจารณาจาก ใบสมัครและเอกสารการสมัครที่นักศึกษาส่งไปจากเมืองไทย แต่มีมหาวิทยาลัยเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น (ประมาณ 20 แห่ง ) ที่รับนักศึกษาเข้าศึกษาต่อโดยการคัดเลือกจากเอกสารเพียงอย่างเดียวเช่นนี้

2. เดินทางไปสอบคัดเลือกในประเทศญี่ปุ่นโดยวีซ่าระยะสั้น (15 – 90วัน) หากสอบผ่านก็สามารถเปลี่ยนประเภทวีซ่าได้โดยไม่ต้องเดินทางกลับประเทศ แต่วิธีนี้ต้องวางแผนการให้ดี เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยมีการจัดสอบไม่ตรงกัน คือสำหรับการเปิดภาคเรียนในเดือนเมษายน การสอบเข้าจะอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน – มีนาคม

3. เข้าศึกษาในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นระยะหนึ่งก่อน หลังจากนั้นค่อยสมัครเข้าเรียนและดำเนินการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย วิธีนี้เป็นวิธีที่นักศึกษาต่างชาติส่วนใหญ่ใช้มากที่สุด โดยเฉพาะคนที่พื้นฐานภาษาญี่ปุ่นยังไม่ดีนัก แต่อย่างไรก็ตาม การศึกษาภาษาญี่ปุ่นภายในประเทศไทยให้ดีก่อน ก็จะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการไปศึกษาที่ญี่ปุ่นได้มากขึ้น

การสอบเข้ามหาวิทยาลัย

นักศึกษาต่างชาติที่มีความประสงค์จะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น จะต้องผ่านการสอบคัดเลือกดังต่อไปนี้

1. การสอบคัดเลือกของมหาวิทยาลัย ในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยจำนวนมากที่จัดให้มีกระบวนการสอบคัดเลือกพิเศษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ แต่อย่างไรก็ตามผู้สมัครต้องไปสอบที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรายละเอียดของวิชาที่สอบ วันสอบและวิธีการคัดเลือกจะแตกต่างกันไปตามแต่ละมหาวิทยาลัย

2. การสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดผลและรับรองความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นของนักศึกษาต่างชาติ ระดับ 1 อันเป็นระดับสูงสุดของการสอบนี้ ( ระดับผ่านการศึกษาภาษาญี่ปุ่นมาประมาณ 900 ชั่วโมง ) ใช้เป็นเกณฑ์วัดความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นของนักศึกษาต่างชาติที่สมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย และวิทยาลัยในญี่ปุ่น ระยะหลัง มหาวิทยาลัยบางแห่งก็ใช้เพียงระดับ 2 เท่านั้น การสอบนี้ (ระดับ1) มีการนำไปใช้ประมาณ 91% สำหรับมหาวิทยาลัยของรัฐ 65% สำหรับมหาวิทยาลัยท้องถิ่น และ 60% สำหรับมหาวิทยาลัยเอกชน อย่างไรก็ตาม เกณฑ์การนำผลการสอบนี้ ไปประกอบการพิจารณานั้นแตกต่างกันไปตามมหาวิทยาลัย

อนึ่ง การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น เพื่อที่จะใช้เป็นเอกสารในการตัดสินเพื่อการเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัย จะใช้ผลการตัดสินของปี 2544 เป็นปีสุดท้าย ตั้งแต่ปี 2545 จะจัดให้มีการสอบเพื่อศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น ( E.J.U ) ซึ่งข้อสอบใหม่นี้จะมีข้อสอบวิชาภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติมขึ้นมา

3. การสอบเพื่อศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น ( EJU ) การสอบระบบใหม่ที่เริ่มใช้ครั้งแรกในปี 2545 เป็นการจัดสอบสำหรับนักศึกษาต่างชาติทุนส่วนตัวที่ประสงค์จะเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น ( ระดับปริญญาตรี ) เพื่อวัดความสามารถทางการศึกษาและความสามารถในด้านภาษาญี่ปุ่น โดยจะใช้ผลการสอบนี้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณารับนักศึกษาเพื่อเข้าศึกษาต่อ รายละเอียดเพิ่มเติม

