บันทึกประสบการณ์ของน้องมะตูม ผู้ชนะจากการแข่งขันตอบปัญหาภาษาญี่ปุ่น J-Challenge 2018 กับการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ที่สถาบัน College of Business and Communication ( CBC ) จังหวัด Kanagawa วันที่ 7 ที่ญี่ปุ่น..
DAY 7 : 2/6
วันนี้มิวชวนไปปีนเขา ก็เลยต้องรีบตื่นแต่เช้ามานั่งรถไฟไปภูเขาทาคาโอะ ตอนก่อนมาญี่ปุ่น เราคิดว่าอากาศไม่น่าหนาวมาก เลยหยิบคาร์ดิแกนกันหนาวมาแค่ตัวเดียวจากไทย แต่โฮสต์บอกว่าที่เขาทาคาโอะ ถ้าปีนไปสูงๆมันจะหนาวมากเลยนะ เลยให้เสื้อขนเป็ดมาหนึ่งตัว 5555 และที่ต้องรีบออกแต่เช้าเพราะแถวบ้านโฮสต์เรา รถไฟขบวนที่ไปเขาทาคาโอะมันมาไม่ค่อยถี่ ถ้าตกขบวนนึงก็คือจะต้องรอหลายนาทีเลย แล้วนั่งประมาณชั่วโมง นัดกับมิวไว้ 9.30 เพื่อกันตกรถไฟ เลยต้องรีบออก แล้วก็นั่งรถไฟไปเรื่อยๆจนถึงภูเขา
จริงๆคือมาถึงก่อนเวลานัด เลยเดินเล่นแถวนั้น (แทบจะไม่มีอะไรแหละ เพราะมันเป็นภูเขา 5555) เจออาสาสมัครที่น่าจะเป็นคนแถวๆนั้น มารวมกลุ่มกันเหมือนจะช่วยกันเก็บขยะ + อนุรักษ์พื้นที่ อะไรงี้ด้วย เป็นเหล่าลุงๆป้าๆที่น่ารักดี คนที่มาปีนเขาก็มีอุปกรณ์พร้อมกันมาก ทั้งรองเท้าแทร็กกิ้ง ทั้งไม้ที่ใช้แทร็กกิ้ง และอีกมากมาย
เดินเล่นอยู่แถวๆนั้นจนมิวมา แล้วก็เริ่มเดินขึ้นเขาด้วยกัน ตอนไป เราเลือกรูทขึ้นรถเคเบิ้ลคาร์ไป เป็นเหมือนรถรางคันใหญ่ๆที่ไต่ขึ้นเขาไปเรื่อยๆ (ตอนแรกคิดว่าจะมาเป็นกระเช้า)
พอสุดทาง ก็เลือกที่จะเดินต่อในเส้นทางเบสิค จริงๆเขานี้เดินได้หลายเส้นทางมาก ทั้งทางแอดว้านซ์แบบสำหรับนักปีนเขาที่อุปกรณ์ครบ หรือทางปกติสำหรับคนธรรมดาแบบเรา ที่เขาจะทำเป็นเส้นทางเดินง่ายๆให้เดินขึ้นไปได้เลย ที่ชอบญี่ปุ่นอย่างนึงคืออากาศดีมาก ถึงจะเดินไกลขนาดไหนแต่ก็ยังสามารถเดินได้ชิลๆเพราะไม่ร้อนเหมือนที่ไทย ตอนเดินขึ้นเขาก็เดินชิลๆกับมิวไปเลย คนที่มาปีนเขาก็มีทั้งเด็กยันคนแก่ เหมือนเป็นจุดท่องเที่ยววันหยุดของคนที่นี่ นอกจากนี้ ที่เจออีกเยอะมากๆก็คงจะเป็นคนจูงหมามาเดินเล่น ระหว่างทางขึ้นเขาก็จะมีศาลเจ้าอยู่ตามทางตลอด และเขาลูกนี้เหมือนขึ้นชื่อเรื่องเทงงุ ตามศาลเจ้าก็จะมีพวกรูปปั้นเทงงุ พวกของที่ระลึกที่เป็นรูปเทงงุขาย
และที่ตกใจมากๆเกี่ยวกับที่นี่คือ ยิ่งขึ้นสูงไปเท่าไหร่ น้ำเปล่าก็ยิ่งแพงมาก แพงจริงๆ จากน้ำขวดละ 100 เยนที่ตีนเขา พอถึงยอดเขาราคาเพิ่มเป็นเท่าตัว หลังจากนั้นพอถึงยอดเขาก็แวะถ่ายรูป + นั่งพักกัน
