กับการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ที่โรงเรียน ABK COLLEGE โตเกียว วันที่ 7 ..
วันที่ 12 มิถุนายน 2559
วันนี้เป็นวันอาทิตย์และเป็นวันแรกที่ได้นอนตื่นสายในญี่ปุ่น
แต่ว่าก็ว่าเถอะ ที่ญี่ปุ่นมีความพิเศษอย่างหนึ่ง คือ พระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ ตี 4…… เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากสำหรับคนที่ไม่เคยไปญี่ปุ่น และด้วยแสงที่แยงเข้าตากับความร้อนของแสงแดดทำให้ชอบตื่นตกใจอยู่เรื่อยว่าเรานอนตื่นสายอีกแล้วใช่ไหม แต่ว่านี่เป็นวันอาทิตย์! เรื่องพวกนั้นไม่ต้องไปสนใจมันก็ได้
วันนี้ก็มีนัดอีกเช่นเคย แต่วันนี้มีนัดตอนช่วงบ่าย และ เป็นนัดกับเด็กมหาลัยโตเกียวไกโกคุโกะ ที่เคยมาโปรแกรมระยะสั้นที่ มศว ตอนเดือน กุมภาพันธ์ ก็เลยได้มีโอกาสทำความรู้จัก ดูแลพวกเขา และสนิทกัน คราวนี้ก็ถึงตาของนักศึกษาไทยไปให้เขาดูแลบ้างแล้ว(ฮา) สถานที่นัดพบในวันนี้ก็คือ ชิบุยะ(อีกแล้ว) ซึ่งจากครั้งก่อนที่ไปกับทากะคุงมาทำให้ไม่มีทางหลงแน่นอน
เวลานัดคือตอน 3 โมงเย็น เจอกันแล้วก็ไปกินอาหารไทยในร้านอาหารไทยที่ 1 คนในกลุ่มเด็กไกได (จากนี้ไปขอเรียกย่อว่าไกได) ทำงานพิเศษอยู่ ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกเช่นกันที่จะได้ไปลิ้มรสอาหารไทยในญี่ปุ่น อยากรู้จริงๆ ว่ารสชาติจะต่างกับที่ไทยมากแค่ไหน
เนื่องจากว่าอีกฝ่ายเป็นคนญี่ปุ่น ผมกับทากะคุงเลยกลัวว่านิสัยคนไทยจะทำงานอัตโนมัติ ก็เลยนัดเจอกันเองก่อนเวลานัดกับทางเด็กไกได 2 ชม. พอมาถึงที่ชิบุยะแล้วเจอกับทากะคุงแล้ว วันนี้พบว่าที่ชิบุยะ คึกคักกว่าปกติ ก็เลยลองเดินสำรวจกันดู พบว่าวันนี้มีเทศกาลรำวงที่มาจากโอกินาว่า ดูๆ ไปแล้วมีผู้เข้าร่วมน่าจะเกือบๆ 1000 คนได้ ทุกคนรำอยู่บนถนนตลอดแนวชิบุย่า
ผมกับทากะก็เดินเล่นกันไปเรื่อยๆ จนถึงเวลานัด ก็รีบกลับมาตรงรูปปั้นหมาฮาจิโกะ หลังจากรวมพลกับเด็กไกไดแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางสู่ร้านอาหารไทย ตอนนี้พวกเราต้องเดินทางไปที่สถานี จิยูกะโอกะ ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีชิบุยะไปประมาณ 20 นาที เมื่อไปถึงที่ จิยูกะโอกะ แล้ว ก็ต้องเดินเล่นฆ่าเวลา เพราะว่าร้านเปิดตอน 5 โมงเย็น แต่ตอนไปถึง ยัง 3 โมงครึ่งอยู่เลย
