ตามติดนักเรียนใหม่ร.ร. Intercult ภาคเรียนเมษายน 2013 (ตอนที่ 3)
Posted in jvisit-J no Nikki, โตเกียว on 04/17/2013 08:36 am by Junelisตามติดนักเรียนใหม่ร.ร. Intercult ภาคเรียนเมษายน 2013 กันต่อนะคะ
ตอนนี้ เป็นเรื่องของการซื้อโทรศัพท์มือถือและเปิดบัญชีธนาคารค่ะ
การเปิดบัญชีธนาคาร / บัญชีไปรษณีย์
การเปิดบัญชีธนาคารที่ญี่ปุ่นสำหรับนักเรียนต่างชาตินั้น เงื่อนไขของแต่ละธนาคารจะค่อนข้างแตกต่างกันไป บางแห่งมีเงื่อนไขว่าจะต้องอยู่ในญี่ปุ่นเกิน 6 เดือนขึ้นไปจึงจะเปิดบัญชีธนาคารได้ บางแห่งต้องใช้ Inkan :印鑑 (ตราประทับใช้แทนลายเซ็นต์ )ในการเปิดบัญชี ในขณะที่บางแห่งใช้ลายเซ็นต์แทนก็ได้ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเรียนของโรงเรียนอินเตอร์คัลท์ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลค่ะ เพราะทางโรงเรียนจะมีเจ้าหน้าที่พาไปเปิดบัญชีธนาคารซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน แต่ก่อนอื่น เพื่อไม่ให้เสียเวลา ก็ต้องมานั่งกรอกเอกสารการขอเปิดบัญชีธนาคารกันก่อนนะคะ แน่นอนว่านักเรียนจะต้องเขียนเอกสารด้วยตัวเอง และเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งทางโรงเรียนก็มีตัวอย่างให้ดูว่าจะต้องกรอกอย่างไรค่ะ
สำหรับเอกสารอื่น ๆ ที่ต้องเตรียมไปด้วยก็ได้แก่ บัตรไซริวการ์ด บัตรประกันสุขภาพ บัตรนักเรียน หนังสือเดินทาง และ inkan 印鑑 ( ตราประทับที่ใช้แทนลายเซ็นต์ ) ซึ่งน้อง ๆ ก็ไปจัดการทำ inkan ที่ร้านใกล้ ๆ โรงเรียนมาเรียบร้อยแล้ว
กรอกแบบฟอร์มเรียบร้อย เอกสารทุกอย่างก็เตรียมพร้อม ว่าแล้ว…โบซัง เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนก็พาเดินไปเปิดบัญชีธนาคารกันค่ะ
มาถึงก็กดบัตรคิวนะคะ
พอถึงคิวตัวเอง ก็เอาเอกสารไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจเช็คค่ะ การเปิดบัญชีธนาคารครั้งแรกจะใส่เงินไว้เท่าไหร่ก็ได้ ตั้งแต่ 1 เยนขึ้นไป พร้อมทั้งสมัครทำบัตรกดเงินสดหรือ ATM ได้เลย
กลับมานั่งรอสักครู่ ก็ได้สมุดบัญชีมาเรียบร้อย ส่วนบัตร ATM จะถูกส่งมาให้ที่บ้านทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ค่ะ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธนาคารญี่ปุ่น >> ธนาคาร
นอกจากการเปิดบัญชีเงินฝากกับทางธนาคารแล้ว ยังสามารถเปิดบัญชีเงินฝากกับไปรษณีย์ด้วยนะคะ ซึ่งก็เหมือนกับธนาคารปรกติค่ะ มีสมุดบัญชีเงินฝาก มีบัตร ATM ให้กดเงินสดได้เหมือนกัน การเปิดบัญชีเงินฝากกับทางไปรษณีย์ก็ค่อนข้างทำได้ง่ายกว่าธนาคาร แต่จะไม่สามารถให้ผู้ปกครองโอนเงินระหว่างประเทศจากไทยเข้ามาได้
