003 pagetitle

ข้อมูลเกี่ยวกับญี่ปุ่น

ภูมิประเทศ

land Geography

ญี่ปุ่นเป็นประเทศหมู่เกาะ ซึ่งประกอบไปด้วยเกาะต่าง ๆ กว่า 6,800 เกาะ เรียงรายเป็นแนวยาวจากด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ของมหาสมุทรแปซิฟิก และตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของโลก จึงเป็นที่มาของชื่อ ” ดินแดนอาทิตย์อุทัย ” จุดทางใต้สุดอยู่ที่เส้นรุ้งประมาณ 24 องศาเหนือ และเหนือสุดที่ประมาณ 45 องศาเหนือ มีพื้นที่ประมาณ 377,800 ตารางกิโลเมตร ความยาวจากเหนือจรดใต้ ประมาณ 2,800 กิโลเมตร ญี่ปุ่นมีขนาดเล็กกว่าไทยประมาณ 0.7 เท่า แต่มีประชากรมากกว่าประมาณ 2 เท่า

ญี่ปุ่นประกอบไปด้วยเกาะหลัก 4 เกาะคือ ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชิว
เกาะฮอนชูซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด ยังแบ่งเป็น 5 ภาค เรียงจากเหนือลงมาคือ โทโฮะกุ คันโต จูบุ คิงคิ และจูโงกุ
มีจังหวัดต่าง ๆ ทั้งหมด 47 จังหวัด ( Prefecture ) แบ่งเป็นเมืองต่าง ๆ รวมทั้งหมดมากกว่า 650 เมือง โดยมีโตเกียวเป็นเมืองหลวงของประเทศมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2411

map

พื้นที่ประมาณ 3 ใน 4 ของญี่ปุ่นจะเป็นภูเขาและเนินเขา ซึ่งอุดมไปด้วยป่าไม้ แม้ว่าความต้องการใช้ไม้จะมีมาก แต่การตัดไม้นั้นมีน้อย เนื่องจากญี่ปุ่นหันไปนำเข้าไม้ราคาถูกจากต่างประเทศ แทนการทำลายป่า

พื้นที่ราบจะเป็นพื้นที่สำหรับการกสิกรรม และที่ตั้งของเมืองต่าง ๆ พื้นที่ราบที่ใหญ่ที่สุดอยู่บริเวณใจกลางอ่าวโตเกียว คือที่ราบคันโต ( Kanto ) นอกจากนั้นก็ยังมีที่ราบโทโฮะกุ ( Tohoku ) ทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู ที่ราบในฮอกไกโด และที่ราบเขตอุตสาหกรรมนาโงย่า-โอซาก้า ( Nagoya – Osaka ) ที่ราบเหล่านี้จะแน่นขนัดไปด้วยบ้านเรือน โรงงาน ที่ดินเกษตร และสาธารณูปโภค คิดเป็น 20% ของที่ดินโดยรวมทั้งประเทศ

 

ตารางแสดงพื้นที่และการใช้พื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น ( คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ )

[ws_table id=”46″]

กราฟแสดงพื้นที่และพื้นที่ใช้สอยของประเทศญี่ปุ่น ( ปี 1997 )

landg

ภูมิอากาศ

climate Climate

กล่าวโดยทั่ว ๆ ไป ญี่ปุ่นมีภูมิอากาศแบบเขตอบอุ่น ฤดูใบไม้ผลิ (ฮารุ) มีอากาศที่สบาย น่าอยู่อาศัย ต้นไม้เริ่มผลิดอกออกใบ ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิมีดอกซากุระบานสะพรั่ง ไล่จากคิวชูไปจนถึงฮอกไกโดเป็นที่สุดท้าย ฤดูร้อน (นัตซึ) อากาศค่อนข้างร้อนแบบเหนอะหนะ ฤดูใบไม้ร่วง (อะกิ) อากาศแห้งและเย็นสบาย ใบไม้กลายเป็นสีเหลืองทอง ในขณะที่ฤดูหนาว (ฟุยุ) อากาศค่อนข้างหนาวเย็น

