มาตามติดชีวิตนักเรียนใหม่ ของนักเรียนไทยที่โรงเรียน  Intercultural Institute of Japan  กันต่อนะคะ
ในวันนี้  มีพิธีเปิดภาคการศึกษาใหม่  ภาคเรียนฤดูใบไม้ผลิค่ะ

พิธีเปิดภาคการศึกษาฤดูใบไม้ผลิ ประจำปี 2013   ต้อนรับนักเรียนใหม่ซึ่งมาจากหลายหลากประเทศ   เริ่มต้นด้วยการกล่าวทักทายจาก Kato sensei อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนค่ะ    โดยจะมีนักเรียนปัจจุบันมาช่วยเป็นล่ามแปลเป็นภาษาต่าง ๆ  ได้แก่ภาษาอังกฤษ  ภาษาจีน และภาษาไทย   หลังจากนั้นก็เป็นการแนะนำคณะอาจารย์  เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน    รวมถึงเล่นเกมส์ตอบคำถามกันสนุก ๆ  เกี่ยวกับโรงเรียนในบรรยากาศที่เป็นกันเองค่ะ

 

หลังจากที่ได้ทำความรู้จักคณะอาจารย์  เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนแล้ว  คราวนี้ก็ถึงคราวที่จะต้องทำความรู้จักนักเรียนใหม่กันล่ะค่ะ   โดยนักเรียนทุกคนออกมาพูดแนะนำตัวเองค่ะ  แน่นอนว่า…ต้องพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ

 

หลังจากนั้น  ก็มีการแบ่งกลุ่มเดินทัวร์รอบโรงเรียนกันค่ะ   เพื่อให้รู้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงเรียนมีอะไร  อยู่ตรงไหนบ้างนะคะ

 

ทัวร์โรงเรียนกันเรียบร้อยแล้ว  กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง  คราวนี้เป็นการเล่นเกมส์เพื่อให้ทั้งนักเรียน  อาจารย์และเจ้าหน้าที่ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นค่ะ   เรียกได้ว่าเป็นพิธีเปิดภาคการศึกษาที่สนุกและเป็นกันเองอย่างมากทีเดียวล่ะค่ะ

 

สำหรับผลการสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่น   เพื่อที่จะได้ทราบว่าอยู่ชั้นเรียนระดับไหนนั้น   ทางโรงเรียนได้ติดประกาศไว้ให้ทราบในวันต่อมาค่ะ    การแบ่งชั้นเรียนนั้น  นักเรียนที่เรียนระดับชั้นต้นถึงระดับกลาง  จะเรียนตอนบ่าย ตั้งแต่เวลา 13:25 – 17:10 น.  ส่วนนักเรียนที่เรียนระดับชั้นกลางสูงขึ้นไป  จะเรียนตอนเช้า  ตั้งแต่เวลา 9:20 – 13:05 น.ค่ะ

ว่าแต่…สองสาวไทยอยู่ชั้นไหนกันเอ่ย

 

ในส่วนของหนังสือเรียน  ทางอาจารย์ผู้สอนจะเป็นผู้แจ้งให้ทราบว่าต้องซื้อหนังสืออะไรบ้าง  และมาซื้อได้ที่สำนักงานของโรงเรียนที่ชั้น 3 ค่ะ   อ๊ะ… พอดีได้เจอกับน้อง ๆ นักเรียนซึ่งเรียนจบมัธยมปลายที่เมืองไทยและได้ทุน ODOS  ของรัฐบาลไทยมาเรียนภาษาญี่ปุ่นที่โรงเรียนอินเตอร์คัลท์นี้   เพื่อเตรียมตัวสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นค่ะ    (  เข้าเรียนตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว  รวม 8 คน ) มาซื้อหนังสือเรียนพอดีค่ะ เลยขอบันทึกภาพน้อง ๆ หน่อยนะคะ    หลังจากเรียนมาแล้วหกเดือน    ตอนนี้น้อง ๆ  กำลังเริ่มเข้าเรียนในระดับกลาง   ส่วนชายหนุ่มด้านหลังนั่นคือ Sasaki sensei  ขวัญใจนักเรียนค่ะ  ^^

 