จิยูกะโอกะ เป็นย่านที่ดูสบายๆ มีบ้านเรือนสลับกับร้านขายของกันเป็นระยะ ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ไม่มีทางได้เห็นในไทยแน่นอน พอใกล้จะถึงเวลาที่ร้านเปิดแล้ว เด็กไกไดก็ได้พาเดินไปที่ร้านอาหารไทยร้านหนึ่ง แต่พอขึ้นไปดูแล้วกลับพบว่า ร้านมันเปิด 5 โมงครึ่ง ซึ่งต่างจากที่เพื่อนที่ทำงานพิเศษบอก เวลานี้ทุกคนงุนงง และทุกคนก็พร้อมใจกันเปิดกูเกิ้ลแมพขึ้นมา พบว่า มีอีกหนึ่งร้านอยู่ห่างไปอีกฝั่งหนึ่ง บางทีร้านที่อยู่ข้างหน้าพวกเราในตอนนี้คงจะเป็นอีกร้านนึงอย่างแน่นอน ก็เดินกันไปจนถึงร้านอีกฝั่งนึง คราวนี้แหละคือร้านอาหารไทยของจริงที่ หนึ่ง(เด็กไกไดเอกภาษาไทยทุกคนจะมีชื่อไทยเป็นชื่อเล่น)ทำงานอยู่
คราวนี้ก็ถึงเวลาวิจารณ์อาหารไทย ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า อย่าเอาราคามาเทียบกัน เพราะถ้าเทียบกันเมื่อไหร่คุณจะอยากเดินออกจากร้านทันที ส่วนเรื่องรสชาติ ต้องบอกว่าเป็นอาหารไทยที่ทำให้คนญี่ปุ่นกินได้ ซึ่งก็คือ มันไม่เผ็ด เต็มที่ก็แค่แซ่บ สำหรับคนที่กินเผ็ดไม่เก่งอย่างผมกับทากะคุง บอกได้เลยว่าอาหารไทยที่ญี่ปุ่นสอบผ่านอย่างมาก แต่สำหรับคนที่ชอบเผ็ด หรือกินเผ็ดเป็นประจำอยู่แล้วแต่ต้องการลองรสชาติอาหารไทยแบบใหม่ ก็ขอแนะนำให้มาลองกินอาหารไทยที่ญี่ปุ่นดูซักครั้ง
หลังจากกินกันเสร็จแล้ว เวลาเพิ่งจะล่วงเลยมาเป็น 1 ทุ่มเศษๆ ผมซึ่งอยากได้ไม้ส่วนตัวเอาไว้ตีตู้เกมไทโกะ ก็เลยตกลงกันว่า เราไปอากิบะกันเถอะ(อากิบะอีกแล้ววว) พอถึงอากิบะก็ออกตามหาไม้ตีตู้ไทโกะกัน แต่ปรากฏว่า ขายหมดทุกร้าน ไม่มีเหลือเลย…. ทุกคนก็เลยตัดสินใจจะกลับกันเพราะเวลาก็ค่อนข้างจะดึกแล้ว
ในขณะที่กำลังจะกลับ เพื่อที่จะไม่ให้การมาอากิบะเที่ยวนี้เสียเปล่า ก็เลยขอไปเล่นจับฉลาก “อิจิบังกุจิ” ซึ่งตอนนี้มีแคมเปญของ “สาวน้อยเวทมนต์มาโดกะ” อนิเมะที่ผมชอบ ไม่รู้ว่าวันนี้ดวงจะดีไปไหน จับไปทั้งหมด 4 ครั้ง ได้รางวัลใหญ่เป็นตัวละครที่ชอบ และได้ของทุกอย่างไม่ซ้ำกันเลย นับว่าการมาอากิบะครั้งนี้ไม่เสียเปล่าแล้วจริงๆ หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ผมก็ขึ้นรถเมล์กลับบ้านไปด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น
เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่นโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999 ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง ไม่มีค่าดำเนินการใดๆ
รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)
ติดต่อสอบถาม – สมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น
สาขาสีลม โทร. 02-2677726 ต่อ 101-104
สาขาอโศก โทร. 02-665-2969
email : ask@jeducation.com