4. การสอบโดยศูนย์การสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติ นักศึกษาญี่ปุ่นที่ต้องการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของรัฐบาลหรือท้องถิ่น จำเป็นต้องผ่านการสอบ ของศูนย์การสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติ มหาวิทยาลัยส่วนมากยกเว้นการสอบนี้ สำหรับนักศึกษาต่างชาติ แต่ทว่าในบางคณะของสถาบันบางแห่งยังคงกำหนดให้นักศึกษาต่างชาติ ต้องผ่านการสอบนี้อยู่ โดยเฉพาะคณะแพทยศาสตร์

5. วิธีการอื่น ๆ ในการคัดเลือกนักศึกษาต่างชาติ วิธีการอื่น ๆ ที่มหาวิทยาลัยใช้ในการคัดเลือกนักศึกษาต่างชาติ มีทั้งการตรวจสอบเอกสาร การสอบวัดความสามารถที่มหาวิทยาลัยนั้น ๆ จัดขึ้นโดยเฉพาะ การสอบสัมภาษณ์ บทความสั้น เรียงความ การสอบวัดความสามารถ และความถนัดอื่น ๆ ซึ่งมีวิธีการแตกต่างกันไป ตามคณะของแต่ละมหาวิทยาลัย

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในปีแรก ( รวมค่าธรรมเนียมในการสมัคร ค่าเล่าเรียน ค่าอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ด้วย ) สำหรับในชั้นปีที่สอง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะลดลงเหลือประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะค่าแรกเข้านั้นเสียเฉพาะในปีแรกเท่านั้น

รัฐบาล ( ทุกสาขา ) 834,800 เยน 317,414 บาท
ท้องถิ่น 948,994 เยน 360,834 บาท
เอกชน

ทันตแพทยศาสตร์ 5,005,321 เยน 1,903,163 บาท
แพทยศาสตร์ 5,097,969 เยน 1,938,391 บาท
เภสัชศาสตร์ 2,244,978 เยน   853,603 บาท
ศิลปกรรมศาสตร์ 1,794,517 เยน   682,325 บาท
สุขศึกษา 1,481,279 เยน   563,223 บาท
วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ 1,399,511 เยน   532,133 บาท
เกษตรศาสตร์และสัตวแพทย์ศาสตร์ 1,401,161 เยน   532,760 บาท
พลศึกษา 1,321,571 เยน   502,498 บาท
คหกรรมศาสตร์ 1,205,926 เยน   458,526 บาท
อักษรศาสตร์และศึกษาศาสตร์ 1,184,540 เยน   450,395 บาท
เศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์ และพาณิชยศาสตร์ 1,119,698 เยน   425,740 บาท
ศาสนศาสตร์ 1,109,688 เยน   421,934 บาท
สังคมสงเคราะห์ศาสตร์ 1,159,410 เยน   440,840 บาท
สาขาอื่น ๆ 1,445,245 เยน   549,522 บาท
ภาษาญี่ปุ่น   663,921 เยน   252,441 บาท

 

เงื่อนไขสำหรับการสำเร็จการศึกษา
มหาวิทยาลัยส่วนมากกำหนดจำนวนหน่วยกิตไว้อย่างน้อย 124 หน่วยกิต (ยกเว้นคณะแพทย์ศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ จะต้องได้หน่วยกิตอย่างน้อย 188 หน่วยกิต ส่วนคณะสัตวแพทยศาสตร์ต้องได้หน่วยกิต อย่างน้อย 182 หน่วยกิต ) หลังจากสำเร็จการศึกษา นักศึกษาจะได้รับ ” ปริญญาตรี ” ( Gakushi )

 

