บันทึกประสบการณ์ของน้องอีฟ ผู้ชนะจากการแข่งขันตอบปัญหาภาษาญี่ปุ่น J-Challenge 2018 กับการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ที่โรงเรียน Yono Gakuin Japanese Language School จังหวัด ไซตามะ วันที่ 2 ที่ญี่ปุ่น..
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 (Day 2)
วันนี้เป็นวันแรกของการเข้าเรียนค่ะ เมื่อคืนเราลืมตั้งนาฬิกาปลุก โอก้าซังก็เลยขึ้นมาปลุกค่ะ เพราะไม่เห็นว่าลงไปกินข้าวสักที
มื้อเช้าวันนี้เป็นปังหมูทอดกับนมสตรอว์เบอร์รี่ที่เราติดใจกับนมยี่ห้อนี้มากเลยค่ะ เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกโอก้าซังก็เลยสอนวิธีการเดินทางมาโรงเรียนค่ะ การเดินทางของเราก็จะเริ่มโดยการออกจากบ้านมาป้ายรถเมล์ประมาณ 7 นาที ป้ายรถเมล์ที่เราต้องขึ้นชื่อว่า Hachioji ค่ะ ต่อจากนั้นก็นั่งรถบัสมาลงที่สถานีไซตามะชินโตชินประมาณ 20 นาที แล้วก็เดินจากสถานีมาที่โรงเรียนประมาณ 5 นาทีค่ะ
แต่ว่าพอไปถึงโรงเรียน ที่ออฟฟิศบอกว่าเราต้องไปเรียนที่อีกตึกนึงที่ต้องเดินไกลกว่า เจ้าหน้าที่ที่ถ้าเราจำชื่อไม่ผิดก็ชื่อโยโกฮาม่าซังก็พาเราไปแล้วก็บอกว่าเลิกเรียนให้เรากับโฟร์กลับมาออฟฟิศหน่อยน่ะค่ะ
ตอนแรกเรานึกว่าเรากับโฟร์เรียนคนละคลาสกัน แต่สุดท้ายก็ได้เรียนคลาสเดียวกันค่ะ ในคลาสรวมเรา 2 คนก็มีทั้งหมด 19 คนค่ะ มีคนไทย 2 คน คนจีน 1 คน คนไต้หวัน 1 คน คนฟิลิปปินส์ 1 คน คนเกาหลี 1 คน ที่เหลือก็เป็นคนเวียดนามทั้งหมด ตอนพักก็ได้ยินแต่ภาษาเวียดนามจนรู้สึกว่าเป็นชนกลุ่มน้อยไปเลยค่ะ วันนี้ก็ได้เรียนการเขียนเรียงความที่เราเคยได้เรียนตอนอยู่ที่ไทยก็เลยไม่เครียดมาก คลาสเริ่มเรียน 9 โมงเช้า เลิกเรียนบ่ายโมงค่ะ
พอเลิกเรียนเรากับโฟร์ก็ไปที่ออฟฟิศค่ะ เจอพี่ปุ้ยที่เป็นเจ้าหน้าที่ของทางโรงเรียน ก็คุยเรื่องนู่นนี่นั่นสักพักใหญ่ๆเลยค่ะ ทั้งเรื่องโรงเรียน โฮสต์ แล้วก็ญี่ปุ่น
เสร็จแล้วพวกเราก็ไปทานราเมงกันแถวๆห้าง cocoon ค่ะ ซึ่งห้างนี้อยู่ใกล้สถานีไซตามะชินโตชิน ราเมงของญี่ปุ่นเราคิดว่ารสชาติไม่เหมือนกับของไทยเท่าไหร่ ค่อนข้างจะเค็มกว่าแล้วก็มันกว่าค่ะ
หลังจากนั้นก็ไปเดินดูของในห้างค่ะ แนะนำใครที่มาญี่ปุ่นอย่าเข้า Loft เด็ดขาดค่ะ เพราะจะหมดเงินไม่รู้ตัว มีแต่ของน่ารักๆเยอะมาก เราหมดไปหลายพันเยนเหมือนกันค่ะ มีแต่ของน่ารักๆ เราไปช่วงปลายปีก็เลยมีสมุดแพลนเนอร์กับโปสการ์ดอวยพรปีใหม่ขายเยอะมากๆค่ะ มีหลายแบบทั้งแบบเรียบๆ น่ารักๆชวนให้เสียเงินค่ะ หลังจากนั้นเราก็แว่บไปที่ Kinokuniya เพื่อไปดูหนังสือเรื่องที่เราชอบในเวอร์ชั่นออริจินอลค่ะ
มีอีกอย่างที่เราอยากได้ก็คือรองเท้าค่ะ เนื่องจากคู่เก่าของเราเดินแล้วเจ็บเท้ามากๆ ก็เลยบอกเซย์ก้อยว่าให้พาไปซื้อหน่อย เราเข้าใจว่าห้างใหญ่แบบนี้น่าจะมีช็อปรองเท้าของแต่ละยี่ห้อไปเลย แต่ไม่มีค่ะ สุดท้ายแล้วก็ไปจบที่ ABC Mart เป็นร้านรองเท้าที่รวมหลายๆยี่ห้อด้วยกันค่ะ แต่ว่า ABC Mart ของห้าง cocoon มีรองเท้าให้เลือกน้อย รวมถึงเราเรื่องมากด้วย เซย์ก้อยก็เลยบอกว่า งั้นไปดูอีกสาขานึงที่สถานีโอมิยะมั้ย เราก็เลยตกลงค่ะ
