การปฐมนิเทศเรื่องหอพักและชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียน CBC

J-Visit  ฉบับนี้  ยังคงพาไป CBC กันนะคะ  วันนี้นักเรียนไทยซึ่งเข้าเรียนในภาคเรียนเดือนเมษายน  2011 อีก 5 คน  เพิ่งมาโรงเรียนวันแรกค่ะ  แม้จะเป็นช่วงวันหยุด Golden Week  ไม่มีการเรียนการสอน   แต่ทางโรงเรียนก็จัดให้มีการปฐมนิเทศเรื่องหอพัก และการเตรียมเอกสารต่าง ๆ  รวมถึงการสอบวัดระดับเข้าเรียนให้กับนักเรียนใหม่   ตามไปดูขั้นตอนต่าง ๆ กันค่ะ

เนื่องจากกำหนดการเดินทางมาเข้าเรียนในภาคเรียนนี้  แบ่งเป็นสองช่วงตามความสมัครใจของนักเรียน  น้อง ๆ นักเรียนไทยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เดินทางมาทีหลังค่ะ   วันนี้เมื่อทุกคนมาถึงโรงเรียน จะได้รับถุงขนมแบบนี้ค่ะ  ようこそ、CBC へ ยินดีต้อนรับสู่ CBC ค่า… ( ดิฉันก็เลยพลอยได้รับไปด้วย ^^ )

เช้านี้เป็นการปฐมนิเทศเกี่ยวกับการใช้ชีวิตโดยทั่วไปโดย  Ishijima sensei  ค่ะ  เริ่มต้น  Ishijima sensei  ให้เลือกว่าอยากจะฟังคำอธิบายด้วยภาษาอะไร  ระหว่างภาษาอังกฤษกับภาษาญี่ปุ่น  แต่ไหน ๆ ก็มาถึงญี่ปุ่นแล้วนี่นะ  ก็ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นกันล่ะ  แต่ Ishijima sensei  ก็พยายามใช้ภาษาญี่ปุ่นที่ไม่ยากจนเกินไป ประกอบกับภาษาอังกฤษไปด้วย   และมีน้องแบงค์  ซึ่งเดินทางมาก่อนเมื่อต้นเดือนเมษายน มาช่วยอธิบายด้วยอีกคน  เพราะเพิ่งผ่านขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้มาหมาด ๆ


จิ๊บและเนส


กระแต และสองพี่น้อง กุ๊ก-ก้อย


แบงค์…วันนี้อาจารย์เรียกให้มาช่วยดูแลเพื่อนที่มาใหม่ค่ะ

เริ่มต้นด้วยการให้นักเรียนเขียนชื่อ นามสกุลตัวเอง  ทั้งภาษาอังกฤษ และญี่ปุ่น ( คาตาคานะ ) รวมถึงชื่อเล่นที่จะใช้เรียกที่โรงเรียนค่ะ  ( ใครยังเขียนชื่อจริงของตัวเองด้วยอักษรคาตาคานะไม่เป็น  ต้องหัดมาให้พร้อมนะคะ  อย่างน้อยก็ต้องเขียนชื่อตัวเองให้ได้ละนะ   )

ต่อจากนั้นก็เป็นการขั้นตอนของการกรอกแบบฟอร์มเพื่อลงทะเบียนคนต่างชาติค่ะ   คนต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยในประเทศญี่ปุ่นเกิน 90 วันจะต้องลงทะเบียนคนต่างชาติที่เขตที่พักอาศัยอยู่นะคะ   ฉะนั้น  ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนแรกสำหรับนักเรียนทุกคนที่มาเรียนด้วยวีซ่านักเรียนค่ะ

Ishijima sensei  แจกแบบฟอร์มให้ทุกคนกรอกด้วยตัวเอง (แน่นอนค่ะว่ากรอกเป็นภาษาญี่ปุ่น)  โดยเซนเซอธิบายวิธีการกรอกให้ดูบนกระดานพร้อมกับอธิบายไปทีละช่อง  ๆ  และคอยเช็คว่าแต่ละคนกรอกถูกต้องไหม  ( การลงทะเบียนคนต่างชาตินั้น  สถาบันหลายแห่งให้นักเรียนไปทำด้วยตนเองนะคะ  ฉะนั้น ควรฝึกเขียนที่อยู่ของตัวเองด้วยอักษรคันจิให้ได้ )