แต่เนื่องจากพื้นที่ของประเทศที่ทอดเป็นแนวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร ทำให้ภูมิอากาศของแต่ละท้องถิ่น มีความแตกต่างกันออกไป ทางเหนือของญี่ปุ่น ในแถบฮอกไกโดมีอากาศหนาวเย็นคล้ายยุโรป มีหิมะตกหนักในฤดูหนาว ด้วยลมหนาวจากไซบีเรีย ได้พัดเอาความชื้นจากทะเลญี่ปุ่นเข้ามา ในขณะที่พื้นที่ทางใต้ของคิวชูและโอกินาวา มีสภาพอากาศค่อนไปทางเขตร้อนชื้น และมีฝนตกชุกในฤดูฝน

ฤดูกาลแบ่งออกเป็น 4 ฤดูคือ

ฤดูหนาว ประมาณเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
ฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนมีนาคม – พฤษภาคม
ฤดูร้อน ประมาณเดือนมิถุนายน – สิงหาคม
ฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนกันยายน – พฤศจิกายน

ช่วงที่มีฝนตกมากที่สุดอยู่ในเดือนมิถุนายน ไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม
ช่วงที่มีพายุไต้ฝุ่นจะอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน
ช่วงที่ร้อนที่สุดคือเดือนสิงหาคม

เวลาในญี่ปุ่นจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง

อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในแต่ละเดือนของเมืองต่าง ๆ จากเหนือจรดใต้ (องศาเซลเซียส)

[ws_table id=”47″]

 

การปกครอง

govern Government

ระบอบการปกครอง : ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา
ประมุข : สมเด็จพระจักรพรรดิ

สมเด็จพระจักรพรรดิองค์ปัจจุบันคือ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2476 และเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2532 สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดารวมสามพระองค์ และทรงประทับ ณ พระราชวังอิมพีเรียลในกรุงโตเกียว

emperor

สถาบันจักรพรรดิ หรือ” เทนโน ” เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับกลไกการปกครองของญี่ปุ่น ตั้งแต่ญี่ปุ่นได้ก่อตั้งเป็นประเทศขึ้นมา แต่ว่านอกจากในยุคโบราณแล้ว จักรพรรดิแทบจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารประเทศโดยตรง ในความเป็นจริงแล้วผู้ที่ดำเนินงานบริหารประเทศคือ ขุนนางและบุคุฟุ ( Bakufu : รัฐบาลทหารที่จัดตั้งโดยชนชั้นนักรบ )

รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันของญี่ปุ่น ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1947 นั้น ได้ให้อำนาจอธิปไตยแก่ปวงชน และให้ ” สมเด็จพระจักรพรรดิทรงเป็นสัญลักษณ์ของชาติ ” สมเด็จพระจักรพรรดิไม่ทรงมีอำนาจในรัฐบาล ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจตามที่รัฐสภา หรือคณะรัฐมนตรีกำหนด และทรงถูกจำกัดให้ประกอบพระราชกรณียกิจ เฉพาะที่เกี่ยวกับพระราชพิธีอย่างเป็นทางการเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงได้รับการยกย่อง ในฐานะเป็นพระประมุขของประเทศ เพื่อจุดประสงค์ทางการฑูต


 นายกรัฐมนตรี : มาจากการเลือกตั้งของสภาไดเอ็ท

โดยมากแล้ว จะมาจากหัวหน้าพรรคที่ได้เสียงส่วนใหญ่ ในสภาผู้แทนราษฎร และในปัจจุบันนับแต่ปีค.ศ. 1955 เป็นต้นมา นายกรัฐมนตรีมาจากพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP ) ยกเว้นในปี 1993 และ 1996

นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน : นายจุนอิชิโร โคะอิซุมิ
ประธานพรรคเสรีประชาธิปไตย
ได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2001
เกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม 1942 ที่เมืองโยโกสุกะ จังหวัดคะนะงาวะ
งานอดิเรก : เล่นสกี อ่านหนังสือ ดนตรี คาบูกิ ภาพยนตร์
บุคคลที่นับถือและชื่นชอบ : เซอร์วินสตัน เชอร์ชิล
เพลงคาราโอเกะเพลงโปรด : คะเงะ-โบชิ / เอ็กซ์แจแปน Forever Love


 ระบบการเมือง : ระบบการเมืองของญี่ปุ่น ยึดหลักการแยกอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการออกจากกัน

สภาซึ่งทำหน้าที่บัญญัติกฎหมายของประเทศคือ สภาไดเอ็ท ( The National Diet ) ซึ่งเป็นสภาสูงสุดในการบริหารประเทศ และทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนชาวญี่ปุ่นทั้งหมด สภาไดเอ็ทแบ่งออกเป็นสองสภาคือ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีจำนวนที่แน่นอน คือ 512 คน และมีเวลาปฏิบัติงานวาระละ 4 ปี ยกเว้นในกรณีที่มีการยุบสภาไดเอ็ทก่อนหมดวาระ ส่วนวุฒิสมาชิกมีจำนวนทั้งหมด 252 คน และอยู่ในตำแหน่งวาระละ 6 ปี ครึ่งหนึ่งของจำนวนวุฒิสมาชิกต้องได้รับการเลือกตั้งใหม่ ทุก ๆ 3 ปี

อำนาจหลักของสภาไดเอ็ท คือการออกเสียงลงคะแนนร่างพระราชบัญญัติต่าง ๆ มีอำนาจในการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี หรือลงคะแนนไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี

กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศคือ คณะรัฐมนตรี ซึ่งจัดตั้งโดยนายกรัฐมนตรี ให้มีหน้าที่รับผิดชอบในการใช้กฎหมายในการบริหาร การเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ และร่างพระราชบัญญัติอื่น ๆ และการรายงานทั้งเรื่องภายในและภายนอกประเทศ ต่อสภาไดเอ็ท รัฐมนตรีมีหน้าที่บังคับบัญชา และควบคุมดูแลกระทรวงต่าง ๆ ทั้ง 12 กระทรวง

ส่วนราชการฝ่ายตุลาการประกอบด้วย ศาลฎีกา และศาลล่าง ซึ่งแบ่งออกเป็นศาลภาค มีทั้งหมด 8 แห่ง , ศาลจังหวัด มีทั้งหมด 50 แห่ง , ศาลแขวง มีทั้งหมด 575 แห่งและศาลครอบครัว การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับประชาชน และการพิจารณาคดีตามกฎหมายอื่น ๆ เป็นหน้าที่ของข้าราชการอัยการ ซึ่งอยู่ภายใต้การบังคับของอธิบดีกรมอัยการ


 ธงชาติ : ธงชาติญี่ปุ่น เป็นรูปวงกลมสีแดงใหญ่บนพื้นสีขาว เรียกกันว่า ” ฮิโนะมารุ ” แปลตามตัวอักษรหมายถึง ” วงกลมพระอาทิตย์ ” ธงพระอาทิตย์นี้ใช้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17

flag

เพลงชาติ : เพลงชาติของญี่ปุ่น “คิมิงะโยะ” หมายความถึง “รัชสมัยแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ” เนื้อเพลงเป็นบทกวีโบราณ แต่งขึ้นประมาณ 1,000 ปีมาแล้ว ซึ่งไม่มีใครจำชื่อผู้ประพันธ์ได้ โดยเหตุที่เนื้อเพลงสั้นมาก จึงต้องร้องซ้ำสองครั้ง เนื้อเพลงมีดังนี้

