DIARY ดา ::Day 12:: Fuji Q Highland

บันทึกประสบการณ์ของน้องดา ผู้ชนะจากการแข่งขันตอบปัญหาภาษาญี่ปุ่น J-Challenge#5 กับการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ที่โรงเรียน Yono Gakuin Japanese Language School จังหวัด ไซตามะ วันที่ 12 ที่ญี่ปุ่น..


วันอาทิตย์ที่ 24 ต.ค. 53 Fuji Q  highland 

วันนี้ตั้งนาฬิกาปลุกตี 4.30 น. ตื่นตี 5 จากนี้ก็รีบแต่งตัว ล้างหน้าแปรงฟัน กินกล้วยหอม 1 ลูกอย่างเร็ว กลัวจุกเหมือนกัน  Otosan นัดว่าให้ออกจากบ้าน ตี 5.10น. รีบใหญ่เลย เดี๋ยวไปไม่ทัน Okasan  ก็ตื่นมาด้วย ถามว่าเตรียมโน่นนี่นั่นไปรึยัง แต่เราก็เตรียมครบแล้วแหละ แล้ว Okasan  ก็ให้แผ่นความร้อนมาเผื่อหนาวมาก จากนั้น Otosan  ก็ขับรถพาไปส่งสถานี omiya ตอนตี 5 รถบัสยังไม่มี เค้าเลยไปส่ง   คนญี่ปุ่นทำอะไรเป็นเวลา นอนคืนนอนกลางวัน รถขนส่งก็หยุดวิ่งหมดเลย ถนนโล่งมากอ่ะ แทบไม่มีรถเลย แต่เวลานั้นยังมีไฟเขียว/แดง ให้คนข้ามถนนด้วยอะ แต่ไม่มีใครจะข้ามหรอกมืดขนาดนั้น คนขับรถตอนกลางคืนคงเซ็งอยู่ ไม่รู้จะให้รออะไร 55

เนื่องจากถนนโล่งมากเลย ไปถึงสถานีเร็วกว่าเวลาประมาณ 10 นาที Otosan ก็กังวลว่าเราจะรู้ทางหรือเปล่าว่าเค้านัดตรงไหนอธิบายเราใหญ่เลย แต่เราก็รู้อยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาไปได้ คนแทบไม่มีในสถานีเลย  แล้วก็ไปแวะร้าน newsday ว่าจะหาอะไรกิน แต่ไม่รู้จะกินอะไร ก็เลยไม่ได้ซื้อ สักพักก็เดินไปที่นัด  เจออาจารย์ทะนิยืนรออยู่ สักพักช่อก็มา แล้วก็จ่ายตังค์อาจารย์ 7,500  ¥ เพราะตอนไปจองตั๋ว อาจารย์เค้าออกให้ก่อน จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถบัสไป  Fuji Q  highland  ซึ่งมันอยู่ด้านนอกสถานีและเนื่องจากยังไม่ถึงเวลาขึ้นรถ  เลยไปหาซื้อ  Onigiri  ไว้เป็นอาหารเช้า บนรถ 6.10 น. รถออกชมวิวข้างทางสักพัก ปรากฏว่ารถบัสมันผ่านเส้นทางไปบ้านเราอ่ะ ผ่าน saidai ด้วย แหม ถ้าเป็นเมืองไทยนี่ โบกเรียกให้จอดได้นะเนี่ย 55 แต่ที่นี่คงไม่ได้อ่ะ พอเลยไปสักพัก เพิ่งรู้ว่าวิวแถวนี้สวยมาก ทุ่งนาเขียวสด และกว้างมาก ต่างจากในเมืองที่ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้ บ้านคนทำไร่ ก็สวยเชียว เหมือนบ้านคนปกติอ่ะ ไม่ใช่แบบหลังคามุงจาก แบบในชนบทบ้านเราแล้ว เกษตรกรที่นี่น่าจะรวยอยู่อ่ะ  ดูแล้ว พอรถโยกมากๆ ก็ง่วง หลับ ZZZZ………….

