บันทึกประสบการณ์ของน้องMint ผู้ชนะจากการแข่งขันตอบปัญหาภาษาญี่ปุ่น
J-Challenge #10 กับการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น
ที่โรงเรียน Nihon Rikou Jouhou Senmon Gakkou จังหวัด โอซาก้า วันที่ 13 ที่ญี่ปุ่น..
วันนี้ตั้งใจว่าจะออกจากบ้านเร็วเพราะไปเที่ยวเกียวโต สถานที่ที่มี landmark ที่ต้องไปเยอะมากๆ และตอนเย็นต้องกลับมาปาร์ตี้เลี้ยงส่งอีก ตอนแรกตั้งใจจะออกแบบเช้ามากๆ ประมาณหกโมงเช้า แต่เกรงใจโฮสที่ต้องตื่นมาในวันหยุดเพื่อทำอาหารให้กิน เลยตื่นประมาณ 7.30 น.
เหมือนโฮสทำอาหารไว้ให้แล้ว และเยอะมากๆ ด้วย แต่ด้วยความที่นอนน้อยเลยกินไปนิดเดียว
รีบออกจากบ้านไปเจอเพื่อนที่ Umeda ตอนประมาณ 8 โมงนิดๆ จากนั้นก็เริ่มต้นเดินทางเริ่มจากนั่งรถไฟโดยใช้ Kansai thru pass เหมือนเดิมเพื่อไป Fushimi Inari ที่แรก
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยขึ้นรถไฟของ Keihan หรูหรามาก อย่างกับรถไฟวีไอพี ไปถึงฟูชิมิอินาริ ร้อนมากกกกกก ผิวไหม้ แดดแผดเผา นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ เลย แล้วก็ขึ้นไปตรง Sembon Torii พอถ่ายรูปเสร็จปุ๊บก็ต้องรีบลงมา เพราะว่าต้องไปรีบที่อื่นต่อ ชอบที่นี่มากที่สุด ขากลับ ซื้อแม็คเน็ตเสาโทริอิไปให้โฮสด้วย
จาก Fushimi Inari นั่งรถต่อไปที่สถานี Kiyomizu Gojo เพื่อไป Kiyomizu dera ใช้เวลาอีกแค่ไม่กี่นาที
พอไปถึงสถานีแล้ว จากสถานีไปจนถึงวัด ไกลมาก ตามทางบอกว่าประมาณ 20-30 นาที แต่ว่าความจริงอากาศร้อนมากและเนินเยอะมาก เหนื่อยมาก เหงื่อนี่เปียกทั้งตัว สรุปใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าจะถึงวัด พอถึงวัดแล้ว กว่าจะขึ้นไปจนถึงจุดชมวิวก็ต้องปีนเนินขึ้นไปอีก เป็นวัดที่เหนื่อยมากๆ แต่ขึ้นไปก็วิวดีนะ เสร็จแล้วก็ต้องรีบลงมา
จากนั้นนั่งรถไฟไปจนสุดสถานีที่ Demachiyanagi แล้วต่อรถบัสไปที่ Ginkaku-ji ก่อนเข้าวัด แวะกินราเมงที่ร้านหน้าวัด เจ้าของร้านใจดีมาก เป็นคนญี่ปุ่นที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีที่สุดเท่าที่ได้เจอมา เธอบอกว่า เคยไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกา
แล้วก็แวะเข้าวัดไป แต่ค่าเข้าแพงมาก 500 เยน (แพงเพราะตอนนั้นจนแล้ว) แล้ววัดก็ไม่ได้อู้หูอ้าหาด้วย ก็เลยตัดใจไม่เข้าไป
จากนั้นก็ไปต่อที่ Kinkaku-ji โดยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง
วัดสวยเกินจริงไปหน่อย คือถูกปรับบูรณะจนรู้สึก modern มากกว่าจะเป็นของโบราณอีก ก็เลยรู้สึกเฉยๆ จริงๆ สนใจสวนรอบๆ วัดมากกว่า มาฤดูอื่นคงบรรยากาศดีกว่านี้
จากนั้นนั่งรถบัสไปต่อรถไฟเพื่อไปป่าไผ่ Arashiyama พอไปถึงสถานีรถไฟสาย Keifuku Dentetsu นั้น อยากบอกว่าเหมือนอยู่เมืองไทย และรู้สึกบ้านนอกมากๆ นั่งรถสายนี้ไปจนถึงสถานี Arashiyama
พอถึงสถานี Arashiyama รู้สึกตกใจนิดหน่อยตรงที่พอออกมาแล้วมันไม่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติขนาดนั้น แต่เจอพวกร้านค้าและคาเฟ่มากมายก่อนจะถึงป่า
พอเดินไปสักพักก็เจอป่าไผ่ อากาศในป่าร่มเย็นมาก แล้วก็เจอคนไทยเยอะมากด้วย 555 แต่ว่าระยะทางเดินในป่าสั้นไปหน่อย เดินไปแป๊บเดียวก็เจอทางออกแล้ว
จากนั้นก็เดินกลับไปที่สถานีเพื่อนั่งรถไฟกลับไปบ้าน เพราะต้องรีบกลับไปทำอาหารไทยให้โฮส
กลับไปถึงบ้านประมาณ 6 โมงกว่าเกือบ 1 ทุ่ม วันนี้โฮสจะจัดปาร์ตี้เลี้ยงส่งโดยให้ชวนเพื่อนมาด้วย
โฮสสั่งพิซซ่ากับไก่มา ส่วนเราทำไข่พะโล้กับลาบให้ โดยใช้ผงวิเศษ ผงโลโบ้ 555 รสชาติดีเลยแหละ
ปาร์ตี้วันนี้มีคนทั้งหมด 6 คน มีโฮส ลูกสาวโฮส ทะนิโกะซัง(บอสของลูกสาว) ยูกิโกะซัง(เพื่อนสมัยเด็กของลูกสาว) เรา และเพื่อนคนไทยที่มาด้วยกัน
คุยกันสนุกสนานมาก คนญี่ปุ่นชวนคุยเยอะมากๆ แล้วก็ตลกดี ชอบตกใจเวลาที่คนไทยรู้เรื่องเกี่ยวกับญี่ปุ่นเยอะ และกินเยอะมาก และอิ่มมากๆ 555
จากนั้นยูกิโกะซังกับเพื่อนเราก็ต้องรีบกลับบ้านก่อนที่รถบัสจะหมด เลยแยกย้าย แต่ว่าทะนิโกะซังนอนค้างที่บ้านด้วยกัน เพราะบ้านอยู่โกเบ ไกลมากๆ
ด้วยความที่ตื่นเช้า เลยขอตัวไปนอนก่อน แต่ว่าโฮสยังคุยสนุกสนานกับทะนิโกะซัง บอสของลูกสาวอยู่เลย