Link ข้อมูลเพิ่มเติม
Asian University Ranking

บัณฑิตวิทยาลัย

midashig

คุณสมบัติของนักศึกษาต่างชาติที่จะเข้าศึกษาในบัณฑิตวิทยาลัย

  1. หลักสูตรระดับปริญญาโท
    ผู้ที่จบปริญญาตรี ( หลักสูตร 4 ปี ) หรือผู้ที่ได้รับการรับรองว่ามีความรู้ความสามารถเทียบเท่า หรือสูงกว่า ปริญญาตรี หรือเป็นผู้ที่จบการศึกษาจากโรงเรียนกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศเป็นเวลา 16 ปี สำหรับผู้ที่จบการศึกษาในต่างประเทศเป็นเวลา 15 ปี ต้องเป็นผู้ที่บัณฑิตวิทยาลัยรับรองว่า มีผลการเรียนดีเยี่ยม หรือผู้ที่ได้รับการตรวจสอบคุณสมบัติการเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทเป็นราย ๆ ไปจากบัณฑิตวิทยาลัยว่ามีความรู้ความสามารถเทียบเท่าหรือสูงกว่า และรวมไปถึงผู้ที่มีอายุถึง 22 ปีด้วย
  2. หลักสูตรระดับปริญญาเอก
    ต้องมีวุฒิปริญญาโทหรือผู้ที่ได้รับการรับรองว่ามีความรู้ความสามารถเทียบเท่าหรือสูงกว่าปริญญาโท ผู้ที่ได้รับปริญญาโทจากบัณฑิตวิทยาลัยในต่างประเทศ หรือผู้ที่ได้รับการตรวจสอบคุณสมบัติ การเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกเป็นราย ๆ ไปจากบัณฑิตวิทยาลัยว่า มีความรู้ความสามารถเทียบเท่าหรือสูงกว่า และรวมไปถึงผู้ที่มีอายุถึง 24 ปีด้วยสำหรับหลักสูตรปริญญาเอกของคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์และสัตวแพทยศาสตร์ ต้องเรียนในมหาวิทยาลัย 4 ปีขึ้นไป ต้องเป็นผู้ที่บัณฑิตวิทยาลัยรับรองว่ามีผลการเรียนดีเยี่ยม และยังรวมไปถึงผู้ที่จบการศึกษาในต่างประเทศเป็นเวลา 16 ปี และเป็นผู้ที่บัณฑิตวิทยาลัยรับรองว่า มีผลการเรียนที่ดีเยี่ยม
  3. นักศึกษาวิจัย
    ผู้ที่เป็นนักศึกษาวิจัยประเภทนี้จะต้องมีคุณสมบัติ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโทขึ้นไป ชื่อและวิธีการของระบบจะแตกต่างกันไปตามแต่ละมหาวิทยาลัย

การสอบคัดเลือกเข้าบัณฑิตวิทยาลัย

  1. นักศึกษาภาคปกติ
    การที่จะเข้าศึกษาในหลักสูตรปริญญาโทหรือปริญญาเอกภาคปกติของบัณฑิตวิทยาลัยนั้น นักศึกษาต้องผ่านการสอบคัดเลือกของบัณฑิตวิทยาลัยที่จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นก่อนการพิจารณาคัดเลือกนักศึกษาในระดับบัณฑิตวิทยาลัย โดยทั่วไป จะใช้วิธีการตรวจสอบจากเอกสาร รายละเอียดสรุปของวิทยานิพนธ์ในปริญญาตรี สอบปากเปล่า ซึ่งเน้นในเนื้อหาวิชาเอกที่นักศึกษาสมัคร นอกจากนี้ยังมีการสอบข้อเขียนในวิชาภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ หรือภาษาต่างประเทศอื่น ๆ และวิชาพิเศษอื่น ๆ
    แม้ช่วงระยะเวลาการสอบเข้านั้นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละมหาวิทยาลัย แต่ส่วนมากจะอยู่ในช่วง เดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม บัณฑิตวิทยาลัยบางแห่งจัดสอบในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม โดยเฉพาะในสาขาทางศิลปะ
  2. นักศึกษาวิจัย
    มหาวิทยาลัยพิจารณารับนักศึกษาโดยการตรวจสอบเอกสารเป็นหลัก