เนื้อร้องภาษาญี่ปุ่น

คิมิ งะ โยะ วะ ชิโยะ นิ ยะชิโยะ นิ ซาซาเระ อิชิ โนะ อิวะโอะ โตะ นะริ เตะ โคะเคะ โนะ มุซุ มะเดะ

คำแปลเป็นภาษาไทย

ขอพระองค์ทรงพระเจริญในราชสมบัตินับหมื่นปี ขอจงเสวยราชย์ชั่วกาลนาน ตลอดจนบรรดาเม็ดกรวดรวมกันเข้าเมื่อกาลเวลาผ่านไป และกลายเป็นหินผาอันมหึมา ซึ่งมีตะไคร่น้ำขึ้นอาศัยเกาะอยู่โดยรอบ

 

ในพ.ศ.2403 จอห์น วิลเลี่ยม เฟ็นตัน ชาวอังกฤษผู้เป็นนายวงดนตรีคนแรกของกองทัพญี่ปุ่น ได้แต่งทำนองเพลงสำหรับ “คิมิงะโยะ” ขึ้น และได้ใช้บรรเลงมาจนถึงปี พ.ศ. 2425 จึงได้มีการพิจารณาทำนองเพลงขึ้นใหม่ คณะกรรมการได้เลือกทำนองเพลงของนักดนตรีแห่งราชสำนัก ชื่อฮิโรโมริ ฮายาชิ ขึ้นใช้แทน ในชั้นแรกใช้บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีญี่ปุ่น ต่อมาได้จัดเสียงประสานขึ้นใหม่ เพื่อใช้บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีสากล ได้บรรเลงเป็นครั้งแรกในราชสำนักวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระจักรพรรดิเมยิ ในปีพ.ศ. 2423 และทางการได้ประกาศรับเพลง ” คิมิงะโยะ” เป็นเพลงชาติของญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2431

ประชากร

people Population

จำนวนประชากร : 127 ล้านคน

อัตราการเพิ่มของประชากร : 0.16 %

ความหนาแน่นของประชากร : 340 คนต่อพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร

อายุเฉลี่ย : ชาย 76 ปี , หญิง 82 ปี

จำนวนคนต่างชาติ : 1,556,113 คน ( เดือนตุลาคม 2542 )

ญี่ปุ่น เป็นประเทศหนึ่งในบรรดาประเทศ ที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในโลก แต่เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ราบ ดังนั้นพื้นที่บางแห่งจึงมีประชากรหนาแน่นกว่า ประชากรญี่ปุ่นส่วนใหญ่ อาศัยอยู่ในแถบฝั่งทะเลด้านตะวันออกที่มีการพัฒนาไปมาก หรือในภูมิภาคทางใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น เมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด ได้แก่ โตเกียว โอซาก้า โยโกฮามา และนาโงยา

 

ตารางแสดงจำนวนประชากรของญี่ปุ่น ( ปี2537- 2542 )

[ws_table id=”48″]

ตารางแสดงจำนวนประชากรของญี่ปุ่นแบ่งตามจังหวัด

[ws_table id=”49″]

ที่มา : รายงานประจำปี การคาดคะเนจำนวนประชากรในปัจจุบัน ( 1 ตุลาคม 2542 )
Statistics Bureau & Statistics Center , Management and Coordination Agency

 

ภาษา

language Language

ภาษาราชการ : ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาเดียวที่ใช้ทั่วประเทศ แต่ว่าจะมีความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ซึ่งจะมีภาษาท้องถิ่นของตนเอง แต่จากจำนวนคนญี่ปุ่นที่มีมากกว่า 120 ล้านคน ทำให้ภาษาญี่ปุ่น เป็นภาษาที่มีผู้ใช้มากเป็นอันดับที่ 10 รองจากภาษาจีน , อังกฤษ , รัสเซียและอื่น ๆ