เนื่องจากตอนนั้นเริ่มเย็นแล้ว เราเลยคิดว่ากลับไปทานข้าวเย็นกับที่บ้านไม่ทันแน่ๆ ก็เลยเมล์ไปบอกโอก้าซังค่ะว่าเราต้องไปซื้อรองเท้าใหม่ซึ่งเค้าก็เมล์ตอบมาว่าไม่เป็นไร หลังจากนั้นเราก็นั่งรถไฟไปสถานีโอมิยะซึ่งถัดไปแค่สถานีเดียว พอถึงสถานีโอมิยะ โฟร์ก็แยกตัวกลับบ้านไปก่อนเพราะกลัวว่าจะกลับเย็นเกินไป เลยเหลือเรากับเซย์ก้อย 2 คนไปร้านรองเท้า ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเพราะสาขานี้ใหญ่กว่าสาขาที่ cocoon มากและมีให้เลือกหลากหลายกว่าค่ะ
ตอนจ่ายเงิน เราจ่ายไปแทนที่เค้าจะยื่นรองเท้าให้เราเลย แต่เค้าก็พาเราไปหน้าร้านก่อนถึงยื่นถุงรองเท้าให้ เราก็งงๆค่ะ ไม่รู้เป็นวัฒนธรรมอะไรเหมือนกัน พอเราซื้อรองเท้าเสร็จเซนเซย์ก็ไปส่งที่สถานีไซตามะชินโตชินค่ะ เราก็นั่งรถบัสกลับบ้าน เนื่องจากเริ่มเข้าฤดูหนาวแล้วก็เลยมืดเร็วมากค่ะ เราถึงป้ายรสบัสแถวบ้านเราประมาณ 6 โมงกว่า แต่ฟ้ามืดมากราวกับมันดึกแล้วเลยค่ะ แต่ว่าถึงแม้ว่าทางเดินเข้าบ้านจะเปลี่ยวก็ไม่รู้สึกอันตรายเลยค่ะ เป็นอีกข้อที่เราชอบในประเทศญี่ปุ่น
ตอนถึงบ้านโอโต้ซังก็ไปเข้าโอฟุโระแล้ว ส่วนโอก้าซังกลัวว่าเราจะยังไม่ได้ทานอะไรมาเพราะเราไม่ได้บอกว่าจะไปทานข้าวกับใครก็เลยเตรียมข้าวเย็นไว้ให้ค่ะ มีปีกไก่+เต้าหู้ที่รสชาติคล้ายๆพะโล้ กับมันฝรั่งที่เราก็ไม่รู้ว่าเชื่อมหรือว่าอะไรแต่ก็อร่อยดี วันนี้โฮสต์ให้ลองทานผงโรยข้าว มีหลายรสให้เลือกแต่บางซองเราอ่านคันจิไม่ออก ก็เลยเลือกรสแซลม่อนมาค่ะ
ทานข้าวเสร็จนั่งคุยสักพักโอก้าซังก็เข้าโอฟุโระค่ะ ตามธรรมเนียมของญี่ปุ่น การเข้าโอฟุโระจะเรียงตามลำดับอาวุโส ดังนั้นบ้านเราโอโต้ซังจะเข้าก่อน ตามด้วยโอก้าซัง สุดท้ายก็เราค่ะ ก็ดีเหมือนกันเพราะไม่ต้องกดดันเรื่องเวลาแค่ต้องออกโอฟุโระก่อน 3 ทุ่มเพราะโอโต้ซังจะแปรงฟันก่อนนอนค่ะ โอโต้ซังเป็นคนนอนเร็ว ประมาณ 3 ทุ่มนิดๆก็ขึ้นห้องแล้วค่ะ ส่วนโอก้าซังจะดูทีวีถึงประมาณ 5 ทุ่มแล้วถึงขึ้นนอนค่ะ
พอเราเข้าโอฟุโระเสร็จก็ลงมานั่งดูทีวีกับโอก้าซังค่ะ ส่วนใหญ่รายการของญี่ปุ่นจะค่อนข้างสนุกค่ะ จะมีเป็นพวกตะลุยกิน จัดอันดับสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนช่วงดึกๆก็จะเป็นละครค่ะ พอสักพักโอก้าซังก็เอาชูครีมมาให้กิน อ่านไม่ผิดค่ะ ชูครีมจริงๆ ตอน 3 ทุ่มกว่าๆ จนเราเริ่มห่วงตัวเองเลยค่ะว่ามาที่นี่น้ำหนักจะเพิ่มเท่าไหร่ 55555
นั่งสักพักให้ชูครีมย่อยเราก็ขอตัวไปนอนค่ะ ก่อนนอนเราก็จดบันทึกว่าวันนี้ไปทำอะไร โทรหาครอบครัว เพื่อนๆเสร็จก็เข้านอนค่ะ
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่นโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999 ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง ไม่มีค่าดำเนินการใดๆ
รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)
ติดต่อสอบถาม – สมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น
สาขาสีลม โทร. 02-2677726 ต่อ 101-104
สาขาอโศก โทร. 02-665-2969
email : ask@jeducation.com