บันทึกประสบการณ์ของน้องดา ผู้ชนะจากการแข่งขันตอบปัญหาภาษาญี่ปุ่น J-Challenge#5 กับการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ที่โรงเรียน Yono Gakuin Japanese Language School จังหวัด ไซตามะ วันที่ 2. ตอน 1
วันพฤหัสที่ 14 ตุลาคม 2553 ไปโรงเรียนวันแรก+ศาลเจ้า hirakawa
วันนี้จะไปโรงเรียน นัดกับ อ.ทะนิไว้ว่าต้องไปถึงสถานี Saitama shintoshin ตอน 9 โมง แล้วจะเดินไปโรงเรียนด้วยกัน okasan บอกว่าตื่นประมาณ 8 โมงก็ทัน แต่เราตื่นมา 6.30 ซะงั้น สงสัยยังมึน ๆ กับเวลาอยู่ 55 ลงไปข้างล่างก็เจอ otosan เตรียมจะไปทำงานแต่เช้าเลย ohayougozaimasu แล้วเราก็เดินถ่ายรูปในบ้านเล่น
ประมาณ 8 โมงก็ไปกินอาหารเช้า เป็นขนมปัง ผลไม้ แล้วก็โยเกิร์ตเปล่า ๆ (ใส่ซอสรสผลไม้เพิ่มรสชาติ) อร่อยดี มีขนมปัง โยเกิร์ตใส่ซอสว่านหางจระเข้ และผลไม้อย่างละชิ้น
วันนี้จะไปโรงเรียน นัดกับ อ.ทะนิไว้ว่าต้องไปถึงสถานี Saitama shintoshin ตอน 9 โมง แล้วจะเดินไปโรงเรียนด้วยกัน okaasan บอกว่าตื่นประมาณ 8 โมงก็ทัน แต่เราตื่นมา 6.30 ซะงั้น สงสัยยังมึน ๆ กับเวลาอยู่ 55 ลงไปข้างล่างก็เจอ otousan เตรียมจะไปทำงานแต่เช้าเลย ohayou gozaimasu แล้วเราก็เดินถ่ายรูปในบ้านเล่น
นั่งกินอยู่ดี ๆ ก็มีใครไม่รู้เปิดประตูเข้ามา คิดว่าน่าจะเป็นพี่ชายก็เลยแนะนำตัว เค้าก็งงเหมือน ๆ กับเราอ่ะ 555 แหมกลับซะเช้าเชียว แล้วเค้าก็ไปอาบน้ำ แล้วมานั่งกินอาหารกับเรา
พอ okaasan กับ taka ทานอาหารเช้าเสร็จ เราก็ไปเอาของขวัญ ของฝากจากเมืองไทยมาให้เค้า เราให้เข็มขัดสานๆ กับ okaasan แต่มันดูธรรมดามากเลยอ่ะ แล้วก็ให้ผ้าพันคอกับ Taka
จากนั้น พี่ชาย (Taka) ก็ไปโรงเรียนกับเรา พาเราไปสอนวิธีเดินทางไปโรงเรียน เราก็ถ่ายรูปทุกขั้นตอนเลย กลัวกลับบ้านไม่ถูก
:: วิธีการเดินทาง ::
เดินออกจากซอยบ้าน แล้วเข้าไปเดินในที่จอดรถจักรยานของมหวิทยาลัยไซตามะ แล้วเดินทะลุจนสุดทาง แล้วเดินไปขึ้นรถบัส ตรงอนุสาวรีย์อะไรก็ไม่รู้หน้ามหาลัย ซึ่งเป็นต้นสายแล้วนั่งไปจนสุดสาย ไปลงหน้าสถานีรถไฟ Kita-urawa