ภาษาอังกฤษ จะใช้ได้บ้างก็เฉพาะในบริเวณสนามบิน โรงแรมใหญ่ ๆ หรือสถานที่ราชการบางแห่ง ที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารกับคนต่างชาติ แต่โดยทั่วไปแล้ว กล่าวได้ว่า คนญี่ปุ่นที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีจะมีน้อยมาก เด็กนักเรียนญี่ปุ่นจะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ เมื่ออยู่ชั้น ม.1 ( เกรด 7 ) และด้วยระบบการสอนที่เน้นการให้ข้อมูล การท่องจำเพื่อสอบแข่งขันมากกว่าการใช้ในชีวิตจริง จึงทำให้เด็กญี่ปุ่นไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แต่อาจจะเขียนและอ่านได้ดีกว่า

ดังนั้น สำหรับชาวต่างชาติแล้ว หากไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลย ก็จะลำบากต่อการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นมากทีเดียว

ตัวอักษร : ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลการเขียนตัวอักษรแบบจีน และวัฒนธรรมจีนมา ตั้งแต่เมื่อคริสตศตวรรษที่ 7 และ 8 ซึ่งยังคงมีอิทธิพลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากตัวหนังสือที่ใช้อยู่ 3 แบบคือ

แบบที่ 1 และแบบที่ 2 คือ ฮิรางานะ ( Hiragana ) และ คาตากานะ ( Katagana ) ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นในญี่ปุ่น จากการย่ออักษรจีนบางตัว ทั้งสองแบบมีตัวอักษรอย่างละ 46 ตัว และแสดงเสียงตามพยางค์

แบบที่ 3 คือคันจิ ( Kanji ) เป็นตัวอักษรจีน ซึ่งเป็นอักษรภาพที่แสดงความหมายในตัวเอง อักษรจีนที่ถูกใช้อยู่มีประมาณ 3,000 ตัว แต่จำนวนอักษรจีนที่ถูกระบุอย่างเป็นทางการ ว่าใช้กันอยู่ทั่วไปในปัจจุบันมีเพียง 1,945 ตัวเท่านั้น

ในการเขียนประโยคต่าง ๆ จะใช้อักษรจีนผสมกับอักษรแบบฮิรางานะ สำหรับชื่อสถานที่ ชื่อเฉพาะอื่น ๆ ที่มาจากอเมริกา ยุโรป และประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อักษรแบบจีน รวมถึงคำศัพท์เทคนิคซึ่งยืมจากภาษาต่างประเทศ จะเขียนด้วยอักษรคาตะกานะ

ภาษาญี่ปุ่นอาจเขียนในแนวดิ่งจากข้างบนลงข้างล่างก็ได้ หรือจะเขียนตามขวางจากซ้ายไปขวาก็ได้

ศาสนา

religion Religion

ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดเลย หากคุณถามเพื่อนชาวญี่ปุ่นของคุณว่า เขานับถือศาสนาอะไร แล้วเขาตอบว่า “เขาไม่มีศาสนา”

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใจกว้างในเรื่องศาสนา ชาวญี่ปุ่นในปัจจุบันไม่ได้ยึดติดกับศาสนาใดศาสนาหนึ่ง ไม่แปลกเลยที่คู่สมรสซึ่งเพิ่งแต่งงานใหม่ จะทำพิธีบอกกล่าวบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วที่หิ้งบูชา ตามแบบของชาวพุทธ แต่ทำพิธีแต่งงานตามแบบชาวคริสต์ และไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้าชินโต ในระหว่างการไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์

ไม่แปลกอะไรที่คนญี่ปุ่นจะพาลูกสาวอายุ 3 ขวบ ลูกชายอายุ 5 ขวบและลูกสาวอายุ 7 ขวบไปที่วัดชินโต ทำพิธีชิจิ-โกะ-ซัน เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง แต่จัดงานศพในวัดพุทธ หรือร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาสอย่างสนุกสนาน