(  ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2555 ได้มีการยกเลิกระบบลงทะเบียนชาวต่างชาติที่สำนักงานเขต  และเปลี่ยนระบบให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเป็นผู้ออกบัตร Resident Card หรือ ไซริวการ์ดให้คนต่างชาติแทน  โดยนักเรียนต่างชาติจะได้รับบัตรไซริวการ์ดที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ทันที มี 4 แห่ง คือ นาริตะ ฮาเนดะ คันไซ ชูบุ (นาโกยา) หากเป็นท่าอากาศยานอื่น ๆ จะประทับตราข้อความว่าจะส่งบัตรให้ภายหลัง (ซึ่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ภายหลังจากที่ผู้นั้นได้แจ้งข้อมูลที่พักอาศัยต่อสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอแล้ว   สำหรับบัตรประกันสุขภาพยังคงต้องทำตามปรกติเช่นเดิม ) 

 

หลังจากกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนคนต่างชาติแล้ว  ก็เป็นแบบฟอร์มการทำประกันสุขภาพแห่งชาติค่ะ   การทำประกันสุขภาพแห่งชาติมีความจำเป็นค่ะ  เพราะค่ารักษาพยาบาลที่ญี่ปุ่นแพงมาก  แต่หากทำประกันสุขภาพแห่งชาติแล้ว รัฐบาลจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้ 70 เปอร์เซ็นต์  นักเรียนชำระ 30 เปอร์เซ็นต์ (  ขนาดจ่ายแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์ก็ยังถือว่าแพงเอาการอยู่นะคะ )  สำหรับค่าเบี้ยประกันจะแตกต่างกันไปตามแต่ละเขตค่ะ   สำหรับนักเรียนที่เพิ่งมาใหม่  ก็จะมีเอกสารอีกใบให้กรอกค่ะ  เพื่อแจ้งให้ทางเขตทราบว่า ไม่มีรายได้  ซึ่งก็จะทำให้ค่าเบี้ยประกันถูกลง

จบขั้นตอนการเตรียมเอกสารค่ะ  ซึ่งเอกสารต่าง ๆ เหล่านี้  อาจารย์จะพาไปยื่นที่เขตคาวาซากิอีกครั้ง  ตามไปดูภาพของรุ่นพี่ CBC ได้จากคอลัมน์ตอนนี้นะคะ

คราวนี้ก็มาถึงการอธิบายเรื่องหอพักค่ะ  สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดซึ่งนักเรียนจะต้องเรียนรู้คือ “ การแยกขยะ “ ประเภทต่าง ๆ  ว่ามีประเภทไหนบ้าง  ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความงงงวยให้กับนักเรียนใหม่ทุกคนอยู่เป็นประจำค่ะ  เพราะแยกขยะหลายประเภทเหลือเกิน  และนอกจากจะต้องแยกประเภทให้ถูกต้องแล้ว  ยังจะต้องนำมาทิ้งให้ถูกต้องตามวันที่กำหนดด้วยนะคะ   Ishijima sensei  ย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามทิ้งมั่ว ๆ เด็ดขาด  เพราะมิเช่นนั้น  ทางโรงเรียนจะต้องถูกตำหนิอย่างแน่นอน

ต่อจากนั้น  เซนเซแจกแฟ้มรวมข้อมูลที่จำเป็นในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ  ซึ่งเป็นข้อมูลสำหรับแต่ละหอพักค่ะ  แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของทางโรงเรียนและคำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนอย่างมากค่ะ

ภายในแฟ้ม มีข้อมูลตั้งแต่  ที่อยู่และแผนที่ตั้งของหอพักที่นักเรียนคนนั้นพักอยู่    พร้อมมีหมายเลขแสดงสถานที่สำคัญหลัก ๆ ไว้ 3 แห่ง คือโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด  , สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด และสถานที่ซึ่งเปิดให้เป็นที่พักชั่วคราว กรณีเกิดภัยพิบัติใด ๆ

นอกจากนั้น เนื้อหาข้อมูลในแฟ้ม จะเป็นการให้ข้อมูลวิธีการปฎิบัติตัวที่ถูกต้องกรณีเกิดเหตุร้ายหรือภัยพิบัติ  เช่น ไฟไหม้  แผ่นดินไหว  การเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ  รวมถึงเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน  เช่น กรณีไฟไหม้  แจ้งตำรวจ  เรียกรถพยาบาล  , รายชื่อสถานพยาบาลต่าง ๆ  สถานีตำรวจ

