Q : ไม่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นสมัคร J-Challenge ได้มั้ย
A : ได้ค่ะ แต่ในทีมจำเป็นต้องมี 1 คนที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่น เนื่องจากคำถามจะมีทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาไทย หากไม่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นเลย ก็จะไม่สามารถตอบคำถามได้
Q : คำถามในการแข่งขันเกี่ยวกับอะไร แนวข้อสอบเป็นอย่างไร
A : คำถามของ J-Challenge จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
1. ความรู้ทางภาษาญี่ปุ่น
ความรู้ภาษาญี่ปุ่นประมาณ N5-N4
2. เรื่องทั่วไปเกี่ยวกับญี่ปุ่น
เป็นคำถามที่เกี่ยวกับญี่ปุ่นในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี กีฬา ดนตรี นักร้อง เกม อนิเมชั่น สถานที่ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง ข่าวสารปัจจุบัน ฯลฯ
J-Challenge ไม่ได้เป็นการแข่งขัน หาผู้ที่เก่งภาษาญี่ปุ่นที่สุด แต่เป็นการค้นหาผู้เรียนภาษาญี่ปุ่น ที่สนใจและรอบรู้เรื่องญี่ปุ่น ผู้ชนะไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดเสมอไป แต่อาจจะเป็นคนที่มีความ “ชอบญี่ปุ่น” มากๆ ก็เป็นได้
Q : เพื่อนร่วมทีมต้องอยู่สถาบันเดียวกันมั้ย
A : เพื่อนร่วมทีมจะต้องอยู่โรงเรียนเดียวกัน (จะคนละชั้นหรือคนละห้องก็ได้)
Q : ต้องเสียค่าสมัครแข่งขันมั้ย
A : ไม่ต้องเสียค่าสมัครใดๆ
Q : มีความรู้ภาษาญี่ปุ่น แต่ยังไม่เคยสอบวัดระดับ มาสมัครได้มั้ย
A : ได้เลยค่ะ ขอแค่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นโดยประมาณที่แจ้งไว้ก็พอ
Q : ในหนึ่งโรงเรียนสมัครได้กี่ทีม
A : สมัครได้ไม่จำกัดจำนวนทีม
Q : ถ้าไม่มีอาจารย์ที่ปรึกษารับทราบตอนสมัครลงแข่งได้มั้ย
A : ไม่ได้ค่ะ ต้องมีอาจารย์รับทราบด้วยนะคะ และไม่อนุญาตให้ใช้ชื่ออาจารย์ที่ไม่ใช่อาจารย์ในโรงเรียนตัวเอง
Q : ที่โรงเรียนมัธยมที่เรียนอยู่ ไม่มีอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่น สามารถสมัครได้มั้ย
A : อาจารย์ที่ปรึกษาในทีม จำเป็นต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นด้วยนะคะ เนื่องจากอาจารย์จะต้องเดินทางไปญี่ปุ่นกับนักเรียนเพื่อที่จะดูแลและให้คำปรึกษานักเรียนได้ เมื่อเดินทางไปเรียนที่ญี่ปุ่น
Q : วันแข่งอาจารย์ต้องมาด้วยมั้ย
A : ในวันแข่งขัน อาจารย์จะมาหรือไม่มาก็ได้ (แต่ถ้ามาน้องๆ ก็จะมีกำลังใจมากขึ้นเย้ออออ) แต่หากน้องชนะการแข่งขัน อาจารย์จะต้องเดินทางไปญี่ปุ่นกับน้องๆ ด้วย
Q : เริ่มแข่งตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง
A : การแข่งขันจะแบ่งเป็น 4 รอบ โดยมีกำหนดการดังนี้
รอบคัดเลือกรอบที่ 1
จะจัดขึ้น 2 วัน โดยมีกำหนดการดังนี้
- ภาคกลาง
วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2024
ณ Meeting Room 1- 2 พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน - ภาคอื่น ๆ
วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2024
ณ Meeting Room 1- 2 พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน
ภายในงานมหกรรมญี่ปุ่น NIPPON HAKU BANGKOK 2024