พิธีกรรมหรือประเพณีต่าง ๆ ทางศาสนานั้น ดูเหมือนจะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในชีวิตประจำวัน มากกว่าความหมายทางศาสนา ซึ่งคนญี่ปุ่นก็สามารถปฏิบัติตามประเพณีต่าง ๆ ของศาสนาที่แตกต่างกันได้ โดยไม่มีความรู้สึกขัดแย้งแต่อย่างใด

นอกจากนั้น ศาสนาชินโต ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติของญี่ปุ่น ไม่กีดกันหรือใจแคบกับศาสนาอื่น และการนำพุทธศาสนา ลัทธิขงจื้อ และคริสตศาสนานิกายคาธอลิค เข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 17 ก็สร้างความบาดหมาง ระหว่างผู้ที่นับถือศาสนาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในประวัติศาสตร์ทางศาสนาของญี่ปุ่นนั้น มีการสู้รบกันเพราะสาเหตุทางศาสนาค่อนข้างน้อยครั้ง

ลักษณะอีกสองประการของศาสนาในญี่ปุ่นคือ ยินยอมให้ผู้ที่นับถือศาสนาที่ต่างกันแต่งงานกันได้ และไม่สอนศาสนาในโรงเรียนโดยทั่วไป

ศาสนาชินโต
ศาสนาชินโตเป็นศาสนาที่เก่าแก่หรือเกิดมาพร้อมกับชาวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ คำว่า “ชินโต” หมายถึงวิถีของพระเจ้า ศาสนาชินโตมีความเชื่อที่ว่าวัตถุทุกอย่างในธรรมชาติและปรากฎการณ์ต่าง ๆ มีวิญญาณหรือเทพเจ้าสิงสถิตอยู่ หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นความเชื่อแบบลัทธิภูติผี ผสมผสานกับการบูชาบรรพบุรุษตามความเชื่อในศาสนาพุทธ

คำสั่งสอนในศาสนาชินโต นอกจากจะให้เคารพบรรพบุรุษแล้ว ก็ยังสอนให้เด็กรู้จักนบนอบต่อผู้ใหญ่ คนหนุ่มต้องเคารพนบน้อมต่อผู้สูงอายุ ผู้หญิงต้องเคารพผู้ชายซึ่งได้กลายมาเป็นระเบียบประเพณีที่ภรรยาต้องอยู่ในอำนาจของสามี การที่ชาวญี่ปุ่นโค้งให้กันอย่างอ่อนน้อมหลายครั้งนั้น ก็เป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงความสุภาพอ่อนน้อม ซึ่งเป็นผลมาจากศาสนาชินโตนี่เอง


ศาสนาพุทธ
พุทธศาสนา เผยแผ่สู่ประเทศญี่ปุ่นโดยผ่านประเทศจีนและเกาหลี ในประมาณกลางศตวรรษที่ 6 ในช่วงที่ศาสนาพุทธนิกายมหายานมาถึงญี่ปุ่น คำสอนของพระพุทธเจ้าก็ถูกปรับเปลี่ยนไปมากแล้ว และยิ่งเปลี่ยนแปลงมากขึ้นไปอีกเมื่อต้องเผชิญกับความเชื่อดั้งเดิมที่คนญี่ปุ่นนับถือกันอยู่ อย่างไรก็ตาม พุทธศาสนาได้ส่งอิทธิพลอย่างมากมายต่อญี่ปุ่นในเวลาต่อมา

ในปัจจุบันศาสนาพุทธในญี่ปุ่นแตกออกเป็น 56 นิกายใหญ่และอีก 170 นิกายย่อย ในวัดพุทธมีพระพุทธรูป ( บุทสึโซ ) ผู้คนที่มาวัดจะจุดธูปบูชาเบื้องหน้าพระพุทธรูป ครอบครัวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยตั้งแท่นบูชาพระและแท่นบูชาบรรพบุรุษไว้ในบ้าน ปีใหม่ก็ยังคงนิยมไปไหว้ขอพรที่วัดศาสนาพุทธกันอย่างเนืองแน่น