ทั้งนักศึกษาภาคปกติและนักศึกษาวิจัยนั้น บัณฑิตวิทยาลัยหลายแห่งกำหนดให้นักศึกษา ติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อให้อาจารย์รับรองก่อนสมัครเรียน นักเรียนควรสอบถามไปยังมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัครเข้าเรียนก่อน ว่าจำเป็นต้องติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษาหรือไม่ ในกรณีที่จำเป็น นักศึกษาสามารถหาข้อมูลของอาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งตรงกับเนื้อหาวิชาเอกของตนเองได้จาก โฮมเพจของสำนักงานวิจัยศึกษาข้อมูลแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการฯ ข้อมูลอ้างอิงของนักวิจัยสาขาต่าง ๆ ในประเทศของตนเอง นักเรียนเก่าญี่ปุ่น วารสารทางวิชาการ รายชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ของบัณฑิตวิทยาลัยในแต่ละมหาวิทยาลัย
สำหรับอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์นั้น บางท่านอาจมีโฮมเพจของภาควิชา แต่ไม่ได้แจ้ง email ไว้ให้ทราบก็มี ดังนั้นจึงขอให้ลองติดต่อกับอาจารย์โดยใช้โทรสาร หรือจดหมาย บัณฑิตวิทยาลัยบางแห่งอาจช่วยแนะนำอาจารย์ที่ปรึกษาให้ก่อน

ในกรณีที่ติดต่อหาอาจารย์ที่ปรึกษาทางจดหมาย ควรส่งผลงานหรือวิทยานิพนธ์ที่เคยทำในสมัยปริญญาตรี แผนการทำวิจัย และบรรยายอย่างละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลที่เลือกอาจารย์ท่านนี้ พร้อมกันนี้ควรแนบใบรับรองจากอาจารย์ที่ปรึกษาในมหาวิทยาลัยที่เคยหรือกำลังศึกษาอยู่ไปด้วย เนื่องจากอาจารย์ต้องพิจารณารับนักศึกษาจากเอกสารเท่านั้น จึงต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ การติดต่ออาจารย์ในครั้งแรก ๆ อาจไม่ได้รับการตอบกลับมา จำเป็นต้องติดต่อหลาย ๆ ครั้ง การแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริง กระตือรือร้นในการศึกษาของตัวนักศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ

การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอาจารย์ที่ปรึกษาในระดับบัณฑิตวิทยาลัย

  1. ค้นหารายชื่ออาจารย์และสังกัดจากหนังสือแนะนำมหาวิทยาลัย หนังสือแนะนำอาจารย์ของมหาวิทยาลัย หรือจดหมายข่าว
  2. สอบถามข้อมูลจากผู้ที่เคยไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่นมา หรือผู้ที่ทำงานอยู่ในสาขาที่จะศึกษาต่อ
  3. ถ้าค้นหาข้อมูลของสาขาที่จะศึกษาต่อจากโฮมเพจของมหาวิทยาลัยไม่ได้ ให้ส่งอีเมล์ โทรสารหรือจดหมายเพื่อขอรายละเอียดไปที่มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นโดยตรง
  4. ค้นหาข้อมูลนักวิจัยและหัวข้อวิจัย จากเว็บไซท์ http://read.jst.go.jp/index_e.html

 

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

ตารางต่อไปนี้แสดงค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในปีแรก ( รวมค่าธรรมเนียมในการสมัคร ค่าเล่าเรียน ค่าอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ด้วย ) สำหรับในชั้นปีที่สอง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะลดลงเหลือประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะค่าแรกเข้านั้นเสียเฉพาะในปีแรกเท่านั้น

รัฐบาล (ทุกสาขา) 847,,800 เยน 322,357 บาท
ท้องถิ่น        935,629 เยน 355,752 บาท
เอกชน

