บันทึกประสบการณ์ของน้องRuangkhow ผู้ชนะจากการแข่งขันตอบปัญหาภาษาญี่ปุ่น J-Challenge #10 กับการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ที่โรงเรียน Yono Gakuin Japanese Language School จังหวัด ไซตามะ วันที่ 4 ที่ญี่ปุ่น..
วันนี้ทางโรงเรียนมีโปรแกรมไปดูดอกซากุระกัน โดยนัดเจอกันที่สถานี omiya ตอน 9.20 น. แต่วันนี้พอตอนขึ้นรถไฟดันนั่งผิดไป akabane เลยต้องรีบนั่งย้อนกลับมา แต่พอมาถึงดันหาใครไม่เจอเลย ไวไฟก็ไม่มี ค่าโทรโรมมิ่งที่เปิดมาก็แพงมากเลย
หาอยู่นานยัน9โมงครึ่งเลยตัดสินใจโทรหาอ.ศิริพร โทรไป3รอบอาจารย์ถึงจะรับ (ถ้าโทรไปอีกนิดไม่รับอีกคิดว่า จะขอกลับบ้านเลยแล้ว แถมตอนนั้นรู้สึกปวดหัวนิดๆด้วย) พอโทรติดอาจารย์ก็บอกให้รีบไปที่ tobu-line เลย พอมาถึงก็เจออ.ทานิกับคนอื่นๆที่ไปด้วยรออยู่ โชคดีที่ยังมาทันรถไฟ
พอนั่งรถไฟมาถึง kasukabe แล้วก็ยังต้องนั่งรถบัสต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงสวนสาธารณะเรียบร้อย ที่นี่กว้างแล้วก็มีต้นซากุระเยอะมาก นอกจากซากุระแล้วยังมีทุ่งดอกไม้สีเหลืองด้วย พอถามอ.ทานิเลยรู้ว่าชื่อดอก nanohana ในสวนมีร้านขายของกินเยอะแยะไปหมดเลย ทั้งทาโกยากิ โอโคโนมิยากิ กล้วยชุบช็อคโกแลต ขนาดสายไหมยังมีเลย มีซุ้มช้อนปลาทองด้วย อ.ทานิยังบอกอีกด้วยว่า ตอนกลางคืนจะคึกคักมาก บรรยากาศคล้ายๆงานวัดที่ไทยเลย
พอซื้อของกินเสร็จก็เอามานั่งกินด้วยกันใต้ต้นซากุระ แต่พอจะกินกันอาหารที่ซื้อไว้ดันเย็นหมดซะแล้ว เพราะอากาศหนาวมีลมพัดแรงด้วย นั่งกินกันไปตัวสั่นไปด้วยเลยทีเดียว เข้าใจแล้วว่าทำไมมีแต่กินซื้ออาหารแล้วกินกันหน้าร้านเลย ตอนนั่งกินกันก็มีคุณลุงคนนึงใส่ยูกาตะกับหมวกฟางคล้ายๆซามูไรพเนจรเดินวนแถวนั้นมาแสดงรำดาบนิดหน่อยๆให้ดูกันเพลินๆด้วย แกถือลำโพงไว้เปิดเพลงประกอบการแสดง แล้วก็พอแสดงจบใครจะให้อะไรแกตอบแทนก็แล้วแต่ มีคนให้เบียร์แกกระป๋องนึงด้วย
พอกินเสร็จก็เดินเล่นถ่ายรูปกับตาลแล้วก็โฮสของตาล พอเดินเลยสวนสาธารณะมาก็จะเจอร้านสะดวกซื้อ ซึ่งตอนนั้นมีการแสดง taiko กับ shindonya อยู่พอดี กลุ่มคนที่มาแสดงก็เป็นกลุ่มแม่บ้านกับนักเรียนมัธยมปลายด้วย เห็นแล้วรู้สึกดีมากเพราะมันเหมือนการให้คนรุ่นใหม่ช่วยกันอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไว้แล้วก็ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วย
พอถึงเวลากลับก็กลับกันทางเดิม แต่ตาลกลับเองไปกับโฮส ตอนยืนบนรถบัสรู้สึกปวดเท้าขวาแปลบๆ แต่ก็ทนยืนไปเพราะบัสแน่นจริงๆ พอขึ้นรถไฟก็ดีหน่อยที่ได้นั่งยาวเลย พอไปถึงบ้านก็กะจะไปทานยาเอา แต่พอมาถึงดันมัวแต่จัดการเรื่อง pocket wifi แล้วก็นั่งเล่นเกมส์กับอาริสะเพลินจนลืมเรื่องเท้า เพราะตอนนั่งมันไม่เป็นอะไรเลย ปวดแค่ตอนเดิน พอจะทานข้าวเย็นถึงเพิ่งมานึกได้ เลยเข้าห้องไปหายาที่เอามาเองแต่ดันไม่มียาแก้ปวด เลยไปถามโอก้าซังที่ตอนนั้นเพิ่งกลับมาจากที่ทำงานพอดี เขาก็เลยแปะประคบเย็นให้แล้วก็มาทานข้าวกัน
วันนี้เป็นเทมปุระที่บอกไปว่าอยากทาน แต่มีแต่ผัก ไม่มีเทมปุระกุ้งเลย ตอนบอกก็ลืมบอกไปว่าชอบเทมปุระกุ้งแต่ก็ไม่เป็นไร พอทานเสร็จก็เลยเข้านอนและหวังว่าพรุ่งนี้เท้าจะหายดี