ที่สำนักงานชั้น 3 นี้  ไม่ว่านักเรียนจะมีเรื่องอะไรก็ตาม ก็จะมาสอบถามได้กับเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนนะคะ   ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาอังกฤษ  จีน และเกาหลีได้    ส่วนภาษาไทย… อ่า… พูดเป็นคำ ๆ ได้นิ้ดโหน่ยค่ะ  ^^   แต่เมื่อมาถึงญี่ปุ่นแล้วก็ต้องพยายามสื่อสารด้วยภาษาญี่ปุ่นให้มากที่สุดนะคะ   แม้นักเรียนจะพูดอธิบายเป็นประโยคยาว ๆ ไม่ได้   แค่ขอให้พยายามพูดเป็นคำ ๆ    เจ้าหน้าที่ทุกคนก็พยายามที่จะเข้าใจสิ่งที่นักเรียนต้องการสื่อสารนะคะ

( ภาพล่าง ) น้องออม…นักเรียนไทยเรามีแผลนิดหน่อยที่เท้า  เลยมาขอพาสเตอร์ปิดแผลค่ะ

 

(ภาพล่าง)  ป้ายประกาศรับสมัครพนักงานทำงานพิเศษ หรือที่ภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า อะรุไบโตะ  ( アルバイト มาจากภาษาเยอรมัน arubeit )  ของร้านข้าวหน้าเนื้อ Yoshinoya  ค่ะ    เนื่องจากทางโรงเรียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับร้านโยชิโนยะค่ะ    นักเรียนของโรงเรียนอินเตอร์คัลท์เลยมีโอกาสที่จะได้รับการแนะนำเข้าทำงานพิเศษที่ร้านโยชิโนยะได้ไม่ยาก   ซึ่งจากที่ได้ฟังรุ่นพี่นักเรียนไทยที่เคยทำงานพิเศษที่ร้านโยชิโนยะ   บอกว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากค่ะ  เพราะเป็นการทำงานที่เข้มงวด   เป็นระบบ  ทำให้ได้เรียนรู้วิถีการทำงานแบบญี่ปุ่นจริง ๆ  ทั้งยังได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ด้วยค่ะ

 

การทำงานพิเศษที่ญี่ปุ่น
ตามระเบียบของกองตรวจคนเข้าเมืองแล้ว   นักเรียนต่างชาติที่มาศึกษาต่อที่ญี่ปุ่นระยะยาว  (วีซ่านักเรียนต่างชาติ : 留学 )  สามารถที่จะทำงานพิเศษได้นะคะ   โดยมีเงื่อนไขว่า
–   จะต้องได้รับอนุญาตให้ทำงานพิเศษก่อน   ซึ่งปัจจุบันนี้การขออนุญาตทำงานพิเศษไม่ได้ยากเท่าสมัยก่อน  เนื่องจากสามารถขอได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง  ตอนที่เข้าประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก  พร้อมกับรับบัตรไซริวการ์ดค่ะ   โดยทางเจ้าหน้าที่จะประทับตราอนุญาตทำงานพิเศษไว้ที่ด้านหลังบัตร

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะได้รับอนุญาตตั้งแต่ที่สนามบินนะคะ    คนที่ไม่ได้รับอนุญาตก็มีเช่นกันค่ะ     แต่หลังจากเข้าประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว   สามารถไปทำเรื่องขออนุญาตทำงานพิเศษได้ค่ะ   โดยสามารถปรึกษากับทางโรงเรียนเกี่ยวกับขั้นตอนการขออนุญาตทำงานพิเศษได้นะคะ
–    อนุญาตให้ทำงานได้ไม่เกิน  28  ชั่วโมงต่อสัปดาห์   ซึ่ง 28 ชั่วโมงนี้ก็ถือว่ามากเพียงพอแล้วนะคะ  เพราะไหนจะต้องทบทวนบทเรียน  เตรียมบทเรียนล่วงหน้า และทำการบ้านอีก

–    ไม่อนุญาตให้ทำงานในสถานบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นบาร์   เกมส์เซ็นเตอร์  รวมถึงสถานที่ที่มีลักษณะของการพนัน เช่นร้านปาจิงโกะ
สำหรับตอนนี้ จบแค่นี้ก่อนนะคะ

 

อ่านต่อ >>  ตามติดนักเรียนใหม่ ร.ร. Intercult ภาคเรียนเมษายน 2013 ตอนที่  3
เรื่องการเปิดบัญชีธนาคารและการซื้อโทรศัพท์มือถือ คลิกที่นี่