มนุษยศาสตร์ 924,860 เยน
842,152 เยน
351,657 บาท
320,209 บาท
สังคมศาสตร์ 959,679 เยน
897,232 เยน
364,896 บาท
341,152 บาท
การศึกษา 1,038,519 เยน
919,224 เยน
394,874 บาท
349,514 บาท
วิทยาศาสตร์ 1,041,422 เยน
949,516 เยน
395,977 บาท
361,032 บาท
วิศวกรรมศาสตร์ 1,130,383 เยน
1,136,466 เยน
429,803 บาท
432,116 บาท
เกษตรศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ 1,123,033 เยน
1,099,339 เยน
427,008 บาท
417,999 บาท
คหกรรมศาสตร์ 977,727 เยน
955,863 เยน
371,759 บาท
363,446 บาท
ศิลปกรรมศาสตร์ 1,465,509 เยน
1,274,095 เยน
557,227 บาท
484,446 บาท
สุขศึกษา (รวมเภสัชศาสตร์) 1,024,521 เยน
977,189 เยน
389,551 บาท
371,554 บาท
แพทยศาสตร์ 1,218,077 เยน
804,656 เยน
463,147 บาท
305,952 บาท
ทันตแพทยศาสตร์ 1,101,250 เยน
1,255,349 เยน
418,726 บาท
477,319 บาท
หมายเหตุ
– แถวบน : ระดับปริญญาโท
– แถวล่าง : ระดับปริญญาเอก

 

เงื่อนไขสำหรับการสำเร็จการศึกษา

งื่อนไขสำหรับการสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกจะแตกต่างกัน ในระดับปริญญาโท นักศึกษาจะต้องเรียนอย่างน้อย 2 ปี สอบผ่านจำนวนหน่วยกิตครบตามที่กำหนด (อย่างน้อย 30 หน่วย) และเขียนวิทยานิพนธ์และสอบวิทยานิพนธ์ผ่าน นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจะได้รับ “ปริญญามหาบัณฑิต” ( Shushi )

ในกรณีของหลักสูตรปริญญาเอก นักศึกษาจะต้องใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 5 ปี ( รวมระยะเวลาในการศึกษา หลักสูตรปริญญาโท 2 ปี ) สอบผ่านอย่างน้อย 30 หน่วย ( รวมหน่วยกิตในระดับปริญญาโทด้วย ) เขียนวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกที่ผ่านการรับรองและสอบวิทยานิพนธ์ผ่าน นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจะได้รับ ” ปริญญาดุษฎีบัณฑิต ” ( Hakushi )

 

Link ข้อมูลเพิ่มเติม

Asian University Ranking

วิทยาลัย

midashic

คุณสมบัติของนักศึกษาต่างชาติที่จะเข้าศึกษาในวิทยาลัย

  • นักศึกษาจะต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
  • สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนของประเทศตนเอง เป็นระยะเวลา 12 ปี ( ตั้งแต่ป.1 – ม.6 )

การสอบเข้าวิทยาลัย

ในการเข้าศึกษาในวิทยาลัยนั้น นักศึกษาจะต้องสอบผ่านการสอบคัดเลือกเข้าวิทยาลัยที่จัดขึ้นในญี่ปุ่น มีวิทยาลัยประมาณ 40% ที่มีวิธีการพิจารณาพิเศษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ยิ่งไปกว่านั้น มีวิทยาลัยถึง 69 % ใช้ผลการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น และ 37% ใช้ผลการสอบสามัญทั่วไป สำหรับนักศึกษาต่างชาติเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในปีแรก ( รวมค่าธรรมเนียมในการสมัคร ค่าเล่าเรียน ค่าอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ด้วย ) สำหรับในชั้นปีที่สอง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะลดลงเหลือประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะค่าแรกเข้านั้นเสียเฉพาะในปีแรกเท่านั้น

รัฐบาล   513,600 เยน   183,429 บาท
ท้องถิ่น   560,869 เยน   200,310 บาท
เอกชน

มนุษยศาสตร์ 1,134,484 เยน 405,173 บาท
นิติศาสตร์ พาณิชยศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ 1,146,758 เยน 409,556 บาท
เกษตรศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 1,046,503 เยน 373,751 บาท
วิศวกรรมศาสตร์ 1,176,411 เยน 420,147 บาท
ศึกษาศาสตร์ อนุบาล 1,072,193 เยน 382,926 บาท
ตัดเย็บ 1,123,143 เยน 401,123 บาท
ศิลปกรรมศาสตร์ 1,394,434 เยน 498,012 บาท
พลศึกษา 1,130,000 เยน 403,571 บาท

 