ศาสนาคริสต์

ศาสนาคริสต์เผยแผ่มายังญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1549 โดยกลุ่มมิชชันนารี นิกายคาทอลิก เนื่องจากบรรดาไดเมียว เจ้าผู้ครองแคว้นเห็นแก่ผลประโยชน์จากการค้าขายกับต่างประเทศ ที่จะได้รับเข้ามาพร้อม ๆ กับบาทหลวง จึงให้การต้อนรับพวกมิชชันนารีเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในปัจจุบันมีผู้นับถือศาสนาคริสต์ไม่มากเท่าใดนัก แต่ศาสนาคริสต์มีบทบาทในด้านการศึกษาอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาของสตรีและการศึกษาในระดับมัธยม ในปัจจุบันมีโรงเรียนคริสต์ราว 800 โรงเรียน มากกว่าโรงเรียนของศาสนาอื่น ๆ

เงินตรา

money Currency

ญี่ปุ่นใช้เงินสกุลเยน
เงินเหรียญที่ใช้มีตั้งแต่ 1, 5 , 10 , 50 , 100 และ 500 เยนตามลำดับ
ธนบัตรมีตั้งแต่ 1,000 , 2,000 , 5,000 และ 10,000 เยน

yen1000

ธนบัตร 1,000 เยน ( ขนาด 76 X 150 มิลลิเมตร )
บุคคลในภาพ : Mr. Soseki Natsume

yen5000

ธนบัตร 5,000 เยน ( ขนาด 76 X 155 มิลลิเมตร )
บุคคลในภาพ : Mr. Inazo Nitobe

yen10000

ธนบัตร 10,000 เยน ( ขนาด 76 X 160 มิลลิเมตร )
บุคคลในภาพ : Mr. Yukichi Fukuzawa

2000a yen2000

ธนบัตร 2,000 เยน เพิ่งนำออกใช้เมื่อเดือนกันยายน 2543

กฎหมายญี่ปุ่นระบุมิให้ร้านค้า ภัตตาคาร พาหนะขนส่งมวลชนสาธารณะ ธุรกิจบริการและพ่อค้า รับเงินสกุลต่างประเทศ ซึ่งคุณสามารถแลกเงินเยน ได้ที่ธนาคาร และสถานที่รับแลกเปลี่ยนเงินตรา รวมทั้งผู้รับแลกเปลี่ยนซึ่งได้รับอนุญาตจากทางการ โดยคุณต้องนำพาสปอร์ตไปแสดงในการแลกเงินนี้ด้วย

ในเมืองใหญ่ ๆ เช่นโตเกียว โอซาก้า เกียวโต จะรับบัตรเครดิตของสถาบันการเงินชั้นนำ เช่น อเมริกันเอ็กซ์เพรส ไดเนอร์สคลับ มาสเตอร์การ์ด และวีซ่า โดยไม่คิดค่าบริการเพิ่มสำหรับการใช้บัตร โดยร้านค้าและภัตตาคารที่ยอมรับบัตรเครดิต จะติดสติ๊กเกอร์บัตรเครดิตที่ยอมรับไว้หน้าร้าน

อื่นๆ

thaistudy Office Hours

เวลาทำการ

สถานที่ราชการ
เปิดทำการเวลา 8.30 หรือ 9.00 – 16.00 หรือ 17.00 น.

ที่ทำการไปรษณีย์กลาง
เปิดทำการวันธรรมดาเวลา 9.00 – 19.00 น.
วันเสาร์ เวลา 9.00 – 17.00 น.
วันอาทิตย์และวันหยุดต่างๆ เวลา 9.00 – 12.00 น.

ห้างสรรพสินค้า
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 19.30 น.หรือ 20.00 น.

