บันทึกประสบการณ์ของน้องดา ผู้ชนะจากการแข่งขันตอบปัญหาภาษาญี่ปุ่น J-Challenge#5 กับการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ที่โรงเรียน Yono Gakuin Japanese Language School จังหวัด ไซตามะ วันที่ 1 ที่ญี่ปุ่น..
วันพุธที่ 13 ตุลาคม 2553 : เดินทางไปญี่ปุ่น
เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ เพราะตื่นเต้น ถึงแม้จะได้ไปญี่ปุ่นเป็นครั้งที่ 2 ก็เถอะ พ่อกับแม่ไปส่ง ถึงสนามบินสุวรรณภูมิประมาณตี 4 ครึ่ง ทุกคนมากันครบหมดแล้ว เหลือแต่เรา 55+ แล้วก็ถ่ายรูปกับพี่ ๆ J-education พี่จูน พี่เก๋ พี่สอง แล้วก็ร่ำลาพ่อแม่ และพี่ ๆ ที่มาส่ง พอผ่านด่านตรวจเข้าไปก็นึกว่าต้องเดินไป Gate อีกไกล เลยเดินโม้กันเพลินไปหน่อย…จนเลย กว่าจะรู้ตัวก็เลยไปแล้ว….
พอฟ้าเริ่มสว่างก็ไปถ่ายรูปเครื่องบิน แต่เจ้าหน้าที่เดินมาบอกว่าช่วยลบรูปด้วยคะ มันเป็น Security เรานี่แบบ..ถ่ายแค่นี้ไม่ได้หรอ ก็แค่อยากมีรูปเครื่องบินที่เราบินก็แค่นั้นอ่ะ ตอนขึ้นเครื่องเจ้าหน้าที่นี่ก็เยอะได้อีกกกก ยืนกันตลอดในงวงช้างเลย ยืนแบบไม่ให้เราทำอะไรได้เลย นอกจากเดินไปข้างหน้า และแล้วก็ถึงเวลา Take off 6.50 น. ตรงเวลาดี เย้ๆๆๆจะได้ไปญี่ปุ่นแล้ว…..
ตอนเครื่องจะขึ้นก็มีสจ๊วตมาสาธิตการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เวลาฉุกเฉิน แต่ก็ไม่กล้าถ่ายรูปแล้วอ่ะ กลัวเค้าว่าอีก 55 เข็ด เลยนั่งดูไปเฉย ๆ พอเครื่องขึ้นก็เสริฟอาหาร มี Omelet กับ Noodle พวกเราหิวมาก กินกันอย่างรวดเร็วเลยลืมถ่ายรูปมาให้ดูเลย ขอโทษด้วย 555 หิวไปนิดส์
**แอร์กับสจ๊วตตรงส่วนที่เรานั่งนี่ส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นอ่ะ เค้าพูดอังกฤษแล้วมันฟังยากอ่ะ เลยพูดญี่ปุ่นกับเค้า แต่พอรู้ว่าเราพูดญี่ปุ่นได้นี่ ใส่มาเป็นชุดแบบไม่หายใจเลยทีเดียว
อิ่มแล้วก็นั่งดูหนัง ฟังเพลง ที่หน้าจอเล็ก ๆ ข้างหน้าเรา หนังก็จะมีพากย์+บรรยายอังกฤษ ญี่ปุ่น แล้วก็จีน เราดูแบบภาษาญี่ปุ่น จะได้ฝึกฟังไปด้วย 555+ ส่วนเพลงนี่ไม่ไหวอ่ะ มีแต่ประมาณโอเปร่า ฟังแล้วจะหลับ ไม่มีเพลงมัน ๆ เลย พอดูหนังสักพักก็เริ่มง่วง ทั้ง ๆ ยังเช้าอยู่เลย เพราะคนริมหน้าต่างนี่ปิดหน้าต่างหลับหมดทุกคน เลยมืดมาก จะดูหนังต่อก็ปวดตา นอนดีกว่า555+
พอใกล้ถึง Narita ก็มีของว่างมาเสริฟอีก เป็นแซนด์วิชที่เย็นมาก ไม่เคยกินอะไรเย็นขนาดนี้เลยอ่ะ อากาศในเครื่องก็เย็นมากอ่ะ หยิบเสื้อกันหนาวมาใส่แทบไม่ทัน
เครื่อง Landing ประมาณเกือบบ่าย หรือประมาณบ่าย 3 ของญี่ปุ่น (เวลาญี่ปุ่นเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) แล้วเราก็ยังใส่เสื้อกันหนาวอยู่ พอลงเครื่องปั๊บถอดแทบไม่ทัน ร้อนนนนน คิดว่าจะหนาวกว่านี้ซะอีก เซ็งเลย