เงื่อนไขสำหรับการสำเร็จการศึกษา

การสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยนั้น นักศึกษาจะต้องเรียนอย่างน้อย 2 ปี และสอบผ่านอย่างน้อย 62 หน่วยกิต ในวิทยาลัยที่เรียน 2 ปี และสำหรับวิทยาลัยที่มีหลักสูตร 3 ปีนั้น นักศึกษาจะต้องสอบผ่านอย่างน้อย 93หน่วยกิต นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยที่มีหลักสูตร 3 ปีจะได้อนุปริญญา

วิทยาลัยอาชีวศึกษา

midashisp

วิทยาลัยอาชีวศึกษา ( หลักสูตรวิชาชีพชั้นสูง ) หรือ Senmon Gakkou เป็นสถานศึกษาระดับสูงประเภทหนึ่ง โดยเป็นสถานศึกษาที่มุ่งยกระดับการศึกษา และให้ผู้เรียนได้รับความรู้ เทคนิคและทักษะที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ มุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้ และความชำนาญเฉพาะด้าน เพื่อให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ทันที ในปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 3,435 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสถาบันของเอกชน

หลักสูตรที่เปิดสอน
หลักสูตรที่เปิดสอนในวิทยาลัยอาชีวศึกษา หลักสูตรวิชาชีพชั้นสูงนี้ แบ่งออกเป็น 8 สาขาได้แก่

  • อุตสาหกรรม เช่น ไฟฟ้า , เครื่องกล , วิศวกรรมโยธา , วิศวกรรมก่อสร้าง , ช่างสำรวจ , สถาปัตยกรรม
  • เกษตรศาสตร์ เช่น การเกษตรกรรม , การจัดสวน , เทคโนโลยีชีวภาพ
  • การแพทย์และพยาบาล เช่น พยาบาล , เทคนิคทันตกรรม , กายภาพบำบัด
  • การศึกษาและสังคมสงเคราะห์ เช่น การดูแลเด็กอ่อนและคนชรา , สวัสดิการสังคม
  • สาธารณสุขศาสตร์ เช่น อาหาร , โภชนาการ , ช่างทำผม , ช่างเสริมสวย
  • พาณิชยศาสตร์ เช่น บัญชี , เลขานุการ , ธุรกิจท่องเที่ยว , การโรงแรม
  • คหกรรมศาสตร์ เช่น ตัดเย็บเสื้อผ้า , ธุรกิจแฟชั่น, ออกแบบ , การตัดเย็บแบบญี่ปุ่น
  • ศิลปวัฒนธรรมและการศึกษาทั่วไป เช่น ภาษาศาสตร์ , ศิลปกรรม , ดนตรี , กีฬา , ถ่ายภาพ , การแสดง

เมื่อจบการศึกษาแล้ว ผู้เรียนสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญในการประกอบอาชีพต่าง ๆ เช่น นักออกแบบตกแต่งภายใน , สถาปนิก , วิศวกรระบบ , ช่างเทคนิครถยนต์ , เชฟ , เชฟทำขนม , ช่างเสริมสวย , พนักงานบัญชีของรัฐ , นักแปล / ล่าม , พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน , พนักงานโรงแรม , ผู้ดูแลเด็กอ่อนหรือผู้สูงอายุ , แม่บ้าน , แฟชั่นดีไซเนอร์ , นักออกแบบการ์ตูนอนิเมชั่น , ผู้กำกับภาพยนตร์ , โปรดิวเซอร์ , นักสร้างเกม , นักออกแบบอัญมณี ฯลฯ

*** วิทยาลัยอาชีวศึกษา ไม่มีหลักสูตรที่สอนด้วยภาษาอังกฤษ

photo1 photo6 photo4

ระยะเวลาในการเรียน

หลักสูตรของ Senmon Gakkou ส่วนใหญ่จะกำหนดระยะเวลาเรียนไว้ที่ 2 ปี แต่มีบางหลักสูตรที่เรียน 1 ปี , 3 ปี หรือ 4 ปี

เงื่อนไขในการเข้าศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษา

จำเป็นต้องมีข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ 

  1. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตร 12 ปี ( จบม.ปลาย ) และต้องเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
  2. กรณีที่สำเร็จการศึกษาระดับกลางในเวลา 10 หรือ 11 ปี จะต้องเป็นนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรเตรียมเข้าศึกษาต่อ จากสถาบันที่ได้รับการรับรอง และจะต้องเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
  3. ในการจะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยนั้น จะต้องเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเทียบเท่าหรือสูงกว่า