สักพักก็ตื่น เพราะหิว 55 ก็รีบหา Onigiri  ขึ้นมากินกัน แม้ว่าใส้ข้างในจะน้อย แต่ก็อร่อยทั้งนั้นแหละ  เพราะหิวมาก (ไส้ปลาเซลมอนย่าง +ไส้ปลาราดซอสมั้ง) จากนั้นก็หลับๆ ตื่นๆ ดูวิวไปตลอดทาง วันนี้อากาศแจ่มใส เห็ภูเขาไฟ  fuji  ด้วยแหละ แต่ฤดูนี้ ก็เห็นแต่ภูเขา ไม่มีหิมะปกคลุม แล้วใบไม้ก็ยังไม่เปลี่ยนสี แค่รู้ว่าเป็นภูเขาที่สูง…..ใหญ่………แค่นั้น 55 เดินทางถึง  Fuji Q ประมาณเกือบ 9 โมงซึ่งเค้าเปิดให้เข้าตั้งแต่ 9.00-18.30 น.คนมารอซื้อตั๋วกันแน่นมากแล้วอ่ะ ข้างในไม่ต้องพูดถึง คนรอต่อคิวเยอะๆๆเลย เราไปเล่นเครื่องเล่นแรก

1.Fujiyama อันดับแรกก็เล่นความสูง world record เลยทีเดียวไม่มี warm เลย 55 ต่อคิวประมาณ 1 ชั่วโมงมั้งนะจำไม่ผิด  พอถึงคิวเราเค้าก็จะให้เอาของไปเก็บล็อคเกอร์ไม่ให้ถืออะไรเลยแม้แต่แว่นตา แล้วพวกเราจะทำไงใส่แว่นทุกคน มองอะไรเราไม่เห็นเลย ให้มีแต่ตัวเปล่าๆเลยจริงๆ แล้วเราก็ถือกุณแจไว้ซึ่งกุญแจนี้จะคล้องด้วยยางมัดผมอ่ะ ให้คล้องมือไว้จะได้ไม่หล่นหาย อือดีเนอะ จากนั้นก็ไปนั่งบนขบวนรถไฟ มากี่คนก็นั่งเป็นกลุ่มของตัวเองได้ เค้าไม่กังวลว่าที่นั่งว่างแล้วจะเสียจำนวนคนเลย พอขึ้นไปนี่ตอนแรกเริ่มไตร่ระดับความสูงก่อนไปเรื่อยๆช้าๆจนถึงระดับ 79 M. กินเนสบุ๊คเวิร์ดเร็คคอร์ด แล้วก็ค้างอยู่นานพอควรจนเราเดาไม่ถูกว่าจะลงตอนไหน  มองไปข้างล่างก็หวาดเสียวมาก ……จนไม่อยากจะมอง  หลังจากนั้นตอนดิ่งลงจาก 79 M. คงไม่คงต้องบอกว่ารู้สึกยังไง อะนะ Sukoiมาก หวาดเสียวจนชาไปทั้งตัว อากาศก็เย็น ลมปะทะอย่างแรง ลงไปปั๊บก็เหวี่ยงแบบว่าไม่รู้ทิศไหนเลย  มองอะไรไม่ทันอีกแล้ว  แรงจนน้ำตาไหลเลยทีเดียว  และแล้วมันก็จบลง  แต่ก็ดีที่ตอนขึ้นไป 79 เมตร  เห็นภูเขาไฟฟูจิอย่างชัดอ่ะ  สวยมาก  มีเมฆเล็กน้อย  ดูเหมือนหิมะเลย  แต่เสียดายที่ฝากกล้องไว้ในล็อกเกอร์  (แต่ถ้าถือไปด้วยคงหล่นอีกแหละ 555)  เสร็จแล้วไปดูรูปที่ทางสวนสนุกถ่ายเราตอนเล่นเครื่องเล่น  ถ้าจะซื้อเป็นรูปราคา  500 เยน  สติกเกอร์  400 เยน  แต่ว่าเราแค่เราเห็นยังรับไม่ได้เลยกับหน้าตาตัวเอง  อย่าซื้อกลับไปเลย  รับไม่ได้จริงๆ อาย  พวกเรา 3 คนไม่มีใครหน้าตาดูได้สักคน

2. จากนั้นก็ยังไม่เข็ดไปต่อเครื่องเล่นเรื่องความเร็ว  world record อีก  รอประมาณ ชั่วโมงครึ่ง  รอจนไม่อยากจะเล่นแล้ว  ตอนแรกนึกว่ามันก็คงเร็วมากตอนออกตัว  อ.ทะนิก็บอกว่าอันนี้ไม่น่ากลัวเท่าไหร่  เป็นแค่ทางตรง ๆ แต่พอจะเล่นจริงนี่สิ เค้าจะปล่อยขบวนรถออกไปสักนิดนึง แล้วก็รอทำความเร็วอ่ะ แล้วตอนพุ่งออกไปนี่กระชากเร็วมาก  ใจไปตกที่ตาตุ่มเลย แค่นั้นยังไม่พอ ไม่มีลดความเร็วเลยจริงๆ  วิ่งเร็วจนน้ำตาร่วงกันอีกเหมือนกัน แต่ดีไม่เหวี่ยงมาก  แต่เหวี่ยงทีนี่ รู้สึกว่ากลัวจะตก หรือชนคานเหล็กยังไงไม่รู้ มันเร็วอ่ะ  เสียว !!! เสร็จแล้ว ก็ไปดูรูปอีก  ดูไม่ได้อีกเหมือนกัน เลยไม่ซื้อ (ตอนหลังเดิน ๆ เล่นเพิ่งเห็นว่าเครื่องเล่นนี้เหมือนจะกินพื้นที่ยาวที่สุดในสวนสนุกเลยแหละ)