ลงเครื่องมาเราก็เจอที่เที่ยวเลย เที่ยวเกียวโตเชียวนะเนี่ย 555 ก็แค่ถ่ายกับรูปอ่ะนะ จากนั้นก็เข้าไปตม. รอโหลดกระเป๋า (ไม่ต้องรอเลยอ่ะ มาถึงกระเป๋าก็ลงมารอเราเลย เพราะคนลงโตเกียวมีน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มาต่อเครื่องไปแถว ๆ อเมริกามากกว่า) เดินไปถึงก็หยิบได้เลย เร็วดีจริง
จากนั้นหารถบัสไปลง Saitama shintoshin โดยเป็นรถของ Keisei bus ราคา 2750 เยน รถออกเวลา 15.45 น. แถบไม่ได้พักเลยหลังจากลงเครื่อง ต้องไปนั่งอีกแล้วววว เมื่อยมาก จากนั้นครูบีก็โทรบอก Tani Sensei ว่าเราไปรถบัสเที่ยวนี้นะ แล้วก็นัดแนะกันว่าเค้าจะมารอรับที่ Saitama shintoshin นั่งไปก็ถ่ายรูปไป 2 ข้างทาง ตอนแรกที่ออกมาจากนาริตะนี่มีแต่ป่าทึบ ๆ
พอสักพักก็เริ่มมีทุ่งนา โรงงาน แล้วก็บ้านคน จนเข้ามาในตัวเมือง โดยรถคันนี้วิ่งขึ้นทางด่วนตรงไปจอดที่ Saitama เลย ไม่มีแวะ ยังใช้เวลาตั้งเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งทางด่วนของญี่ปุ่นจะมีแบบวิ่งผ่านแล้วยิงสัญญาณ ไม่ต้องเสียเวลามาจ่ายตังค์ ทอนตังค์ เหมือน Easy pass ที่ไทยกำลังเริ่มมีอ่ะ
ในที่สุดเราก็มาถึง Saitama shintoshin แล้วก็เจออ.ทะนิจอดรถรออยู่แล้ว (อ.คงมารอนานแล้วตามนิสัยคนญี่ปุ่นแน่เลยอ่ะ) แต่ว่าเหมือนเราจะถึงเร็วไปอ่ะ อ.ก็ไม่รู้จะพาเราไปส่งที่ไหนก่อนดี ลองโทรไปหาโฮสต์แต่ละบ้าน ก็ยังไม่พร้อมกันอ่ะ ยังจัดบ้านไม่เสร็จ ประมาณนั้น บ้านเรายังไม่กลับบ้านกันเลย
*มารยาทญี่ปุ่น ตอนจะไปบ้านคนอื่น ต้องโทรไปบอกหรือแจ้งล่วงหน้าก่อน*
ในเมื่อไม่รู้จะไปไหนก่อนดี อ.ทะนิ ก็เลยช่วยบอกวิธีการเดินทางจากบ้านโฮสต์แต่ละคนไปโรงเรียน Yono ซึ่งบ้านครูบีใกล้สุด บ้านเรารองลงมา ส่วนบ้านช่อไกลสุด
จากนั้นก็ได้ฤกษ์ไปส่งครูบีที่บ้านโฮสต์ แล้วก็เข้าไปคุยกับโฮสต์ครูบีสักพัก โฮสต์ก็ดูน่ารักบ้านสวยแล้วก็ค่อนข้างใหญ่ โฮสต์ครูก็เอาน้ำชา ขนมมาให้เรากินเยอะแยะเลย แต่ตอนนั้นหิวข้าวอ่ะ อยากกินข้าว แต่อ.ทะนิบอกว่าโฮสต์แต่ละบ้านเตรียมอาหารต้อนรับไว้แล้ว เราก็แบบว่าอืมมมม ทนไป
คิวต่อไป อ.ทะนิไปส่งช่อ ซึ่งอยู่ไกลสุดก่อนเราอีกอ่ะ พอไม่มีครูบีอยู่ก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับ อ.ทะนิ บรรยากาศเริ่มเงียบ แต่อ.ทะนิก็พยายามคุยกับเราว่า มีวางแผนอยากไปไหนบ้างหรือยัง เราก็บอกว่ายังไม่ค่อยมี แต่อยากไป Fuji Q highland แล้วก็อยากไปออนเซ็น เค้าก็ประมาณว่าเดี๋ยวจะลองปรึกษาโฮสต์พวกเราดูว่าเค้าจะพาไปไหม