ภัตตาคาร
เปิดสำหรับอาหารมื้อเที่ยง เวลา 11.30 -14.00 น.
มื้อค่ำ เวลา 17.00 – 21.00 หรือ 22.00 น.

บริษัทและสำนักงาน
เปิดทำการวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.00 -17.00 น.
บางแห่งอาจเปิดทำการช่วงเช้าวันเสาร์

ธนาคาร
เปิดทำการวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.00 – 15.00 น.


National Holidays

วันหยุดประจำชาติของญี่ปุ่น
หน่วยงานราชการ บริการสาธารณะต่าง ๆ รวมทั้งศูนย์ข่าวสารการท่องเที่ยว ขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนบริษัทเอกชน จะปิดทำการในวันหยุดราชการต่อไปนี้ ยกเว้นในกรณีของพิพิธภัณฑ์เป็นกรณีพิเศษ

วันหยุดประจำชาติ
1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่ Ganjitsu
จันทร์ที่ 2 ของเดือนม.ค. วันบรรลุนิติภาวะ Seijin no Hi
11 กุมภาพันธ์ วันชาติ Kenkoku Kinenbi
20 หรือ 21 มีนาคม วันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ Shunbun no Hi
29 เมษายน วันพระราชสมภพอดีตจักรพรรดิโชวะ Showa no Hi
3 พฤษภาคม วันที่ระลึกรัฐธรรมนูญ Kenpo Kinenbi
4 พฤษภาคม วันพฤษชาติ (วันสีเขียว ) Midori no Hi
5 พฤษภาคม วันเด็กแห่งชาติ Kodomo no Hi
จันทร์ที่ 3 ของเดือนก.ค. วันแห่งทะเล Umi no Hi
จันทร์ที่ 3 ของเดือนก.ย. วันคารวะผู้สูงอายุ Keiro no Hi
22 กันยายน วันหยุดประชาชาติ Kokumin no Kyujitsu
23 หรือ 24 กันยายน วันเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง Shubun no Hi
จันทร์ที่ 2 ของเดือนต.ค. วันสุขภาพและการกีฬาแห่งชาติ Taiiku no Hi
3 พฤศจิกายน วันวัฒนธรรมแห่งชาติ Bunka no Hi
23 พฤศจิกายน วันขอบคุณผู้ใช้แรงงาน Kinro Kansha no Hi
23 ธันวาคม วันพระราชสมภพของจักรพรรดิ Tenno Tanjobi


Tipping การให้ทิป

ตามระเบียบแล้ว ในญี่ปุ่นไม่มีการให้เงินค่าทิปใด ๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นกรณีการให้บริการพิเศษโดยเฉพาะ ส่วนพนักงานขนกระเป๋าตามสถานีรถไฟใหญ่ และสนามบินจะคิดค่าบริการราว 300 เยนต่อกระเป๋า สำหรับคนขับแท็กซี่ พนักงานโรงแรม รวมไปถึงร้านอาหารไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าทิป


Electricity กระแสไฟฟ้า

ญี่ปุ่นใช้ไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 100 โวลท์ ทั่วประเทศ แต่มีไซเคิลสองขนาด คือ ภาคตะวันออก รวมทั้งโตเกียวใช้ 50 รอบ ส่วนเมืองทางตะวันตก เช่น เกียวโต โอซาก้า และนาโงย่าใช้ 60 รอบ

 


โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น – ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น เจเอ็ดดูเคชั่น
แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นทุกระดับ โดยศิษย์เก่าญี่ปุ่น  ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน  โดยไม่คิดค่าดำเนินการใด ๆ

โทร. 02-267-7726
ปรึกษาเรื่องเรียนต่อญี่ปุ่น ต่อ 101-104
สอบถามคอร์สภาษาญี่ปุ่น ต่อ 111-112

ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับเจ้าหน้าที่ คลิกเลย  >> http://bit.ly/jed-line

 

Scroll to Top