พาเยี่ยมชม Kobe International University

หน้ารร.หลัก

คอลัมน์นี้พาทุกท่านไปเยี่ยมชม Kobe International University ที่โกเบ โดยพี่บุษ เจ้าหน้าที่เจเอ็ดดูเคชั่นค่ะ บรรยากาศจะเป็นอย่างไร ติดตามจากบันทึกของพี่บุษได้เลยนะคะ :)

เมื่อไม่นานมานี้บุษได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัย Kobe International University ซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง Kobe จังหวัด Hyogo มาค่ะ มหาวิทยาลัยเป็นอย่างไร ประทับใจอะไรบ้าง ก็จะมาเล่าให้ฟังกันนะคะ ก่อนอื่นขอแนะนำมหาวิทยาลัยคร่าวๆ กันก่อนค่ะ..

มหาวิทยาลัย Kobe International University (KIU) ก่อตั้งในปี 1968 เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดรับนักศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ สถาบันตั้งอยู่บนเกาะ Rokko ซึ่งสามารถมองเห็นบรรยากาศมหาสมุทรแปซิฟิกอันสวยงาม และได้ใช้ชีวิตร่วมกับนักศึกษาจากนานาประเทศ

Kobe International University เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีแค่ 2 คณะเป็นหลัก ได้แก่

1. Faculty of Economics ซึ่งมีสาขาย่อย 2 สาขาได้แก่

  • Department of Economics and Management
  • Department of Urban Environment and Tourism

2. Faculty of Rehabilitation มีสาขาย่อย 1 สาขาได้แก่

  • Department of Physical Therapy

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นเพื่อเตรียมศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย หรือที่เรียกว่า Bekka ด้วยค่ะ โดย Bekka จะเน้นสอนภาษาญี่ปุ่นเพื่อการนำไปใช้จริงได้หลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็น เพื่อสอบเข้าศึกษาต่อที่ Kobe International University, เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่อื่น, เพื่อสอบเข้าระดับปริญญาโท, หรือเพื่อการทำงาน เป็นต้น

นักเรียนที่เรียนหลักสูตร Bekka จะเรียนทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เรียนรอบเช้าตั้งแต่ 9.20 น. – 12.30 น. และรอบบ่ายตั้งแต่ 13.20 น. – 16.30 น. เรียกได้ว่าเรียนกันทั้งวัน ได้เนื้อหากันเต็มๆค่ะ

แนะนำมหาวิทยาลัยคร่าวๆแล้ว ก็ขอพาไปชมมหาวิทยาลัยกันนะคะ เริ่มตั้งแต่การเดินทางกันเลยค่ะ

001 002 003

สถานี Sumiyoshi สาย Rokko Liner

004

การเดินทางไปมหาวิทยาลัย Kobe International University สามารถเดินทางไปได้หลายทางด้วยกันค่ะ

ถ้าเดินทางจาก Osaka ก็สามารถนั่งสาย JR หรือHankyu หรือ Hanshin ก็ได้ แต่บุษเลือกนั่งสาย JR Tokaido Main Line จากสถานี Osaka มาลงที่สถานี Sumiyoshi แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Rokko Liner และนั่งต่อไปลงที่สถานี Marine Park ซึ่งเป็นสถานีสุดท้าย และเป็นสถานีที่ใกล้มหาวิทยาลัย Kobe International University ที่สุดค่ะ ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 30 นาทีโดยประมาณค่ะ

ส่วนการเดินทางจากสนามบิน Kansai มามหาวิทยาลัยก็ง่ายมากๆค่ะ สามารถขึ้นรถ Airport Shuttle Bus มาลงที่ป้าย Island center ได้เลยค่ะ ใช้เวลาเดินทางแค่ 1 ชั่วโมง และป้าย Island Center สามารถเดินไปที่มหาวิทยาลัยได้เลยค่ะ

ภายในรถไฟ เป็นรถไฟขนาดเล็กมีประมาณ 3-4 โบกี้ค่ะ

005

รถไฟลอดใต้สะพานที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่กับเกาะที่เป็นที่ตั้งของ Kobe International University

006

วิวข้างทางระหว่างนั่งรถไฟ

007 008

เมื่อถึงสถานี Marine Park แล้วก็เดินออกทางประตู 1 ค่ะ

ทางออกมีทางเดียวเลย ผ่านที่เก็บตั๋วก็จะเจอทางเดินตรงไปเรื่อยๆ

009

พอลงบันไดก็เดินตรงไปเรื่อยๆอีกไม่ถึง 1 นาที ก็จะเจอประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ

010

ถึงแล้วค่ะ Kobe International University

011

ที่ป้ายทางเข้ามหาวิทยาลัยจะเล็กไม่เหมือนมหาวิทยาลัยอื่นทั่วไปก็เพราะว่า หากทำป้ายสูงใหญ่ก็จะบังวิวทิวทัศน์บริเวณนั้น ทำให้ผู้ที่สัญจรผ่านมาไม่ได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์อย่างเต็มที่ ซึ่งหากเดินจากหน้ามหาวิทยาลัยตรงไปเรื่อยๆก็จะเจอมหาสมุทรแปซิฟิกเลยค่ะ โดยจะเป็นที่ที่ผู้สัญจรอื่นทั่วไปสามารถมาพักผ่อนหย่อนใจ นั่งตกปลา วิ่งออกกำลังกายก่อนจะไปชมภายในมหาวิทยาลัยก็ได้ค่ะ

ก่อนจะไปชมภายในมหาวิทยาลัย มาดูแผนผังอาคารของมหาวิทยาลัยกันก่อนนะคะ

0000

คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

จากประตูมหาวิทยาลัยพอเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัย ตึกทางขวามือจะเป็นอาคาร 1

ซึ่งเป็นอาคารที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัยทำงานค่ะ

012

ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นอาคาร 2 โดยที่ชั้น 1 จะเป็นห้อง International Center ซึ่งเป็นฝ่ายดูแลนักเรียนต่างชาติ โดยจะดูแลตลอดเรื่องการสมัครเข้าเรียน วีซ่า การช่วยหางานพิเศษ หอพัก การหางานหลังจากเรียนจบ ฯลฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ จีน และเวียดนามได้ค่ะ 

013 014 015

นอกจากนี้ ที่ International Center จะมีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ และมีหนังสือต่างๆที่แนะนำการเรียนต่อและการหางานทำที่ประเทศญี่ปุ่นให้กับนักเรียนต่างชาติด้วยค่ะ และจะมีชั้น Post box ที่มีชื่อของนักเรียนต่างชาติแต่ละคนติดไว้อยู่ โดยทางมหาวิทยาลัยก็จะคอยแจ้งข่าวสารทั่วไป และใส่จดหมายไว้ใน Post box นี้ พอนักเรียนเลิกเรียนก็จะมาที่ห้องนี้กันเป็นประจำเพื่อดูว่ามีข่าวสารอะไรแจ้งถึงตัวเองบ้าง

017 016

ต่อไปจะพาไปดูภายในอาคาร 2 ที่มีห้องเรียนอยู่ที่ชั้น 2 และ 3 ของอาคารค่ะ

ห้องเรียนในรูปนี้เป็นห้องเรียนขนาดใหญ่สุด บรรจุนักศึกษาได้ถึง 400 คนเลยค่ะ ส่วนห้องเรียนอื่นๆก็จะมีหลายขนาดค่ะ แต่จำนวนนักศึกษาต่อห้องก็จะจำกัดที่จำนวนน้อย ซึ่งเป็นจุดเด่นของมหาวิทยาลัย เพื่อความทั่วถึงในการเรียนการสอนค่ะ

018 019

นี่เป็นห้องน้ำผู้หญิงค่ะ ไฮโซ น่ารักมาก แต่ของผู้ชายเป็นไงไม่รู้นะคะ ไม่กล้าเข้าไปดู 55

020

นี่คือจุดพักผ่อนทานอาหารว่าง หรือนั่งเล่นสำหรับนักศึกษาค่ะ อยู่ในอาคารเลย สะอาดและน่านั่งมาก

021

ตามโถงทางเดินในอาคารก็สะอาดมาก ตามกำแพงก็จะมีบอร์ดติดผลงานเรียนจบของนักศึกษาด้วย

นักเรียนต่างชาติเองก็ต้องทำด้วยเหมือนกันนะคะ

022

ต่อไปเป็นห้อง Aqua Hall เป็นห้องอเนกประสงค์สำหรับนักศึกษาค่ะ

อยู่บนอาคาร 2 ชั้น 3 นักศึกษาจะมานั่งทำการบ้าน ทานอาหารว่าง อ่านหนังสือ นอน(มีโซฟาสำหรับนอนให้ด้วยอ่ะ) พักผ่อน ก็สามารถทำได้ค่ะ แถมวิวดีมากๆ มองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นทะเลเลย วิวสวยประทับใจมากๆ นอกจากจะได้เรียนแล้ว ยังเหมือนได้พักผ่อนตามที่พักตากอากาศไปด้วยยังไงยังงั้น 55