จากนั้นก็แวะเข้าบ้านโฮสต์ช่อ แล้วก็เข้าไปคุยแล้วเค้าก็ให้เรากินน้ำชาอีกแล้ว แบบว่าในท้องมีแต่น้ำแล้วอ่ะ จากนั้น okasan ของช่อก็ชวนเราว่าวันศุกร์นี้เค้าจะไปปีนเขา takao จะไปด้วยไหม แต่ถ้าไปก็คงต้องหยุดเรียน เราก็แบบอยากลองบ้าง
พอดีอยู่เมืองไทยไม่เคยไปขึ้นเขา แล้วก็หันไปมอง ๆ อ.ทะนิว่าเค้าจะว่าอะไรหรือเปล่า มาถึงก็จะหยุดเรียนไปเที่ยวเลยทีเดียว ดูชั่วๆ ไงไม่รู้ 55 แต่อ.เค้าก็ไม่ว่าอะไรเพราะเรามาญี่ปุ่นระยะสั้นนนนนน ส่วน otosan ของช่อดูเงียบ ๆ ไงไม่รู้ เหมือนดุ ๆ เลยอ่ะ ไม่ค่อยยิ้มเลย
และแล้วเป้าหมายสุดท้ายในการเดินทางของวันนี้ก็มาถึง ไปบ้านโฮสต์เรานั่นเอง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากบ้านช่อ ไกลเหมือนกันเนอะ อ.ทะนิก็ถามว่า เคยมาญี่ปุ่นแล้วใช่ไหม ครั้งที่แล้วไปไหนมาบ้าง มากี่วันอะไรทำนองนี้ แล้วก็ถามว่าชอบกินอะไร ไม่ชอบอะไร เราก็บอกว่าได้หมด ยกเว้นนัตโตะ 555 พอถึงบ้านโฮสต์เรา ฝนก็ตกปรอย ๆ okasan กับ aiko พี่สาวรีบเอาร่มวิ่งออกมารับเลยอ่ะ น่ารักมาก บ้านนี้น่ารักกันมากอ่ะ ยิ้มแย้ม คุยเก่งมาก ๆ เวลาเค้าโม้กันนี่เราฟังไม่ทันเลย ไม่รู้จะรีบไปไหนกัน 555
พอ otosan กลับมาก็เตรียมอาหารเย็นต้อนรับเรากัน มื้อนี้เป็น okonomiyaki แล้วก็ yakisoba ฝีมือ otosan แล้ว okasan กับaiko ก็เม้ากันว่า พ่อทำเป็นแค่นี้แหละ 555+ อ.ทะนิก็อยู่ทานด้วย ดูเหมือนเค้าสนิทกันมากอ่ะ พอเริ่มทำ okonomiyaki ได้สักพัก ก็ถึงเวลากลับด้าน เค้าให้เราเป็นคนกลับอ่ะ อันอย่างใหญ่จะกลับรอดไหมเนี่ย ต้องลองดู 555 ผลออกมาก็ขาดอย่างที่คิด แต่ก็ไม่น่าเกลียดมาก ยังพอแก้ไขได้ 555
อาหารบนโต๊ะนี่เยอะมากอะ แค่ okonomiyaki ก็แทบจะกินไม่ไหวแล้ว ยังมี yakisoba ต่ออีก 1กระทะ ถึงจะหิวยังไงก็เถอะ กินไม่ไหวจริง ๆ สักพักอ.ทะนิก็หยิบการ์ตูนที่ aiko วาดขึ้นมา แล้วบอกว่านี่เป็นการ์ตูนที่ขึ้นเว็บของ Yono แล้วเค้าก็นั่งคอมเม้นต์กันว่าจะให้แก้ตรงไหนบ้าง แล้ว okasan ก็ถามเราว่าปกตินอนกี่โมง เราก็บอก 3-4 ทุ่ม โดยที่ลืมดูนาฬิกาว่า 4 ทุ่มกว่าแล้ว เค้าก็รีบไล่เราไปอาบน้ำ แล้วก็รีบมาขึ้นไปนั่งเขียนไดอารี่ที่ห้องอีก ความจริงก็เหนื่อยแล้วอ่ะนะ แต่ถ้าเขียนพรุ่งนี้เดี๋ยวลืม 555 ความจำสั้น
ส่วนข้างล่าง ก็ยังนั่งสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานเลย อ.ทะนิกลับไปประมาณ 5 ทุ่ม ส่วนเราตอนนี้ 5 ทุ่มครึ่ง นอนดีกว่า oyasuminasai
บันทึกประสบการณ์วันที่ 2/1 ของน้องดา >>
Link ที่เกี่ยวข้อง >>
Diary บันทึกประสบการณ์ ผู้ชนะการแข่งขันภาษาญี่ปุ่น JChallenge#4
Diary บันทึกประสบการณ์ ผู้ชนะการแข่งขันภาษาญี่ปุ่น JChallenge#3