และแล้วก็มาถึงคิวของแมวแล้วล่ะค่ะ ที่จะมาเล่าเรื่องราวและประสบการณ์การไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 10-16 กุมภาพันธ์ 2553
ครั้งนี้แมวมีโอกาสได้เดินทางไปพร้อมกับผู้บริหารของเจเอ็ดดูเคชั่นทั้งสองคนเลยค่ะ คือ Hasegawa San และพี่จูน เนื่องจากทางโรงเรียนของ Kyoto Institute of Culture and Language (KICL) ซึ่งมีการจัดประกวดสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่นเป็นประจำอยู่แล้ว ทุกๆ ปี แต่ปีนี้พิเศษจริงๆ ทางโรงเรียนได้เชิญผู้บริหารของเจเอ็ดดูเคชั่น ในฐานะที่เป็นสำนักงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการของโรงเรียน KICL และสถาบันในเครือ Uryuyama Group เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการพิเศษในการตัดสินการประกวดสุนทรพจน์ในครั้งนี้ด้วยค่ะ
ความเดิมตอนที่ 11 ของน้องทรายตอนที่ไปเยี่ยมโรงเรียน Kyoto Institute of Culture and Language(KICL)
http://www.jeducation.com/jvisit/?p=1444#more-1444
อาณาเขตโรงเรียนอยู่ติดกับมหาวิทยาลัย Kyoto University of Art and Design ที่อยู่ในเครือ Uryuyama Group ดังนั้นนักเรียนจึงสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยได้ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุด โรงอาหาร เช่นเดียวกับนักศึกษามหาวิทยาลัย และสถานที่ที่ใช้ในการจัดประกวดสุนทรพจน์ในครั้งนี้ก็อยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยเช่นกันค่ะ บรรยากาศภายในห้องดูกว้างขวาง นั่งสบาย ไม่อึดอัด ในห้องนี้บรรจุคนได้หลายร้อยคนเลยค่ะ
ถึงเวลาเริ่มการประกวดสุทรพจน์แล้วล่ะค่ะ มีผู้เข้าร่วมประกวดทั้งหมด 18 คน เป็นนักเรียนไทย 4 คน ที่เหลือเป็นนักเรียนชาติอื่นๆ อีก 12 คน ประเดิมด้วยนักเรียนไทยหน้าตาน่ารักคนแรกของเรากันเลยดีกว่าค่ะ
น้องแพร (ผู้เข้าประกวดคนที่ 1)
น้องเอ๋ น้องยูกิ ลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น
(นักเรียนเก่าเจเอ็ดดูเคชั่นเซ็นเตอร์)
ต๊ะ
(คนนี้ขอบอกว่า ฮาสุดๆ มั่นใจเกินร้อย ด้วยท่าทางและสีหน้า)
ภาพบรรยากาศในห้องประกวดสุนทรพจน์และผู้เข้าร่วมการประกวดทั้ง 18 คน
เป็นยังไงบ้างคะ แต่ละคนมีสไตล์เฉพาะตัวไม่แพ้กันเลยนะคะ
ในส่วนของคณะกรรมการพิเศษ นอกจากผู้บริหารของเจเอ็ดดูเคชั่นแล้ว ยังมีผู้บริหารของศูนย์แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นจากประเทศไต้หวันอีก 2 แห่งมาร่วมเป็นกรรมการด้วยค่ะ ดูท่าทางแต่ละท่านค่อนข้างลำบากใจกันเลย กับการตัดสินการประกวดในครั้งนี้
ระหว่างที่คณะกรรมการกำลังทำงานหนักในการตัดสินผลการประกวด มีโชว์การตีกลองญี่ปุ่น（たいこ）ของชมรมมหาวิทยาลัยให้ดูด้วยล่ะค่ะ
มือสมัครเล่น อยากลองตีกลองญี่ปุ่นบ้างค่ะ
กลองたいこนี้ ถือว่าเป็นที่นิยมมากสำหรับนักเรียนชาวต่างชาติ ทางมหาวิทยาลัยจึงให้นักเรียนชาวต่างชาติที่สนใจ เข้าชมรมนี้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าสมัครเลย ได้เรียนรู้ศิลปะการตีกลองแบบญี่ปุ่นแถมยังได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนกับนักศึกษาญี่ปุ่นและนักศึกษาชาติอื่น ๆ อีกด้วยค่ะ
สิ่งที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงแล้ว นั่นก็คือผลการตัดสินการประกวด ในการตัดสินครั้งนี้จะแบ่งผู้เข้าประกวดออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 คือ ผู้เข้าประกวดที่กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ในระดับชั้นต้น-ชั้นกลาง ส่วนกลุ่มที่ 2 คือผู้ที่กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นเตรียมสูง-ชั้นสูง เราลองมาดูกันเลยค่ะ นักเรียนไทยใครจะได้รับรางวัลอะไรกันบ้าง..
และแล้วชาติไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกนะคะ รับไปเลยค่ะ รางวัลที่ 1
ต๊ะได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 จากกลุ่มผู้เข้าประกวดทั้งหมด 18 คน
น้องแพรได้รับรางวัลที่ 1 ของกลุ่มผู้เข้าประกวดระดับชั้นต้น-ชั้นกลาง
น้องเอ๋ รับรางวัลพิเศษจากเจเอ็ดดูเคชั่น
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกับนักเรียนไทยที่เข้าประกวดทั้ง 4 คน
จากซ้ายไปขวา ฮาเซกาว่าซัง
น้องยูกิ(นักเรียนระยะยาวภาคเรียนเมษายน 2009)
น้องเอ๋(นักเรียนระยะยาวภาคเรียนเมษายน 2009)
ต๊ะ(นักเรียนระยะยาวภาคเรียนตุลาคม 2008)
น้องแพร (นักเรียนระยะยาวภาคเรียนตุลาคม 2009)
พี่จูน และแมว
จากที่ได้พูดคุยกับน้องยูกิก็ทราบมาว่า ระหว่างปิดเทอมในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาอาจารย์จะให้การบ้านนักเรียนทุกคนและทุกชั้นเรียนให้เขียนเรียงความหัวข้อ世界の言いたいこと (สิ่งที่อยากจะบอกกับโลก) และ きぼう (ความหวัง) ให้นักเรียนเลือกหัวข้อตามที่ตัวเองถนัด หลังจากนั้นอาจารย์จะตรวจและแก้ไขประโยคให้ง่ายและถูกต้องเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจมากขึ้น แล้วให้นักเรียนออกมาพูดหน้าห้องทีละคน จำลองสถานการณ์เหมือนวันประกวดจริง และให้เพื่อนในห้องร่วมกันโหวตให้กับเพื่อนที่เราคิดว่าเหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนของห้องเข้าประกวด นักเรียนที่ได้เป็นตัวแทนของห้องแต่ละคนจะใช้เวลาเตรียมตัวประมาณ 1-2 อาทิตย์ เพื่อฝึกฝนให้คล่องก่อนวันประกวดจริง นอกจากนักเรียนจะได้ฝึกใช้ภาษาญี่ปุ่นอย่างถูกต้องแล้ว นักเรียนยังยังได้ฝึกความกล้าแสดงออกอีกด้วยค่ะ
เห็นความตั้งใจและความพยายามกันของน้องๆ ทุกคนแล้ว ปลื้มใจแทนคุณพ่อและคุณแม่จริงๆเลย ทางเจเอ็ดดูเคชั่นเองขอแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับรางวัลและขอเป็นกำลังให้น้องๆ ที่กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ทุกๆคนเลยนะคะ