3. จากนั้นพวกเราก็เล่นเครื่องเล่นอื่นซ้อม  เพื่อเตรียมตัวเล่น  eejyanaika ซึ่งตรงนี้เป็นการจำลองเขตก่อสร้าง แล้วเป็นเครื่องเล่นที่มีแต่เก้าอี้ให้นั่ง ขาปล่อยลอย แล้วมีสลิงโยงเก้าอี้กับเครื่องอะนะ ตอนแรกคิดว่าคงไม่สูงเท่าไหร่ แต่พอขึ้นถึงบนสุดนี่ เหมือนอยู่ตรงยอดฟูจิดเลย 55 แล้วก็เหวี่ยง แรกๆ ก็เบาๆ สบายๆ ชิวๆ ชมวิวไปเรื่อย มองฟูจิอยู่หลายรอบ พอเริ่มเร็วปั๊บนี่ ไม่เห็นไรเลย  มองไม่ทัน ตั้งหลักไม่ถูก และแล้วก็จบลงอย่างรวดเร็ว อยากเล่นอีกนะ แต่ต้องต่อคิวใหม่ ยาวมาก ไม่ไหวอ่ะ (เครื่องนี้ อ. ทะนิไม่เล่น บอกว่ามันน่ากลัว 55)

 

4.  ไปเล่นนาฬิกาหมุน  ประมาณไวกิ้งอ่ะ  แต่มันหมุนจุรอบเลย  แต่ไม่ค่อยแรงเท่าไหร่นะเราว่า

5. แล้วก็ไปต่อกันที่ Pizza หมุนถาดยักษ์ 55ชื่อ tondemiina จุคนได้น่าจะประมาณ 50 คนนะ แล้วก็ไม่ต้องรอเลย  เพราะเล่นได้ทีละเยอะๆ ไม่เหมือนเครื่องเล่นอื่น ที่เล่นได้ประมาณทีละ 10 คน เครื่องเล่นนี้ ไม่แรงมากนะ เพราะมันดูแข็งแรงมากอ่ะ เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเหมือนไวกิ้งอ่ะ แต่หมุนถาดพิซซ่าด้วย พอหมุนไปแรงๆ รู้อย่างเดียวว่าเห็นท้องฟ้าสวยดี 55  เห็นแต่ท้องฟ้า 55  แล้วก็จบเหวี่ยง มันส์ดี ต่อไปกะจะเล่น eejyanaika  แต่ว่าต้องต่อคิว 2 ช.ม.กว่าเลยไปกินข้าวก่อนดีกว่า หิวมาก เช้ากินไม่อิ่ม 55 ไปกินที่ Cafeteria ประมาณโรงอาหารมั๊ง สั่งข้าวแกงกะหรี่  950 เยน  อร่อยดี ปริมาณพอเหมาะ แต่พอกินเร็จ เพิ่งรู้สึกว่า อิ่มมาก คงเล่น  eejyanaika  ไม่ไหวแล้ว เพราะมันเป็นเครื่องเหวี่ยง ตัวเรายังตีลังกา กลับตัวไปตามแรงด้วย  แค่เหวี่ยง ก็มึนแล้ว นี่จะหมุนทั้งตัวอีก พอเหอะ ไม่ไหว เดี๋ยวข้าวออกหมด 55 จากนั้นก็พยายาม หาอะไรเบาๆ

 

