DIARY Benz ::Day 10::

บันทึกประสบการณ์ของน้องเชี่ยว ผู้ชนะจากการแข่งขันตอบปัญหาภาษาญี่ปุ่น J-Challenge #11
กับการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ที่โรงเรียน ABK COLLEGE โตเกียว วันที่ 10 ..

วันที่ 15 มิถุนายน 2559

วันนี้ถือว่าเป็นวันที่พิเศษหน่อยเพราะว่าวันนี้ขอทางโรงเรียนหยุด 1 วันเพื่อที่จะไปทัศนศึกษาที่ มหาลัยเมจิ ซึ่งมหาลัยเมจินี้ก็เป็นหนึ่งในมหาลัยที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นเช่นกัน อีกทั้งมหาลัยนี้ยังมีความร่วมมือกับ มศว อีกด้วย เรียกได้ว่านอกจาก มหาลัยโตเกียวไกโกคุโกะแล้วก็มีมหาลัยเมจิ นี่แหละ ที่เอกภาษาญี่ปุ่น มศว คุ้นเคยเป็นอย่างมาก (ที่ มศว เองก็มีศูนย์ของมหาลัยเมจิตั้งอยู่ด้วยนะ)

ด้วยความช่วยเหลือของอาจารย์และนักศึกษาคณะสังคมศาสตร์ นามว่าแอนดี้(อันโดว) เลยทำให้การทัศนศึกษานี้เป็นจริงขึ้นมา พวกเรานัดเจอกันที่สถานี โอฉะโนะมิซุ ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้กับมหาลัยเมจิมากที่สุด ในเวลา 10 โมง วันนี้ดีหน่อยที่นิสัยคนไทยไม่ทำงานอัตโนมัติ ถือเป็นโชคดีอย่างมาก แต่กับทากะคุงแล้ว ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเขาซักเท่าไหร่ ทากะคุงก็เลยสายไปประมาณ 30 นาที

หลังจากที่ทุกคนรวมตัวกันครบแล้ว ก็ได้เวลามุ่งสู่มหาลัยเมจิ ทางไปสู่มหาลัยเมจินั้นทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายเครื่องดนตรี ถ้าหากคุณอยากจะมาหาเครื่องดนตรีซักตัว ผมเองก็คงจะแนะนำได้แค่ที่นี่ มหาลัยเมจินั้นเป็นมหาลัยที่อยู่ในตัวเมือง เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่า มันจะไม่มีอะไรเลย เป็นบรรยากาศในเมืองของแท้เลย

เดินกันไปได้ซักพัก พวกเราก็มาถึงมหาลัยเมจิ วิทยาเขต ซุรุกะได วิทยาเขตนี้เป็นที่เรียนของนักศึกษาปี 3-4 และมีอาคารเรียนที่เป็นเอกลักษณ์มาก โดยที่อาคารเรียนนั้นเป็นตึกสูงใหญ่กว่า 20 ชั้น ถ้าหากมองเพียงผิวเผินคุณอาจจะคิดว่ามันเป็นโรงแรมหรู 5 ดาวก็ได้

เมื่อเข้ามาในมหาลัยแล้ว ที่แห่งแรกที่พวกเราไปกันก็คือ ห้องสมุด ต้องบอกว่าห้องสมุดของที่นี่ใหญ่และมีสไตล์มากๆ โดยเป็นชั้นใต้ดินลึกลงไป 3 ชั้น และต้องบอกว่าสมกับเป็นห้องสมุดของคนญี่ปุ่นจริงๆ เพราะว่าเงียบมากๆ เงียบจนได้ยินเสียงหายใจของตัวเองเลย แถม ถ้าหากคุณยังรู้สึกว่ามันเงียบไม่พอ ชั้นที่ 3 ของห้องสมุดแห่งนี้ ก็มีห้องที่จะช่วยเพิ่มความเงียบให้คุณอีกเท่าตัว ซึ่งนั้นคือห้อง “รวบรวมสมาธิ” สมกับเป็นญี่ปุ่นจริงๆ ก่อนออกจากห้องสมุดพวกเราก็แวะดู ส่วนจัดแสดงที่อยู่ข้างหน้าห้องสมุด โดยสิ่งที่นำมาจัดแสดงนั้นก็คือ หนังสือเก่าที่เขียนตั้งแต่ 100-200 ปีที่แล้ว

หลังจากใช้เวลาที่ห้องสมุดเสร็จก็เป็นเวลากลางวันพอดี พวกเราก็เลยย้ายกันไปที่โรงอาหารของมหาลัยเมจิ โดยปกติแล้วโรงอาหารจะตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ไม่ก็ชั้นใต้ดินเหมือนที่มหาลัยโตเกียว แต่ว่าที่มหาลัยเมจิแห่งนี้ไม่เหมือนที่อื่นเลย เพราะว่าโรงอาหารของที่นี่อยู่บนชั้นที่ 17! เป็นการกินอาหารที่ไฮโซมากๆ กินไปชมวิวไป กินอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทัวร์มหาลัยแห่งนี้กันต่อ

ถัดมาก็คือห้องเรียนต่างๆของมหาลัย โซนแปะประกาศของคณะต่างๆ โซนสวนสาธารณะ และสุดท้าย พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าความเป็นมาของมหาลัยแห่งนี้ พิพิธภัณฑ์ของที่นี่มีความพิเศษอยู่คือ มีการจัดแสดงเครื่องมือประหารชีวิตเมื่อสมัยก่อนไว้เยอะมาก ทั้งไออ้อนไมเด้น ทั้งกิโยติน นอกเหนือจากนี้ก็มีอย่างอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นของจากอดีตที่หลงเหลือมายังปัจจุบัน ถือว่าตื่นตาตื่นใจมากเลยทีเดียว

ชมมหาลัยครบแล้ว พวกเราก็ไปอากิบะกันต่อ(อีกแล้วเรอะ!) เนื่องจากจากมหาลัยเดินไปอากิบะเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นพวกเราก็เลยตัดสินใจไปที่อากิบะกัน มาอากิบะรอบนี้ผมตั้งใจจะไปที่คาเฟ่นกฮูก แต่ว่าดันไปก่อนเวลาเปิดก็เลยไปเดินเล่นกันที่อื่นก่อน หลังจากนั้นพอได้เวลาเปิดร้านแล้วจึงกลับมาอีกที แต่ปรากฏว่าคนเต็ม ต้องรอคิวอีก 2 ชั่วโมง พวกเราก็เลยยอมแพ้ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน เพราะเวลาตอนนั้นก็ค่อนข้างเย็นแล้ว แต่ก่อนกลับพวกเราก็ได้นัดกันว่า วันพรุ่งนี้จะมาเล่นการ์ดกันที่อากิบะ

 

 

ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น

เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่นโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999  ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง  ไม่มีค่าดำเนินการใดๆ

รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)

ติดต่อสอบถาม – สมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น
สาขาสีลม โทร. 02-2677726 ต่อ 101-104
สาขาอโศก โทร. 02-665-2969
email : ask@jeducation.com

เพิ่มเพื่อน