ก) เป็นผู้ที่สอบผ่านหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายของนานาชาติ ( International Baccalaureate ) หรือสอบผ่านหลักสูตร Abitur ของประเทศเยอรมัน และต้องเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

ข) เป็นผู้ที่สำเร็จหลักสูตร 12 ปี ในสถานศึกษาสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การการประเมินประหว่างประเทศ ( WASC , ACSI , ECIS ) และต้องเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

4. เป็นผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติในการเข้าศึกษาเป็นรายบุคคลจากวิทยาลัยอาชีวศึกษา ( หลักสูตรวิชาชีพเฉพาะทาง) ว่ามีความรู้ความสามารถ ซึ่งพร้อมที่จะสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย และต้องเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

ความรู้ความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น

จำเป็นต้องมีข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

  1. เป็นผู้ที่เรียนภาษาญี่ปุ่นมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงยุติธรรมและสมาคมส่งเสริมการศึกษาภาษาญี่ปุ่น ( และมีอัตราการเข้าเรียน 80% ขึ้นไป )
  2. เป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นที่จัดโดยสมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่นและมูลนิธิญี่ปุ่น ในระดับ 1 หรือ 2
  3. เป็นผู้ที่เคยศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา หรือโรงเรียนมัธยมต้นหรือโรงเรียนมัธยมปลายในญี่ปุ่น เป็นเวลาตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป
  4. เป็นผู้ที่ได้คะแนนของการสอบเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น (EJU) วิชาภาษาญี่ปุ่น มากกว่า 200 คะแนนขึ้นไป ( ผลรวมของคะแนนการอ่าน , การฟัง การฟังและการอ่าน )

การสอบเข้า

ประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • การพิจารณาตามเอกสาร
  • การสอบตามสาขาวิชา
  • การสอบสัมภาษณ์
  • การเขียนบทความสั้น / เรียงความ
  • การทดสอบความถนัด
  • การสอบภาคปฏิบัติ
  • การสอบภาษาญี่ปุ่นและทดสอบความสามารถทางวิชาการ

ช่วงเวลาการรับสมัคร – สอบคัดเลือก

การสมัครในประเทศญี่ปุ่น
วิทยาลัยอาชีวศึกษาจะมีการจัดงานเปิดสถาบัน ( Open Campus ) ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม – มกราคมของทุกปี เพื่อให้นักเรียนที่สนใจเข้าชมสถาบันได้ (ในช่วงเวลาที่กำหนด) โดยสามารถเดินทางไปดูสถานที่จริง รับข้อมูลเนื้อหาหลักสูตร ชมอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนการสอน รวมไปถึงการเข้าทดลองเรียนจริงในสาขาวิชาที่สนใจ เพี่อประกอบการตัดสินใจเลือกสาขาวิชาและสถาบันที่ตรงกับความต้องการได้ ซึ่งระหว่างที่เรียนภาษาอยู่ นักเรียนสามารถดำเนินเรื่องสมัครเรียนควบคู่ไปด้วย

กำหนดการสอบ
การสอบในญี่ปุ่น โดยทั่วไปจะมีการจัดสอบหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เพื่อรับสมัครนักเรียนเข้าเรียนในภาคเรียนเดือนเมษายนปีถัดไป

การสมัครในประเทศไทยกับ Jeducation
สำหรับผู้ที่สอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นผ่านระดับ 2 แล้ว หากต้องการเข้าเรียนในวิทยาลัยอาชีวศึกษาที่ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น Jeducation เป็นสำนักงานตัวแทน สามารถติดต่อสมัครสอบเข้าเรียนได้ที่เจเอ็ดดูเคชั่น ซึ่งจะเป็นผู้ดำเนินการสอบคัดเลือกในประเทศไทยตามระเบียบการที่ทางสถาบันกำหนด และประสานงานในทุกขั้นตอน โดยที่ผู้สมัครไม่ต้องบินไปสอบที่ประเทศญี่ปุ่น

