บันทึกประสบการณ์ของน้องมะตูม ผู้ชนะจากการแข่งขันตอบปัญหาภาษาญี่ปุ่น J-Challenge 2018 กับการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ที่สถาบัน College of Business and Communication ( CBC ) จังหวัด Kanagawa วันที่ 3 ที่ญี่ปุ่น..

 

DAY 3 29/5

 

วันนี้ถามทางจากโทโมโกะซัง จนมั่นใจว่าจะไม่หลงแล้ว พบว่าที่เราขึ้นบัสผิดป้ายนั้นเพราะมันมีป้ายบัสชื่อเดียวกัน แต่รถวิ่งคนละทางกัน แล้วเราขึ้นจากป้ายฝั่งที่มันวิ่งไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางไปโรงเรียน เลยไปผิด ป้ายที่ถูกต้องคือต้องเดินข้ามถนนจากบ้านไปซักพักถึงจะเจอ ก็คือยอมแพ้แล้ว ใครมันจะไปรู้ว่าป้ายชื่อเดียวกัน 55555555

เนื่องจากทำการบ้านมาดี วันนี้เลยถึงโรงเรียนเร็วมาก ตั้งแต่ 8.30 ซึ่งจริง ๆ เรียน 9.30 เลยเดินฆ่าเวลา เที่ยวมินิมาร์ทแถว ๆ โรงเรียนไป

ในโรงเรียนนี้ นักเรียนส่วนใหญ่เป็นคนไต้หวัน ประมาณ 80% ของห้อง รองลงมาก็มีจีน ฮ่องกง เรียกว่าเวลาพักคือได้ยินแต่ภาษาจีน 55555 มีคนไทยเล็กน้อย ประมาณ 2-3 คนต่อห้อง นอกจากนี้ก็มีชาติอื่น ๆ เช่น เวียดนาม อินโด เจอแต่เด็กเอเชีย ไม่เจอฝั่งตะวันตกเลย ในห้องเรียนก็จะมีกฎคือ ตลอดเวลาเรียนห้ามพูดภาษาชาติตัวเอง ให้ใช้แต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น (แต่เอาจริง ๆ เด็กจีนก็คุยจีนกันในคาบแหละ 5555) ห้ามเอามือถือมาเล่น ห้ามกินขนมอะไรต่าง ๆ ในห้อง อนุญาตแค่เครื่องดื่ม แต่เราก็เห็นฝ่ามาหมดทุกอย่าง 5555 เรียนเป็นเวลา 50 นาที สลับกับพัก 10 นาที เรื่อยๆ

ที่ไม่ชอบในโรงเรียนนี้มีอยู่อย่างนึง คือทุกชั้นจะมีมุมสูบบุหรี่ แล้วมันอยู่ติดกับห้องเรียน + ห้องน้ำมาก เรียกว่าถ้าเรียนอยู่ห้องตรงนั้นหรือไปเข้าห้องน้ำ ก็จะได้กลิ่นบุหรี่ไปตลอดทาง ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกลิ่นบุหรี่

วันนี้เป็นวันเรียนวิชาเลือก ที่นักเรียนในโรงเรียนสามารถลงเรียนในวิชาที่ตนสนใจได้ แต่เพราะเรากับมิวโดนให้เรียนติว N1 ก็เลยต้องเข้าคลาสตามที่เขาจัดมาให้ โดยจะแบ่งเป็นช่วงเช้าเรียนแกรมม่ากับคำศัพท์ แล้วช่วงบ่ายเรียนการอ่านกับการฟัง(รวมเป็นวิชาเดียวกัน)

วิชาที่เรียนวิชาแรกคือแกรมม่า เรียนกับครูผู้ชาย เรียนแบบสอนจากตัวแกรมม่าในบทเรียน แล้วเรียกถามให้แต่งประโยค ซึ่งเราค่อนข้างโอเค เพราะตอนสอนเรื่องแกรมม่าตัวที่คล้าย ๆ กัน เขายกตัวอย่างอธิบายได้ค่อนข้างละเอียดดี เรียกว่าเป็นวิชาที่เราโอเคที่สุดจากใน 3 อัน