ผู้สมัครจะทราบรอบในการแข่งขันของทีมตนเอง ภายใน 1 สัปดาห์หลังจากปิดรับสมัครทาง Email ยืนยัน โดยกรรมการผู้จัดการแข่ง จะเป็นผู้คัดเลือกโดยอ้างอิงจาก “จังหวัดที่ตั้งของโรงเรียนผู้สมัคร” ที่ได้ระบุทางแบบฟอร์มสมัครเข้าร่วม
(การประกาศรอบถือเป็นที่สิ้นสุด ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรอบแข่งขันในทุกกรณี)
รอบคัดเลือกรอบที่ 2 รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ
จัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2024 ณ ชั้น 5 พารากอนฮอลล์ สยามพารากอน ภายในมหกรรมญี่ปุ่น NIPPON HAKU BANGKOK 2024
Q : แข่งแล้วประกาศผลเลยมั้ย
A : การแข่งขันทั้งหมดจะเสร็จสิ้นและได้ผู้ชนะเลิศภายในวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2024 เท่านั้น
Q : วันแข่งขันต้องเอาบัตรนักเรียนมาด้วยหรือเปล่า
A : ต้องนำบัตรที่มีรูปถ่ายมาด้วยค่ะ หรือจะใช้เป็นบัตรประชาชนก็ได้
Q : วันแข่งขัน ถ้าเพื่อนมาไม่ได้ ขอเปลี่ยนคนได้มั้ย
A : หลังจากลงทะเบียนสมัครแล้ว จะไม่อนุญาตให้มีการเปลี่ยนรายชื่อสมาชิกในทีมได้ค่ะ
Q : วันแข่งขัน ใส่ชุดอะไร
A : ชุดนักเรียน, ชุดพละศึกษา หรือ ชุดประจำสถาบันของตัวเอง
Q : ผู้ชนะเลิศจะได้ไปญี่ปุ่นเมื่อไร
ทีมที่ชนะเลิศพร้อมอาจารย์ที่ปรึกษา จะได้เดินทางไปเรียนภาษาญี่ปุ่นพร้อมพักโฮมสเตย์ที่ Yono-Gakuin Japanese Language School จังหวัด Saitama เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เดินทางภายใน 10 สิงหาคม 2025
Q : รางวัลที่ได้ไปญี่ปุ่นรวมและไม่รวมอะไรบ้าง
สิ่งที่รวมในรางวัล
– ค่าเรียนภาษาญี่ปุ่น 2 สัปดาห์ ณ สถาบันที่กำหนด
– ค่าที่พักโฮมสเตย์ พร้อมอาหารวันละ 2 มื้อ (เช้าและเย็น)
– ค่าพาหนะเดินทางจากสนามบินไป-กลับบ้านโฮสต์
– ค่าตั๋วเครื่องบิน ไปกลับ กรุงเทพฯ – ญี่ปุ่น
สิ่งที่ไม่รวมในรางวัล
– ค่าทำหนังสือเดินทาง
– ค่าซิมและอินเตอร์เนต
– ค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ญี่ปุ่น เช่น ค่าเดินทางในญี่ปุ่น , ค่าอาหารกลางวัน , ซื้อของใช้ส่วนตัว , ไปเที่ยว
– ค่าน้ำหนักกระเป๋า กรณีน้ำหนักเกินที่ทางสายการบินกำหนด
– ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง
Q : ผู้ชนะเลิศจะต้องทำตามเงื่อนไขอะไรในในการไปญี่ปุ่น
A: ผู้ชนะเลิศแต่ละคน
จะต้องบันทึกเล่าเรื่องราวการเดินทาง หรือความประทับใจ และเผยแพร่ผ่านสื่อ Social Media ของตนเอง และอนุญาตให้เผยแพร่ผ่านสื่อ Social Media ของ JChallenge และ Jeducation พร้อมกัน
โดยสามารถนำเสนอในรูปแบบภาพ การเขียนเล่าเรื่อง หรือ วิดีโอ ตามความยาวที่คณะกรรมการกำหนด โดยสามารถเลือกได้ทั้งช่องทาง Facebook, Tiktok หรือ Youtube อย่างในอย่างหนึ่ง
Facebook : Post 2 ครั้ง
เขียนบรรยายความยาว 2,000 อักขระ ขึ้นไปต่อโพสต์ พร้อมประกอบภาพไม่ต่ำกว่า 10 ภาพต่อโพสต์
Tiktok : กี่คลิปก็ได้
แต่รวมความยาวแล้วไม่ต่ำกว่า 10 นาที ตัดต่อ พร้อมบรรยายด้วยเสียง หรือขึ้นคำบรรยายประกอบ
Youtube : 1 คลิป
คลิปความยาวไม่ต่ำกว่า 10 นาที ตัดต่อ พร้อมบรรยายด้วยเสียง หรือขึ้นคำบรรยายประกอบ