กำหนดการสอบ
โดยทั่วไปจะจัดสอบประมาณเดือนพฤศจิกายน เพื่อรับสมัครนักเรียนเข้าเรียนในภาคเรียนเดือนเมษายนปีถัดไป

เงื่อนไขสำหรับการสำเร็จการศึกษา

ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยอาชีวศึกษา หลักสูตรวิชาชีพชั้นสูง จะได้รับการยอมรับเป็น ” ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ( Senmon-shi )” ซึ่งจะมีผลต่อการหางานและการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการสำเร็จการศึกษา 

[ws_table id=”15″]

เมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขข้างต้น ก็จะได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ผู้ที่ได้ประกาศนียบัตรวิชาชีพสามารถสอบเทียบโอนเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีได้ ส่วนผู้ที่ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ก็สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับบัณฑิตวิทยาลัยได้ การจะสำเร็จการศึกษาได้หรือไม่นั้น จะพิจารณาจากผลสอบปลายภาค จำนวนวันที่เข้าเรียน เป็นต้น 

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในปีแรก ( รวมค่าธรรมเนียมในการสมัคร ค่าเล่าเรียน ค่าอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ด้วย ) สำหรับในชั้นปีที่สอง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะลดลงเหลือประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะค่าแรกเข้านั้นเสียเฉพาะในปีแรกเท่านั้น

รัฐบาล   236,800 เยน  87,616 บาท
เอกชน

การรักษาพยาบาล 1,454,200 เยน 538,054 บาท
สาธารณสุขศาสตร์ 1,457,300 เยน 539,201 บาท
อุตสาหกรรม 1,221,250 เยน 451,863 บาท
วัฒนธรรมและการศึกษาทั่วไป 1,200,300 เยน 444,111 บาท
พาณิชยศาสตร์ การบัญชี 1,191,000 เยน 440,670 บาท
ศึกษาและสังคมสงเคราะห์ 1,080,500 เยน 399,785 บาท
เสื้อผ้า เครื่องประดับและคหกรรม   948,000 เยน 356,400 บาท
เกษตรกรรม   980,000 เยน 362,600 บาท

Link วิทยาลัยอาชีวศึกษา
รายชื่อและข้อมูลของวิทยาลัยอาชีวศึกษา ที่ Jeducation เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทย (ภาษาไทย + ญี่ปุ่น)
Link ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิทยาลัยอาชีวศึกษา
THE METROPOLITAN TOKYO PROFESSIONAL INSTITUTION ASSOCIATION
(ภาษาญี่ปุ่น)

วิทยาลัยเทคนิค

midashit

คุณสมบัติของนักศึกษาต่างชาติที่จะเข้าศึกษาในวิทยาลัยเทคนิค

ผู้สมัครเข้าสถาบันการศึกษาประเภทนี้จะต้องสำเร็จการศึกษาในโรงเรียนมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 12 ปีในประเทศของตนเอง ( จบมัธยมปลาย ) ในปัจจุบันนี้มีวิทยาลัยเทคนิคประเภทนี้ไม่มากนัก ที่รับนักศึกษาต่างชาติทุนส่วนตัวเข้าเรียน

การสอบเข้าวิทยาลัยเทคนิค

การสอบเข้าของสถาบันการศึกษาประเภทนี้นั้น ใช้วิธี

  1. การสอบตามสาขาวิชา
  2. การสอบด้วยการเขียนเรียงความ
  3. คัดเลือกจากเอกสาร
  4. การสัมภาษณ์
  5. การทดสอบความเหมาะสม
  6. การสอบภาคปฏิบัติ
  7. การสอบภาษาญี่ปุ่น

ถึงแม้ว่าวิธีการสอบจะแตกต่างกันไปตามสาขาวิชาหรือสถาบันก็ตาม หลักเกณฑ์สำคัญที่ใช้คือ พิจารณาจากความตั้งใจจริงในการศึกษา ความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น ที่ต้องมีอย่างเพียงพอที่จะสามารถติดตามทำความเข้าใจเนื้อหาในชั่วโมงเรียน เป้าหมายในการเรียนชัดเจนหรือไม่เพียงใด

Link ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิทยาลัยเทคนิค
Association of National Colleges of Technology, Japan

Scroll to Top