023 024 025 026

หรือในวันอากาศดีๆก็จะมานั่งเล่นข้างนอกบนระเบียงทางเชื่อมไปอาคาร 3 ก็ได้ด้วยเหมือนกันค่ะ ก็ยังสามารถชมวิวทะเลได้ด้วยเหมือนกันค่ะ

027

ต่อไปเป็นห้องสมุดของมหาวิทยาลัยค่ะ

ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของอาคารที่ 2 ค่ะ หากเป็นนักศึกษาของที่นี่อยู่แล้ว ก็สามารถสแกนบัตรนักศึกษาแล้วเข้าใช้ห้องสมุดได้เลยค่ะ ห้องสมุดกว้างและโปร่งมาก เหมาะกับการอ่านหนังสือในที่สงบๆจริงๆค่ะ

ห้องสมุดสามารถใช้ได้ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.20 น. – 20.00 น. และวันเสาร์ เวลา 9.20 น. – 17.00 น. ค่ะ

028 029 030 031

ต่อไปมาดูโรงอาหารของมหาวิทยาลัยบ้างค่ะ

โรงอาหารตั้งอยู่ที่อาคาร 4 มีด้วยกัน 2 ชั้นค่ะ ในโรงอาหารมีร้านอาหารให้เลือกหลากหลายเหมือนกัน โดยสามารถซื้อคูปองอาหารที่เครื่องซื้อคูปอง และนำคูปองนั้นไปยื่นที่ร้านที่เราต้องการซื้อได้เลยค่ะ และยังมีตู้กดน้ำบริการด้วยค่ะ

032 033

034

นอกจากนี้ก็มีร้านสะดวกซื้อชื่อ Marine Box ขายขนมของว่าง เบนโต หนังสือ อุปกรณ์การเรียน ฯลฯ ด้วยค่ะ

035

ที่โรงอาหารนี้ ก็ยังสามารถทานอาหารไปด้วยชมวิวทะเลไปได้ด้วยเหมือนกันนะคะ ชิวมากกกกกกกก ><

036 037

ต่อไปเป็นโรงยิมและห้องฟิตเนสค่ะ

จะอยู่ในอาคารโรงยิมอาคาร 6 ก่อนจะเข้าโรงยิมจะต้องเปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าที่ใส่ในโรงยิมเฉพาะเท่านั้นด้วยนะคะ และยังมีห้องล็อกเกอร์ให้เปลี่ยนชุดด้วย ส่วนฟิตเนสก็สามารถใช้ได้วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 15.00 น.– 20.00 น. ค่ะ

038 039 040 041

ต่อไปเป็นห้องเรียนของนักเรียนหลักสูตร Bekka หรือหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยของ Kobe International University ค่ะ

ห้องเรียนจะอยู่ที่อาคาร 8 ค่ะ ตอนที่บุษไป เห็นนักเรียนกำลังเรียนกันอย่างเคร่งเครียดมาก เลยไม่ค่อยกล้าเข้าไปรบกวนเท่าไหร่ แหะๆ

042 043 

หน้าห้องเรียนก็จะมีป้ายติดประกาศทั่วไป ไปทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมด้วยกันก็มีค่ะ ตามภาพนี่ก็พากันไปแช่ออนเซ็นที่ Arima Onsen บ่อน้ำร้อนชื่อดังของเมืองโกเบค่ะ

044

นอกจากนี้มหาวิทยาลัยก็มีสถานที่อำนวยความสะดวกแก่นักศึกษาอย่างเช่น ที่จอดจักรยาน และมอเตอร์ไซค์ด้วย และยังมีอินเตอร์เน็ท Wifi อยู่ทั่วมหาวิทยาลัยอีกด้วยค่ะ

045

 

เข้าไปเยี่ยมชมเว็บของมหาวิทยาลัยโดยตรงได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้ค่ะ
http://www.kobe-kiu.ac.jp/en/index.html

หรือถ้าใครมีคำถามก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่เจเอ็ดดูเคชั่นได้ที่
อีเมล์ ask@jeducation.com
หรือโทร 02-267-7726 ต่อ 101-104
ค่ะ

แล้วพบกับคอลัมน์แนะนำสถาบันการศึกษาต่างๆจากบุษได้ใหม่ ในโอกาสต่อไปนะคะ :)))

Tags: , ,