หลังจากเปิดบัญชีธนาคารแล้ว ข้าง ๆ มีห้างทาเคยะ 多慶屋 หรือที่คนไทยเรารู้จักกันดีในชื่อของ ” ตึกม่วง ” เพราะตัวอาคารซึ่งมีอยู่หลายตึก แบ่งตามประเภทของสินค้า ทุกตึกทาสีม่วงเห็นได้เด่นชัดมากค่ะ ห้างทาเคยะนี่เรียกได้ว่าอยากจะซื้ออะไรมีทุกอย่างค่ะ ตั้งแต่ของกระจุกกระจิกไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ และราคาถือว่าไม่แพงค่ะ ว่าแล้วก็แวะช้อปปิ้งกันหน่อยดีกว่า
ดูท่าจะได้ซื้อของที่นี่กันบ่อย ๆ น้อง ๆ เลยทำบัตรสมาชิกด้วยเลย สามารถสะสมแต้มไว้เพื่อรับโปรโมชั่นต่าง ๆ ได้ค่ะ
โทรศัพท์มือถือ
ปัจจุบัน การซื้อและทำสัญญาโทรศัพท์มือถือสำหรับนักเรียนต่างชาตินั้น ง่ายและสะดวกกว่าแต่ก่อนอย่างมากค่ะ เพราะการแข่งขันทางการตลาดที่ค่อนข้างสูง ทำให้บริษัทค่ายโทรศัพท์ อย่าง Softbank และ au (KDDI) ซึ่งมีโปรโมชั่นสำหรับนักเรียนโดยเฉพาะ ต่างพากันเข้าถึงลูกค้าโดยตรง โดยเข้ามาให้บริการแนะนำและทำสัญญาการซื้อโทรศัพท์มือถือ ถึงที่โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น แถมยังมีพนักงานที่สื่อสารได้หลายภาษา เช่น อังกฤษ จีนและเกาหลีค่ะ
โดยทั่วไปการทำสัญญามือถือที่ญี่ปุ่น จะทำสัญญาครั้งละ 2 ปีค่ะ ถ้าครบ 2 ปีแล้วไม่ได้ยกเลิกภายในเดือนที่หมดสัญญานั้น ก็จะถือว่าต่อสัญญาอีก 2 ปีโดยอัตโนมัติ และถ้ายกเลิกก่อนหมดสัญญาก็จะต้องเสียค่ายกเลิกประมาณ 1 หมื่นเยน ซึ่งเป็นเรื่องปรกติค่ะ
ส่วนโปรโมชั่นต่าง ๆ ก็จะคล้ายบ้านเราที่มีหลายโปรโมชั่นให้เลือก และจะเปลี่ยนแปลงไปแล้วแต่ว่าจะมีโปรโมชั่นอะไรออกมา สำหรับช่วงที่น้อง ๆ ซื้อกันนี้ iPhone 5 16 GB ของ au ค่าเครื่อง iPhone ฟรี อินเตอร์เน็ตไม่จำกัด โทรในเครือข่ายเดียวกันฟรีในช่วงเวลาตีหนึ่งถึงสามทุ่ม ค่าบริการเดือนละประมาณ 3,900 เยน รวมค่าประกันเครื่องแล้ว ถ้ายกเลิกสัญญาก่อนครบ 2 ปีก็ไม่ต้องชำระค่าเครื่องแต่อย่างใด ชำระเฉพาะค่ายกเลิกสัญญาประมาณหนึ่งหมื่นเยนอย่างเดียว คิดไปคิดมา ถูกกว่าที่เมืองไทยเสียอีกนะคะเนี่ย
หมายเหตุ :
เงื่อนไขและโปรโมชั่นของค่ายมือถือแต่ละบริษัทจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ช่วงเวลา กรุณาตรวจเช็คข้อมูลจากเว็บไซท์ของแต่ละบริษัทนั้น ๆ โดยตรง
ทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว ก็รับเครื่องไปเลยค่ะ ไม่ต้องจ่ายเงินค่าอะไร ส่วนค่าบริการก็จะตัดบัญชีจากธนาคารที่น้อง ๆ ไปเปิดไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ
ขั้นตอนหรือสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องทำในช่วงแรกเมื่อมาถึงญี่ปุ่นก็จัดการกันไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ก็เริ่มใช้ชีวิตนักเรียนในญี่ปุ่นกันอย่างจริงจังล่ะค่ะ สู้ สู้นะคะ
Link ที่เกี่ยวข้อง : โรงเรียน Intercultural Institute of Japan