รถบัสในเมืองไซตามะนี่จะขึ้นจากทางด้านหลัง ลงด้านหน้า ต่างกับที่โตเกียว ซึ่งขึ้นด้านหน้า ลงด้านหลัง 555 ซึ่งจะเปิดทีละประตู ยกเว้นกรณีที่มีทั้งคนขึ้น-ลง จะเปิด 2 ประตู ดีที่ Taka พาไป เราเลยไม่โง่ไปบอกให้เค้าเปิดประตูด้านหน้า 555 แล้วถ้าคนไม่รู้ว่าขึ้นตรงไหน จะหน้าแตกไหมเนี่ย
พอขึ้นไปก็จะมีเครื่องแปะบัตร หรือเอาตั๋ว สำหรับคนไม่มีบัตร เครื่องตรงจุดนี้ เราคิดว่ามีไว้เพราะราคามันไม่เหมือนกัน เลยต้องแปะบัตร หรือรับตั๋วไว้ให้รู้ต้นทางละมั้ง แล้วก็นั่งไปเรื่อย ๆ ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ไม่เหมือนรถเมล์บ้านเราเลย ที่วิ่งตั้งแต่ต้น-สุดสาย
ใช้เวลาเป็นชั่วโมงอ่ะ รอบ ๆ รถในทุก ๆ ที่นั่งหรือทุกเสา ก็จะมีกริ่งให้กดเวลาจะลง พอเรากดก็จะขึ้นไฟที่มีตัวอักษรมีสีแดงเขียนว่า 止まります ซึ่งตลอดทางนี้ถ้าจะลงป้ายไหนก็ไม่ต้องคอยดูเองว่ารถวิ่งถึงไหนแล้ว เพราะคนขับจะเปิดเสียง หรือพูดบอกตลอดเวลาว่า ป้ายต่อไปคืออะไร
บางทียังมีการบอกว่าสถานที่นี้มีอะไรเป็นสถานที่สำคัญอีกด้วย และแล้วก็สุดสายรถเมล์ ด่านต่อไปก็ต้องไปต่อรถไฟ จากสถานี Kita-urawa ไปลงสถานี Saitama shintoshin
จากนั้นก็ไปเข้าไปรอรถไฟที่ชานชาลาสายสีฟ้า หรือที่เรียกว่า Keihin tohoku sen ไปลงสถานี Saitama shintoshin ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
จอภาพในรถไฟ มีเฉพาะในบางขบวน จอนึงจะบอกเกี่ยวกับเส้นทางรถไฟ ว่าถึงไหนแล้ว จะใช้เวลาอีกกี่นาที แล้วบอกความเคลื่อนไหวของรถไฟขบวนอื่นด้วย ว่ามี delay หรือเปล่า อะไรประมาณนั้นส่วนอีกจอจะเป็นโฆษณา หรือพวกพยากรณ์อากาศ
แล้วเราก็มาถึงสถานี Saitama shintoshin คนแรกเลย ส่วนอ.ทะนิก็มารออยู่แล้ว สักพักเราก็ขอไปเติมเงินบัตร suica (เรามีอยู่แล้วตั้งแต่ครั้งที่แล้ว แต่จำไม่ได้ว่าเงินเหลือเท่าไหร่)
**เดี๋ยวค่อยบอกวิธีเติมเงินบัตรวันอื่นนะ เดี๋ยววันนี้รายละเอียดจะเยอะเกินไป**
พอ 9 โมงทุกคนก็มาครบ ตรงเวลามากค่ะ ส่วน Taka ก็ยังจะเดินไปส่งเราที่โรงเรียนอีก ส่งถึงที่จริง ๆ อ่ะ
บันทึกประสบการณ์วันที่ 2/2 ของน้องดา >>
Link ที่เกี่ยวข้อง >>
Diary บันทึกประสบการณ์ ผู้ชนะการแข่งขันภาษาญี่ปุ่น JChallenge#4
Diary บันทึกประสบการณ์ ผู้ชนะการแข่งขันภาษาญี่ปุ่น JChallenge#3