หลังจากนั้นก็เรียนคำศัพท์ ซึ่งเขาให้ทบทวนมาก่อนหน้า แล้วมารีวิว + ทำแบบฝึกหัดในคาบเรียนกัน ซึ่งส่วนตัวเราคิดว่ามันฟีลเดียวกับอ่านเองแหละ ไม่ค่อยได้อะไร เพราะศัพท์ก็เขียนคำแปลเป็นภาษาอังกฤษกำกับไว้ให้อยู่แล้ว อาจารย์ก็แทบไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่ม เป็นคาบที่ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ แต่ก็เข้าใจแหละ เพราะอาจารย์ที่สอนในคาบก็พูดว่า ศัพท์มันเป็นเรื่องที่ต้องกลับไปทบทวนเอง ไม่ใช่อะไรที่สอนในคาบแล้วจะรู้เรื่อง เลยไม่ค่อยสอนอะไรเท่าไหร่ + เน้นไปให้ทำแบบฝึกหัดมากกว่า

หลังจากนั้นมีพักเที่ยงเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ก็เลยออกไปหาอะไรกินกับมิวที่แถวสถานี JR แล้วเดินเล่นแถวนั้นไปเรื่อย ๆ แล้วก็กลับมาเรียนวิชาสุดท้าย เป็นวิชาการอ่านการฟังที่สอนรวมกัน และเป็นวิชาที่เราชอบน้อยที่สุดใน 3 อัน 555555555

เริ่มมาอาจารย์ก็จะจับเวลา แล้วให้เรานั่งทำบทอ่านที่เขาสั่งไปเรื่อยๆเลย แล้วเฉลยในห้อง ซึ่งเฉลยมันแค่เฉลยคำตอบอะ มีอธิบายคำศัพท์กับพวกแกรมม่าอะไรแค่เล็กน้อย แล้วก็ตัดไปจับเวลาให้ทำบทอ่านบทถัดไปต่อเรื่อยๆ  ซึ่งสำหรับเรามันไม่ค่อยต่างอะไรกับการนั่งทำเองที่บ้าน

หลังจากนั้นก็เป็นเรียนการฟัง ซึ่งก็คือการเปิดเทปแบบข้อสอบจริง ๆ  แล้วนั่งทำไปเรื่อยๆเช่นกัน ซึ่งวิธีการเฉลยก็คล้ายกับการอ่าน ข้อดีก็คงเหมือนการจำลองข้อสอบแบบในสถานการณ์จริงมั้ง แบบเรียนที่ใช้ก็ค่อนข้างดีอยู่ แต่ก็เหมือนด้านบน เรารู้สึกว่ามันไม่ค่อยต่างกับการนั่งอ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัดเองเท่าไหร่

หลังจากนั้นก็เลิกเรียน เนื่องจากวันนี้เรียนเต็มวัน ไม่ค่อยอยากไปไหนไกล เลยไปเดินเล่นที่ห้าง Lazona แถวๆนั้น (ที่คาวาซากิตรงโซนโรงเรียนมีห้างเยอะมาก) และไปดูโคนันมูฟวี่ 23 ก่อนกลับบ้าน ภาคนี้ก็สนุกดี และเพราะหนังเข้ามานานแล้ว เลยไม่ค่อยมีคนดู ทั้งโรงนั่งกันประมาณ 10 คนเอง ประทับใจโรงหนังญี่ปุ่นอย่างนึง คือเขามีเบาะรองนั่งเด็ก + ผ้าห่ม ให้หยิบฟรีและเอาไปใช้ในโรงได้นี่แหละ

 

 

ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น

เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่นโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999  ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง  ไม่มีค่าดำเนินการใดๆ

รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)

ติดต่อสอบถาม – สมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น
สาขาสีลม โทร. 02-2677726 ต่อ 101-104
สาขาอโศก โทร. 02-665-2969
email : ask@jeducation.com