ไม่เพียงแค่นั้นค่ะ  ยังมีเอกสารอีกใบซึ่งเตรียมเอาไว้กรณีฉุกเฉิน หากเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ที่นักเรียนจำเป็นจะต้องอพยพไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว เช่น ไปรวมตัวกันที่ศูนย์อพยพที่ทางเขตกำหนดไว้ ( ส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนประถม , มัธยมในท้องที่ )  จะต้องเขียนเอกสารใบนี้ แจ้งว่าจะไปอยู่ที่ไหน  และติดเอาไว้ที่หน้าประตูห้องพัก  เพื่อที่ทางโรงเรียนจะได้ทราบว่านักเรียนไปอยู่ที่ไหน  และสามารถตามตัวได้ค่ะ  ที่สำคัญคือ ด้านหลังของกระดาษนี้ มีกระดาษกาวติดเอาไว้พร้อมแล้วค่ะ  ไม่ต้องกลัวว่าหากเกิดเหตุกระทันหันจะหากระดาษกาวมาติดไม่ได้นะคะ   สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ จะเห็นว่าที่ญี่ปุ่น มีการวางแผนอย่างรอบคอบและเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าอยู่เสมอค่ะ

ปิดท้ายกันด้วย การอธิบายเกี่ยวกับระเบียบต่าง ๆ ของหอพักค่ะ  เช่น
– เรื่องสัญญาของหอพัก  จะทำทุก ๆ หกเดือน  ถ้าออกจากหอพักก่อนหมดสัญญาจะไม่ได้รับเงินค่ามัดจำคืน
– การทำความสะอาดจะต้องแบ่งเวรกันกับเพื่อนร่วมห้อง
– ทุก ๆ สามเดือนจะต้องสลับที่นอนกัน ( ข้างล่างกับชั้นลอย) ยกเว้นแต่บางคู่ที่ตกลงกันได้
– ห้ามติดรูปที่ผนังห้อง  ( เรื่องนี้อาจารย์ยกตัวอย่างว่า ห้ามเอารูปยามะพีติดผนังห้องนะคร้าบ ^^ )
ฯลฯ
จบการปฐมนิเทศหอพักแล้ว  ขอบันทึกภาพน้อง ๆ กับอาจารย์หน่อยค่ะ

หลังจากปฐมนิเทศหอพักแล้ว  น้อง ๆ  ก็ต้องไปสอบวัดระดับกันต่อค่ะ  เพื่อที่ทางโรงเรียนจะได้จัดให้เข้าชั้นเรียนที่เหมาะสมกับระดับความรู้พื้นฐานของแต่ละคน  แว่บไปแอบดูบรรยากาศที่ห้องสอบกันนิดนึงนะคะ

เราปล่อยให้น้อง ๆ ทำข้อสอบกันไปดีกว่านะคะ    ระหว่างที่รอน้อง ๆ ออกจากห้องสอบ  Yamazaki sensei  เลยบอกดิฉันว่ามีเวลาอีกประมาณสองชั่วโมงกว่าน้องๆ จะสอบเสร็จ  อย่างนั้นเซนเซจะพาไปเที่ยวที่วัด Kawasaki Daishi (川崎大師) ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ เป็นวัดที่มีคนไปไหว้พระมากที่สุดเป็นอันดับสามค่ะ   และ Kawasaki Daishi ก็อยู่ห่างจากโรงเรียนเพียงแค่ 5 นาทีโดยรถไฟเท่านั้นเอง

อ่า…ถ้าอย่างนั้น  ตอนนี้ดิฉันขอตัวไปทัวร์วัด Kawasaki Daishi กับ Yamazaki sensei ก่อนละนะค๊า ….

Tags: , ,  

1 Comment

  1. ซากุราซากะ ฮิคารุ

    งำงำ ยากไหมอ่ะ มหาลัยนี้อยากเข้ามากมาย แต่ต้องฝึกภาษาอีกสักพักอ่ะนะ แต่เรียนด้วยตัวเองอ่ะ เลยไปได้ไม่ถึงไหนเลย ทำไงดีล่ะ ไปหาที่เรียนในไทยก็ แบบว่า ไม่มีตัง *-*

Leave a Reply

You must be logged in to post a comment.