6. เลยไปเล่นปั่นจักรยาน 300 กว่าเมตร ก็ได้ย่อยดี

7. จากนั้นไปเล่น ล่องแก่ง ต่อคิว นานมากๆ ชั่วโมงกว่าๆ ตอนแรกที่คิดจะเล่น นึกว่าคนน้อย ที่ไหนได้ เยอะมาก แถมจะต้องเปียกด้วย แต่ดีที่เค้ามีให้ซื้อเสื้อกันฝน 100 เยน 55 ตอนต่อแถวอยู่ก็จะมี Video สั้นๆ ให้ดูเกี่ยวกับความเชื่อของแมวไรไม่รู้ พอดีเล่นก็สนุกดี ไหลไปตามน้ำ แต่ว่าสั้นไปหน่อยนะ ต่อคิวตั้งนาน เล่นได้นิดเดียว 55 จากนั้นก็ว่าจะไปเล่น บ้านผีสิง ที่เป็นโรงพยาบาลร้าง   ตามที่โฮสต์แนะนำมา  แต่ว่าเค้าปิด ไม่ให้เข้าแล้วอ่ะ  น่าเสียดาย แล้วคิดจะไปเล่นสเก็ต แต่เช่ารองเท้า 1000 เยน นี่ไม่มีงบอ่ะ ช่อเลยเดินไปดูกันดั้ม + ถ่ายรูปนิดหน่อย

 

8. จากนั้นก็ไปเข้าบ้านผีสิงอีกทีนึง เป็น Part 2 คือจะมีเรื่องเล่าผีอ่ะนะ ให้พวกเรายืนในโลงแล้วฟังเค้าเล่า แต่มันก็มี sound effect ประกอบให้ดูน่ากลัว แล้วก็มีน้ำพ่นมาเล็กน้อย และมีเสียงลมที่หลังเรา ไรงี๊อ่ะ แต่ฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ค่อยรู้เรื่อง เลยจะเข้าไปหลับมากกว่า ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรเลย ก็แค่มืดๆ น่าหลับ 55 ต่อไปถ้าจะเล่น eejyanaika  ก็คงต่อคิวไม่ทัน เลยเล่นเครื่องเล่นเด็กๆ ดูบ้าง (แต่ผู้ใหญ่เล่นเยอะนะ โดยเฉพาะ แฟนกัน 55)

9. เริ่มที่รถไฟเหาะแฮมทาโร่  แบบเด็กๆ ไปเรื่อยๆ ไม่น่ากลัวเท่าไหร่หรอก แต่ต่อคิวนาน

10. ต่อไป ไปนั่งถ้วยหมุน แล้วเราก็จับพวงมาลัย หมุนถ้วยเองด้วย แบบว่ามึนหัวมาก มึนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

  

11. จากนั้นก็ไปเล่นชิงช้าหมุนๆ แบบเด็กๆ  แบบว่า…หมุนมันอยู่นั่นแหละ  เวียนหัวมาก ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วจะอ้วก ตอนแรกๆ ก็กลัวๆ อยู่ เพราะเหวี่ยงแรงพอควร แต่หลังๆเริ่มมึน เมื่อไหร่จะจบ เวียนหัว 55 เสร็จจากนั้นก็ 5 โมงกว่าแล้วเลยเดินถ่ายรูปสักพัก แล้วออกไปดูของที่ระลึก แต่ส่วนใหญ่ก็มีแต่ขนมอ่ะ เห็นแล้วเบื่อ ไม่ซื้อแล้ว แล้วก็ออกไปยืนรอรถบัส เที่ยว 5.30 น. แต่รถ Delay อ่ะ สงสัยรถติด ซึ่งพอออกจาก Fuji Q เนี่ย รถก็ติดมาก ขยับทีละนิด เป็นชั่วโมง หลับจนเมื่อยอ่ะ แล้วเรากำลังเวียนหัวกับเครื่องเล่นเด็กๆ อยู่  แล้วต้องนั่งรถติดๆ อีก  แทบตาย จะอ้วก ก็เลย หลับๆ ไป ให้มันลืมๆ หายเวียนหัว สักพักก็ตื่นมาเขียนไดอารี  กว่าจะได้แต่ละบรรทัด แทบตาย  3 ทุ่มกว่าๆ ก็ถึงสถานี Omiya  ถึงบ้านด้วยรถบัส เที่ยวเกือบสุดท้ายในเวลาประมาณ 3 ทุ่ม 45 นาที มาถึง เจอ  Okasan กับOtosan  เค้าก็ถามว่าเป็นไงบ้าง เหนื่อยมั๊ย กินข้าวมาหรือยัง จากนั้นก็ไปนั่งกินข้าว  แบบหิวมาก กินเอากินเอาเลย อาบน้ำ สระผม (หัวสังกะตังมาก จากเครื่องเล่น)นอน 5 ทุ่มครึ่ง

 

บันทึกประสบการณ์วันที่ 13 ของน้องดา >>

Link ที่เกี่ยวข้อง >>
Diary บันทึกประสบการณ์ ผู้ชนะการแข่งขันภาษาญี่ปุ่น JChallenge#4
Diary บันทึกประสบการณ์ ผู้ชนะการแข่งขันภาษาญี่ปุ่น JChallenge#3

Leave a Reply