จากสถานีเคเบิลคาร์มาถึงยอดเขาก็ประมาณ 2 กิโลได้ แต่ตอนกลับ เราตัดสินใจว่าจะเดินลงกัน ไม่นั่งเคเบิลคาร์แล้ว และพบว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดมาก ขากลับตอนเดินลงคือหลังจากผ่านสถานีรถรางไป เราต้องไปเดินบนทางอีกเส้น ซึ่งมันค่อนข้างอ้อมภูเขามาก และที่สำคัญคือตรงทางเดินมันเอาหินมาปักๆไว้ (เข้าใจว่าน่าจะทำกันลื่น) แต่สำหรับเราที่ไม่ได้ใส่รองเท้าปีนเขาขึ้นมา ใส่แต่รองเท้าผ้าใบธรรมดาคือนรกมาก เจ็บเท้าสุด ๆ แล้วต้องทนเดินเจ็บๆเท้า แบบนี้ไปจนถึงตีนเขา ระยะทางประมาณ 4 กิโล เล่นเอาเข็ดเลย ครั้งหน้าจะซื้อตั๋วเคเบิลคาร์ทั้งรอบไป – กลับแล้ว 555555 และเนื่องจากเราหิวมาก เพราะตอนเช้ารีบออก กินมาแค่ขนมปังแผ่นเดียว เลยซื้อดังโงะกินที่ตีนเขา
ลงมาถึงตรงนั้นก็ประมาณเที่ยงพอดี มิวอยากไปอิเคบุคุโระต่อ เลยตัดสินใจกันว่าจะไปหาข้าวเที่ยงกินที่อิเคบุคุโระ
พอถึงอิเคบุคุโระก็เดินเล่นเล็กน้อยแล้วหาที่กินข้าวเที่ยงกัน เหมือนเรามาผิดเวลายังไงก็ไม่รู้ ทุกร้านเต็มหมดเลย 5555 สุดท้ายเลยจบที่ร้านอาหารจีนที่ไม่มีคิว หลังจากนั้นก็แยกกับมิว เรากะจะแวะชิบุยะก่อนกลับบ้านแป๊ปนึง เพราะจากสถานีชิบุยะ สามารถนั่งรถไฟตรงมาที่สถานีใกล้ๆบ้านโฮสต์เราได้ เลยกลับไม่ค่อยลำบากเท่าไหร่ พอถึงชิบุยะเราก็นั่งรถไฟไปต่อที่ซังเก็นจายะ สถานีใกล้ๆ ที่แวะมาที่นี่เพราะว่าใช้เป็นโลเคชั่นของเกมที่ชอบ กะจะมาเดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศที่นี่ซักหน่อย ที่ซังเก็นจายะก็ค่อนข้างเงียบสงบ เป็นย่านพักอาศัย + มีคาเฟ่ต่างๆมากมาย น่ารักดี
หลังจากนั้นก็กลับไปชิบุยะ ไปเปลี่ยนรถไฟกลับไปคาวาซากิ พอถึงบ้านโฮสต์ปุ๊ป โฮสต์ก็จัดทาโกยากิปาร์ตี้ให้ เลยนั่งปิ้งทาโกยากิกินกันต่อ
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่นโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999 ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง ไม่มีค่าดำเนินการใดๆ
รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)
ติดต่อสอบถาม – สมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น
สาขาสีลม โทร. 02-2677726 ต่อ 101-104
สาขาอโศก โทร. 02-665-2969
email : ask@jeducation.com